เรียบร้อยโรงเรียนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมฯให้เป็นนายกรัฐมนตรีไปเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยรัฐบาลคณะนี้ประกอบด้วย 19 พรรคการเมืองมีจำนวน สส.ในสภาผู้แทนราษฎร 254 คน มีโควตารัฐมนตรีให้แบ่งกันรวม 36 คน เมื่อดูจำนวนรัฐมนตรีแล้วมาจากพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลดังนี้ พรรคประชาธิปัตย์ 7 คน พรรคภูมิใจไทย 7 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 2 คน พรรครวมพลังประชาชาติไทย 1 คน พรรคชาติพัฒนา 1 คน พรรคพลังท้องถิ่นไทกับพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 1 คน และพรรคเล็กๆ 11 พรรค จะได้รัฐมนตรีช่วย 1 คน
ในขณะที่พรรคพลังประชารัฐที่รวมกลุ่ม 3 มิตรด้วยจะมีเก้าอี้รัฐมนตรีทั้งหมด 16 คนด้วยกันรวมทั้งพลเอกประยุทธ์หัวหน้ารัฐบาลปัญหาที่คณะที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองของพลเอกประยุทธ์ก็คือจำนวนเสียง สส.ในสภาฝ่ายรัฐบาลมีมากกว่าฝ่ายค้านแค่ 8 คนเท่านั้น นั่นคือ 254 ต่อ 246 มันเสี่ยงไปหน่อย ถ้าจะให้ดีฝ่ายรัฐบาลน่าจะมีประมาณ 260 เสียงต่อ 240 เสียง จะทำให้การบริหารงานการเมืองในสภาไปได้ราบรื่นมากกว่า
ซึ่งกุนซือฝ่ายรัฐบาลก็ต้องมาปรึกษากันว่ามีโอกาสไหมที่จะไปดึงคะแนนเสียงพรรคฝ่ายค้านมาเพิ่มประมาณ 6-10 เสียง เพื่อทำให้สถานะของเสียงสนับสนุนรัฐบาลในสภามีจำนวน 260 เสียงขึ้นไป ซึ่งในขณะนี้การจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีในแต่ละพรรคยังไม่สะเด็ดน้ำดีนั่นคือรายชื่อรัฐมนตรีในพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่เรียบร้อยดีเพราะ 7 เก้าอี้รัฐมนตรีทางประชาธิปัตย์นั้นต้องเป็นไปตามหลักการ คือ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ต้องมีความเป็นธรรมต้องกระจายตำแหน่งไปให้ สส.ทุกภาคโดยเท่าเทียมกันทั้ง 53 คนไม่ใช่เอาแต่พวกตัวเองอย่างที่เป็นข่าว
ตามโผรายชื่อรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการ 7 คนนั้น ประกอบด้วย นายจุรินทร์ หัวหน้าพรรคเป็นรองนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคอดีต สส.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ อดีตเลขาธิการพรรค สส.พิษณุโลก เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย นายอัศวิน วิภูศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม
ซึ่งนี่เป็นโผตามข่าวหนังสือพิมพ์แต่ก็มีเสียงค้านออกมาจาก 2 รองหัวหน้าพรรค คือ นายกรณ์ จาติกวณิช กับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ต้องการให้พรรคพิจารณาตำแหน่งรัฐมนตรีต่างๆ ให้มีการกระจายกันออกไปทุกภาคและให้ดูตามอาวุโสด้วยทำให้ต้องมีการรื้อโผรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์กันใหม่อีกครั้งก่อนจะเสนอไปให้พลเอกประยุทธ์หัวหน้ารัฐบาลดูว่าใครเป็นใครบ้างมีประวัติอย่างไรมีความรู้ความสามารถมากน้อยแค่ไหนกัน
สำหรับพรรคภูมิใจไทยนั้น 7 เก้าอี้มีการจัดวางตัวคนไว้แบบแน่นอนแล้วจะมีหลุดออกไปก็คือบางรายที่ภาพพจน์ไม่ดีทางพลเอกประยุทธ์ หัวหน้ารัฐบาลก็อาจจะพิจารณาขอให้เปลี่ยนตัวคนเข้ามาใหม่ ภูมิใจไทย ได้ 3 กระทรวงเท่า ประชาธิปัตย์ คือ สาธารณสุข, คมนาคม และการท่องเที่ยวและกีฬา โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะเป็นรองนายกรัฐมนตรีควบว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการคมนาคม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ “โกเกี๊ยะ” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
มองทางด้านดึงพรรคการเมืองใหม่จากฝ่ายค้านเข้ามาเป็นฝ่ายรัฐบาลลุงตู่ เป้าหมายที่มองกันอยู่มี 2 พรรค คือ พรรคประชาชาติ
7 เสียง หัวหน้า คือ อาจารย์วันมูหะมัดนอร์ มะทา เลขาธิการพรรค คือ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง อดีตนายตำรวจ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษและอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อีกพรรคคือพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่เดิมหัวหน้าพรรค คือ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตเคยใกล้ชิดกับ นายทักษิณ ชินวัตร ต่อมานายมิ่งขวัญได้ลาออกไปแล้ว มี นายสุภดิช อากาศฤกษ์ เป็นหัวหน้าพรรคแทน นายภาสกร เงินเจริญกุล เป็นเลขาธิการพรรค สส.อีก 3 คน คือ นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล, นางมารศรี ขจรเรืองโรจน์ และนายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์
ส่วนพรรคประชาชาตินั้นมี สส. 7 คน คือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา, นายโซการ์โน มะทา, นายกูเฮง ยาวอฮะซัน, นายกมล ลีวาเมาะ, นายอนุมัติ ชูสารอ, นายสมมุติ เบญจลักษณ์, นายอับดุลอายี ลาแม็ง 2 พรรคนี้มี สส.รวม 13 คน หากมาร่วมรัฐบาลก็จะได้เก้าอี้รัฐมนตรี 2 คน พรรคละ 1 คน แถมตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีอีกพรรคละ 1 คนด้วยก็ยังไหว วิเคราะห์กันแล้วการมาร่วมรัฐบาลย่อมดีกว่าเป็นฝ่ายค้านแน่นอนเพราะสามารถสร้างผลงานในการเล่นการเมืองต่อไปได้อีกด้วย
อยู่ที่ว่าคณะกรรมการบริหารทั้ง 2 พรรคการเมืองจะเอาอย่างไรในเมื่อโอกาสมีมาถึงมือแล้วไม่เอาก็น่าเสียดายโอกาส ส่วนเรื่องที่จะบอกว่าเป็นงูเห่าก็ไม่น่าจะใช่เพราะนี่คือพรรคการเมืองของพวกเขาเองแท้ๆ แถมนายใหญ่ก็ไม่ได้ควักเงินทุนมาช่วยเหลือแต่อย่างใดทั้งสิ้น ถ้าจะย้ายข้างมาสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ได้ผิดแต่ประการใด
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี