ข่าวการก่อสร้างอาคารที่ตั้งรัฐสภาแห่งใหม่ที่สี่แยกเกียกกาย ถนนสามเสน และถนนทหาร เขตดุสิตกรุงเทพมหานคร กลับมาเป็นที่สนใจของวงการสื่อสารมวลชนอีกครั้งหนึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนปัจจุบันในฐานะประธานรัฐสภาได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงบิ๊กข้าราชการ คือ นายสรศักดิ์เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งผู้กล่าวหาคือนายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์
รัฐสภาแห่งใหม่ที่กำลังใกล้จะสร้างเสร็จสมบูรณ์100% มีชื่อเป็นทางการว่าสัปปายะสภาสถานอยู่ในพื้นที่ดินราชพัสดุ กรมธนารักษ์ จำนวน 123 ไร่ เป็นที่ตั้งอาคารประมาณ 50 ไร่ กำหนดแล้วเสร็จในปี 2562 นี้ หลังจากล่าช้ามาจากกำหนดเดิมประมาณ 3 ปี เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วก็จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2563 ต่อไป
สำหรับการสอบสวนข้อเท็จจริงนายสรศักดิ์นั้นคณะกรรมการได้ออกหนังสือเชิญนายวัชระ เพชรทอง ผู้กล่าวหา ไปให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการในวันที่ 8 พฤศจิกายน เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมผู้บริหาร 1503 ชั้น 15 อาคารสุขประพฤติ ถ.ประชาชื่นเขตบางซื่อ กทม. โดย นายวัชระ ได้ทำหนังสือร้องเรียนต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมการรวม6 คน โดยมี นายนัฑ ผาสุข เป็นประธานกรรมการนางนงนุช เศรษฐบุตร นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์เป็นกรรมการ นายกฤษณะ จ้วงสินธุ์เป็นเลขานุการ น.ส.วิภารัตน์ ถมยาและนายโสภณ ชาตบุษย์จารุ เป็นช่วยเลขานุการ
ข้อร้องเรียนที่นายสรศักดิ์ถูกกล่าวหาว่ามีการกระทำผิดวินัยร้ายแรงนั้นเช่น มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศข้าราชการสตรีที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชานอกจากนี้มีข้อสงสัยว่าจะมีการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนในโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่โดยมีการขยายระยะเวลาการก่อสร้างที่ไม่แล้วเสร็จตามสัญญาโดยไม่เสียค่าปรับ อีกทั้งยังปล่อยปละละเลยเกี่ยวกับการสั่งจ้างจัดทำแบบจำลองอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ทองคำซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากของชาติ แต่ไม่เร่งรีบแก้ไขให้แล้วเสร็จโดยนายสรศักดิ์อยู่ในตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรนานถึง 3 ปี ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวทั้งหมดนี้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทางราชการและประเทศชาติ
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น นายวัชระ เพชรทอง ได้เดินทางยื่นหนังสือต่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กรณีที่อาจจะกระทำการแทรกแซงระบบราชการหรือไม่ โดยนายวัชระกล่าวว่า เรื่องที่ตนร้องเรียนประกอบด้วย 3 เรื่อง คือ 1.การคุกคามทางเพศต่อผู้ใต้บังคับบัญชา โดยส่งไลน์ในลักษณะชู้สาวหรือไม่ทั้งนี้ตนยังได้ยื่นหนังสือถึง นายพิทูร พุ่มหิรัญ ประธานคณะกรรมการจริยธรรม ข้าราชการรัฐสภา เพื่อขอให้สอบสวนกรณีนี้อีกด้วย
นายวัชระกล่าวด้วยว่าน่าจะปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและอาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน จากการเลื่อนขั้นและตำแหน่งให้แก่ภริยาตามกฎหมายเป็นเวลา 3 ปี จำนวน 6 ครั้ง ครั้งละ3.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าสูงกว่าข้าราชการทั่วไปหรือไม่ นอกจากนี้ ยังเลื่อนขั้นให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีความสัมพันธ์ชู้สาวโดยเลื่อนขั้น3 เปอร์เซ็นต์ ทั้งๆ ที่หัวหน้างานประเมินไม่ถึงซึ่งเป็นการเอาเปรียบหรือไม่ และกรณีที่จะมีการรับตำแหน่งรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 3 ตำแหน่ง และที่ปรึกษานิติบัญญัติอีก 2 ตำแหน่ง รวมเป็น 5 ตำแหน่งนั้น
ปรากฏว่ามีการแทรกแซงจากอดีตสภานิติบัญญัติแห่งชาติบางท่านถือว่าไม่มีธรรมาภิบาลในการทำงานหรือไม่ ดังนั้นตนจึงมายื่นหนังสือต่อกรรมาธิการเพื่อขอให้ตรวจสอบทั้ง 3 กรณีด้วยรวมทั้งส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนและลงโทษต่อไป อย่างไรก็ตาม นายวัชระยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งส่วนตัวเพียงแต่ต้องการให้ผู้ที่กระทำความผิดได้รับการลงโทษ
เป็นที่ทราบดีว่าการก่อสร้างอาคารสัปปายะสภาสถานแห่งนี้มีปัญหาความล่าช้าในการก่อสร้างหลายปีแต่มีการขยายสัญญาออกมาให้บริษัทผู้ก่อสร้างถึง 2 ครั้ง 2 คราว เป็นระยะเวลารวมกัน 1,095 วัน โดยครั้งแรกเป็นเวลา 421 วัน และครั้งที่สองเป็นเวลา 674 วัน ซึ่งช่วงนั้นเป็นข่าวใหญ่มีผู้สงสัยมากเพราะเหตุผลประกอบในการขอต่อสัญญาที่ไม่ค่อยจะเหมาะสมอาจจะมีการเอื้อประโยชน์ให้แก่ใครอย่างไรหรือไม่เป็นเรื่องที่ผู้บริหารของรัฐสภาต้องทำความจริงให้ปรากฏออกมาและอีกประการก็คือทำไมไม่มีการพักราชการผู้ถูกกล่าวหาหรือต้องรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนจนถึงขั้นมีการชี้มูลความผิดออกมาแล้วถึงต้องออกคำสั่งซ้ำอีกครั้งนั่นคือการให้พักราชการ
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี