ปัญหาสภาวะเอลนีโญยังผลให้ประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็นเมียนมา, จีน, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, กัมพูชา และเวียดนาม ต่างประสบปัญหาฝนแล้งและฝนทิ้งช่วงถึงขั้นไม่มีน้ำจะใช้ในการบริโภคโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือน้ำ ในแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำโขง, แม่น้ำชีและแม่น้ำมูล เกิดน้ำแห้งขอดโดยเฉพาะน้ำในแม่น้ำโขงเกิดลดระดับลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องแม้จะเป็นฤดูฝน เป็นภาวะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 60 ปี ไม่ได้มีสาเหตุทางธรรมชาติจากปริมาณฝนตกที่น้อยลงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่เนื่องจากเขื่อนของจีนได้ลดการระบายน้ำและการทดสอบเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เขื่อนไซยะบุรี ใน สปป.ลาว ที่ตั้งอยู่ห่างจาก อ.เชียงคาน จ.เลยประมาณ 200 กิโลเมตร เป็นเหตุที่ทำให้สถานการณ์ของระดับน้ำในแม่น้ำโขงอยู่ในขั้นวิกฤตินอกจากนี้มีภาวะแม่น้ำโขงตอนบนของไทยช่วงที่ไหลผ่าน3 อำเภอ ของ จ.เชียงราย ต่อเนื่องมาจากเมียนมาและสปป.ลาว ก็ลดระดับลงอย่างมากเป็นสภาพความผันผวนของแม่น้ำที่ประชาชนไทยที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขงพบกับความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มา 20 ปีแล้ว
เพราะผลกระทบกระเทือนมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขง 10 เขื่อน คือ วุ่นอองหลง, หวงเติ้ง, เมียวเหว่ย, เสี่ยวหว่าน,
ต้าเฉาซาน, จิ่งหง, ต้าหัวเฉียว, กงกว่อเฉียว, ม่านวาน และนัวจาตู้ ทำให้มีน้ำไหลจากแม่น้ำโขงน้อยลงในขณะที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมีการสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขง 9 เขื่อน คือ เขื่อนไซยะบุรี, หลวงพระบาง,กันหลั่นป้า, ปากแบ่ง, ปากลาย,สะนะคาม, ปากชม, ภูงอย และบ้านกุ่ม อีกประเทศที่สร้างเขื่อนในแม่น้ำโขงคือกัมพูชา มีเขื่อนรวม 4 แห่ง คือซำบอ, สตึงเตร็ง, ดอนสะโฮง และเซซาน
ผลกระทบที่เกิดจากการลดลงของน้ำในแม่น้ำโขงและเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะฝนแล้งและมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นอีก ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้อธิบายว่าปัจจัยที่ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลงอย่างมากเป็นประวัติการณ์เกิดจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาน้อยกว่าปกติทั้งในจีน ลาว และไทย อีกปัจจัยหนึ่งได้แก่ เขื่อนจิ่งหง ที่กั้นแม่น้ำโขงในจีนได้ลดระดับการระบายน้ำซึ่งทางจีนได้แจ้งอย่างเป็นทางการมายังไทยว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงการระบายน้ำในช่วงเดือนก.ค.
เนื่องจากการดำเนินการบำรุงรักษาสายส่งไฟฟ้าโรงผลิตไฟฟ้าพลังน้ำปัจจัยสุดท้ายที่กระทบต่อแม่น้ำโขงโดยตรงคือการทดสอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของเขื่อนไซยะบุรีของลาวยังผลให้แม่น้ำมีน้ำน้อยผิดปกติในพื้นที่จังหวัดหนองคาย, บึงกาฬ, นครพนม และมุกดาหารเมื่อเกิดผลกระทบ ทางประเทศไทยได้ทำหนังสือด่วนผ่านไปยังคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติลาว เพื่อให้ลาวชะลอการลดปริมาณน้ำออกไปเพื่อรอให้้น้ำที่ระบายเพิ่มขึ้นจากเขื่อนจิ่งหง ไหลลงมาถึงก่อนล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ลาวได้เริ่มระบายน้ำจากเขื่อนไซยะบุรี เพื่อใช้ในการปั่นกระแสไฟฟ้าตามปกติ
ส่วนจีนได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำกลับมาในปริมาณเท่าเดิมแล้วแต่ยังคงน้อยกว่าช่วงเดือนมิ.ย.นี้ ทางประชาชนไทยคือกลุ่มอนุรักษ์เชียงราย ได้ออกมาระบุว่าโครงการระเบิดแก่งในแม่น้ำโขงของจีน ยังไม่ยุติทำให้มีปัญหาทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงช่วงฤดูน้ำหลากมีระดับต่ำสุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมาในรอบ60 ปี โดยลดลงต่ำกว่าค่าระดับสุดในอดีต ประชาชนไทยได้กล่าวว่ารัฐบาลเกรงอกเกรงใจชาติมหาอำนาจอย่างจีนมากจนเกินไปเพราะเขื่อนจีนลดระบายน้ำที่ไหลมายังแม่น้ำโขงตามธรรมชาติ
แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำที่เป็นทรัพยากรร่วมกันหลายประเทศ การก่อสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง การกักเก็บ เพิ่ม หรือลดการระบายน้ำ จึงส่งผลกระทบต่อพื้นที่ของประเทศอื่นที่แม่น้ำโขงไหลผ่าน สถานการณ์แม่น้ำโขงระยะนี้ เกิดขึ้นใน 2 พื้นที่ของไทย ในช่วง จ.เชียงราย ได้รับผลกระทบจากเขื่อนจิ่งหงอยู่ห่างจากไทย 340 กิโลเมตร และผลกระทบจากการทดสอบเขื่อนไซยะบุรี ซึ่งกั้นแม่น้ำโขงและอยู่ห่างจากแม่น้ำโขงของไทย 195 กิโลเมตร เป็นที่มาของวิกฤติน้ำแห้งในแม่น้ำโขงน้ำในแม่น้ำโขงลดระดับอย่างรวดเร็วทำให้สัตว์น้ำหนีลงแม่น้ำสาขาไม่ทัน
การที่แม่น้ำโขงแห้งอย่างรวดเร็วเกิดจากทดสอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของเขื่อนไซยะบุรีเนื่องจากการผลิตไฟฟ้าเพื่อขายในเชิงพาณิชย์ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จะกำหนดเริ่มต้นในเดือนต.ค. 2562 การแก้ปัญหาน้ำในแม่น้ำโขงแห้งขอดคงต้องมีการแก้ไขปัญหาจากฝ่ายรัฐบาลไทย
ที่นำโดยนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ต้องเจรจากับมิตรประเทศอย่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวให้ได้ผลดีด้วยกันทั้ง 3 ประเทศ ในอนาคตอันใกล้นี้ต่อไป
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี