หนังสือพิมพ์แนวหน้า “จรรยาบรรณ” หนักแน่น อุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ฟังฝ่ายค้านตั้งกระทู้สดถามรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปากท้องของพี่น้องประชาชน แต่ไปๆ มาๆ จะกลายเป็นอภิปรายไม่ไว้วางใจโจมตีรัฐบาลไปเสียแล้ว...
nn เหรียญมีสองด้าน สองสามวันที่ผ่านมาเงินก็ไหลบ่าเข้าบัตรคนจน ตั้งแต่เช้าเราจะเห็นประชาชนจำนวนมากยืนเข้าแถวกดเงินจากตู้เอทีเอ็มแบงก์กรุงไทยยาวเหยียด โปรโมชั่นลุงตู่ส่งตรงถึงมือคนจนระหว่างเดือนสิงหาคม และกันยายนนี้ คนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับเงินเพิ่มจาก 300 บาท เป็น 500 บาท ส่วนผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปถือบัตรคนจนจะได้รับรายละ 1,000 บาท แต่ดูเหมือนว่า แต่ละเดือนจะเกิดปัญหามิใช่น้อย โดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่ที่กดตู้เอทีเอ็มไม่เป็นต้องให้ผู้อื่นกดแทน บางรายเจอวายร้ายอาสากดเงินให้สุดท้ายก็เชิดเงินไปเฉย อย่างคุณปู่คนหนึ่งอายุ 81 ปี ไปกดเงินเพื่อรับโปรโมชั่นลุงตู่ 1,000 บาท แต่กลับมีเงินโอนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแค่ 800 บาท จึงทำให้เกิดคำถามว่า ส่วนต่าง 200 บาทหายไปไหน????...
nn ใครจะว่านโยบายถลุงงบ “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำสายไหน” อย่างไรก็แล้วแต่ “ไม้หน้าสาม” เห็นว่า นี่คือนโยบายที่ช่วยเหลือคนยากจนได้ตรงจุด และถึงมือคนจนอย่างแน่นอน แต่ควรอุดช่องว่างช่องโหว่ ที่สำคัญพวกเศรษฐีมีอันจะกินเห็นแก่ตัวร่วมเกาะหางนาค รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นั่งรถเบนซ์มากดเงินจากบัตรคนจนก็มีให้เห็น ดูแล้วช่างหดหู่ใจ...
nn เอากันตรงๆ ด้วยสามัญสำนึกและด้วยจิตสำนึกให้เช่า “ยุทธการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือ “บัตรคนจน” น่าจะสร้างความหายนะทางเศรษฐกิจและสังคมน้อยกว่าครั้ง พรรคไทยรักไทย ภายใต้การนำของบุรุษหน้าเหลี่ยมมหาโจรนาม “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ออกนโยบายประชานิยม ตั้ง “กองทุนหมู่บ้าน”...
nn กองทุนที่ตั้งขึ้นโดยอ้างว่าเป็นแหล่งเงินทุน สำหรับการลงทุนให้เกิดศักยภาพความเข้มแข็งของประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนเมือง ส่งเสริม-พัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้มีขีดความสามารถ เสริมสร้างกระบวนการพึ่งพาตัวเองของหมู่บ้านและชุมชนเมือง รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก โดยกำหนดไว้หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท กองทุนที่ตั้งขึ้นโดยอ้างว่าเป็นแหล่งเงินทุน สำหรับการลงทุนให้เกิดศักยภาพความเข้มแข็งของประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนเมือง ส่งเสริม-พัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้มีขีดความสามารถ เสริมสร้างกระบวนการพึ่งพาตัวเองของหมู่บ้านและชุมชนเมือง รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก โดยกำหนดไว้หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท ตอนนั้นใช้เงินกู้ราว 100,000 ล้านบาท ทว่าได้รับการชำระคืนตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปี 2549 ตลอดระยะเวลาการบริหารประเทศ เป็นเงิน 60,254 ล้านบาท ข้อมูลนี้มีที่มามาจาก “สำนักงานกองทุนหมู่บ้านแห่งชาติ”เงินภาษีประชาชนที่เทลงไปหายไปเท่าไหร่ท่านผู้ทรงเกียรติ ขี้ข้าโจรหน้าเหลี่ยมที่ชูคอสลอน ณ เพลานี้ช่วยชี้แจงทีจะได้ไหม...
nn หรืออย่างกรณีในยุคสมัย “นารีขี่ม้าขาว-น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” สาวไบโพลาร์ ที่ออก “นโยบายรับจำนำข้าวทุกเม็ด” จนเกิดช่องว่างให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นมหาศาลสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติสูงถึง 7-8 แสนล้านบาท คำถาม ประชาชนคนรากหญ้าได้ประโยชน์มั่งคั่งยั่งยืน จริงหรือไม่ จะโจมตีวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ ทางการเมือง ล้วนเป็นเรื่องดี ที่น่ากระทำหากเกิดผลประโยชน์แท้จริงต่อประชาชน หากสามารถทำให้คนเหล่านั้นลืมตาอ้าปาก ได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน...
nn เช่นเดียวกับสถานการณ์ไฟใต้ที่ลุกโชนขึ้นมาอีกระลอกหลังจากที่นายกฯตู่ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ไม่กี่วันยะลาก็เกิดเหตุลอบวางระเบิดป่วนเมืองหลายจุดส่งผลให้เด็กเล็กได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพี่น้องชาวมุสลิม นี่คือใบเสร็จแสดงให้โลกรู้ว่า สิ่งที่โจรบาปปฏิบัติการป่วนเมือง มันไม่มีอุดมการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ใช่สงครามศาสนาล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะมีการทำลายเด็กผู้บริสุทธิ์ไม่เลือกพุทธ-มุสลิม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนว่าไง สส.ในพื้นที่ว่าไง เงียบเป็นเป่าสาก!!! สส.ผูกขาดอย่างวันมูหะมัดนอร์ มะทา คิดอ่านการใดกับเรื่องราวเหล่านี้ ในฐานะสส.พื้นที่ หรือถือว่าเฒ่าชะแลแก่ชราแล้วปากมีไว้พูดเรื่องที่เป็นผลประโยชน์แก่พวกในพื้นที่กับพวกที่หนีคดีไปเสวยสุขในพื้นที่มุสลิมจะดีกว่า มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องแสดงท่าทีชัดเจนกับโจรชั่ว หรือจะออกมาปกป้องแหกปากด้วยเหตุผลว่าด้วย... “สิทธิมนุษยชน” แล้วลูกหลานผู้บริสุทธิ์ที่ต้องสังเวยชีวิตไปกับความป่าเถื่อนเช่นนี้ ไม่เห็นมีสส.หรือนักสิทธิมนุษยชนหน้าไหนออกมาแสดงความเห็นบ้างเลย เศร้าและวังเวงสิ้นดี...
nn ขอให้เป็น “ผู้นำฝ่ายค้านไปนานๆ” เสียงอวยพรออกจากปาก “สุชาติ ตันเจริญ” เจ้าของฉายา “ตี๋กร่าง” รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่งในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ชุดปัจจุบัน ดังขึ้นหลังจาก “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ได้รับโปรดเกล้าฯเป็น “ผู้นำฝ่ายค้าน” การอวยพรของสุชาติ อย่าคิดลึกว่าเป็นการแดกดัน เพราะสองผู้ยิ่งใหญ่บนถนนทางการเมืองนี้ เป็นเกลอกันมาช้านาน สมพงษ์ไปมาหาสู่บ้านริมน้ำของสุชาติบ่อยครั้ง แม้ผู้นำฝ่ายค้านจะบอกว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านมีเอกภาพจะไม่เกิดสถานการณ์กองทัพงูเห่าแหกกฎโหวตหนุนรัฐบาลลุงตู่ก็ตามที แต่พอถามถึงกรณีสส.สุรินทร์ที่แห่แหนไป ต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ในการลงพื้นที่จ.สุรินทร์ สมพงษ์ก็ออกตัวล้อฟรีว่า ผู้แทนฝ่ายค้านก็คงพูดเอาใจ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อของบประมาณ กลอนพาไป ก็คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่ากลอนสส.สุรินทร์จะพาไปรินสุราฉลองชัยงบประมาณที่นายกฯตู่หว่านลงพื้นที่จนผลิดอกออกผลโหวตหนุนรัฐบาลในอนาคตอันใกล้นี้หรือไม่...
nn แม่บ้านองค์กรอิสระ ใกล้เกษียณ อาศัยจังหวะช่วงสุญญากาศทำตัวเป็นกรรมการเสียเอง เดิมวางแผนสืบทอดทายาทอสูร ด้วยการแก้ไขระเบียบการสรรหาแม่บ้าน จากเดิมต้องดำรงตำแหน่ง “รองแม่บ้าน” ไม่น้อยกว่า 1 ปี จะขอให้กรรมการแก้ไขโดยลดระยะเวลาเหลือไม่ถึงปี เดชะบุญกรรมการเห็นตัวอย่างจากปีที่แล้ว เคยดึงเวลาให้ “แม่บ้านคนปัจจุบัน” มีอายุงานรองแม่บ้านครบ 1 ปี ได้ลงสมัคร แต่พอเข้ารับตำแหน่งแล้วจากตัวลีบกลับทำตัวพองเป็นอึ่งอ่าง กรรมการจึงเห็นกำพืดที่แท้จริงว่าเป็นคนปากหวานก้นเปรี้ยว และเป็นพวกนาโต คือ “โนแอ๊กชั่น ทอล์กโอนลี่” อะไรทำแล้วสร้างข่าวก็รีบเร่งทำ เพื่อหวังจะหาหนทางสืบสานขึ้นชั้นนั่งเก้าอี้กรรมการต่อในสมัยหน้า ทว่าต้องตกกระป๋องมา 2 รอบ กรรมการองค์กรอิสระต้นสังกัดพอรู้ทันเกมตั้งทายาทอสูรเลยปฏิเสธทันควัน ให้เดินหน้าใช้ระเบียบตัวเดิม กระจอกข่าวสืบไปสืบมาถึงต้นตอของประดาทายาทอสูร เลยถึงบางอ้อว่าเป็นพลพรรคของ “ก๊วนหมอชนบท” ของ (นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ และพวก “แก๊งสามพราน” ของหมอประเวศ วะสี หมอมงคล ณ สงขลา) ที่มาปักหลักเป็นแม่บ้านคนแรก แล้วบริหารงานแบบไร้ระเบียบ สร้างความโกลาหลวุ่นวายจนโดนไล่ตะเพิดออกจากเก้าอี้ 2 ครั้ง 2 ครา มาถึงตอนนี้หวังจะฟื้นคืนชีพ ขอให้สังคมช่วยกันจับตา...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี