สิ่งหนึ่งที่ “บริวาร” ของ “นายทักษิณ ชินวัตร”มีเหมือนกันประการหนึ่ง คือ ขาดความสามารถในการแยกแยะ ทั้งการแยกแยะถูกผิด ดีชั่ว ควรและไม่ควร
1) นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการวิจารณ์เรื่องการเชิญอดีตนายทักษิณ ชินวัตร เข้าร่วมหารือกับทีมไทยแลนด์ เพื่อหาแนวทางแก้ไขมาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกา ที่บ้านพิษณุโลก เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า
...เรื่องนี้ทุกฝ่ายควรพิจารณาโดยวางอคติส่วนตัว อคติทางการเมืองต่างๆ ออกไปก่อน แล้วมองกันที่ข้อเท็จจริง การที่รัฐบาลหรือรัฐมนตรีเชิญบุคคลภายนอกเข้าปรึกษาหารือนั้นเป็นเรื่องปกติมากสำหรับทุกรัฐบาลในโลกที่ต้องการหาแนวทางที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน อีกทั้งขณะนี้ปัญหาเรื่องมาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลกำลังพยายามเร่งแก้ไข
...ในอดีตซึ่งประเทศไทยเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่วิกฤตต้มยำกุ้ง ซึ่งสร้างผลกระทบให้กับคนไทยอย่างหนัก รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น นำโดยนายชวน หลีกภัย
และมีนายศุภชัย พานิชภักดิ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ก็เคยเชิญคนชื่อทักษิณ ชินวัตร เข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ช่วยเหลือรัฐบาลในการเจรจาทางการค้ากับประเทศออสเตรเลียมาแล้ว
นายดนุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยเวลานี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาของการเผชิญหน้ากับความท้าทายหลายเรื่อง การที่เรามีบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และที่สำคัญ คือมีประสบการณ์โดยตรงในการนำพาประเทศชาติหลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่มาได้ เคยทำให้ประเทศไทยมีความหวังในการหลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง เราก็ควรใช้ความรู้และประสบการณ์ของท่านมาเป็นส่วนประกอบในการพิจารณาแก้ไขปัญหาในขณะนี้ การที่เรามีบุคคลแบบนี้อยู่ แต่ไม่คิดที่จะใช้ความรู้ความสามารถของเขาเข้ามาช่วยประคับประคองสถานการณ์เศรษฐกิจไทยเวลานี้เลย ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากกว่า
2) ชัดเจนว่า นายดนุพรยังคงมอง “ทักษิณ”แค่ความเป็น “อดีตนายกรัฐมนตรี” เป็น “นายเหนือหัวจนลืมไปว่า ปัจจุบันนายทักษิณคือ จำเลยในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ศาลกำลังพิจารณาคดีอยู่, นายทักษิณยังเป็นผู้ต้องคำพิพากษาจำคุกรวม 8 ปี จากคดีที่เป็นเรื่องของการทุจริต คดโกง ประเทศชาติ ใช้อำนาจในทางมิชอบทั้งสิ้น เขาจึงไม่ใช่แค่ “อดีตนายกรัฐมนตรี” แต่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ที่เอาอำนาจความเป็นนายกฯ ไปแสวงประโยชน์อย่างปราศจากความยำเกรงต่อกฎหมายและศีลธรรม คนเช่นนี้ ไม่ใช่คนที่ประเทศชาติจะต้อง “ให้เกียรติ” อีกต่อไป
3) นายทักษิณเป็น “บิดาของนายกรัฐมนตรี” คนปัจจุบัน ที่ชื่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แม้จะอยู่ในช่วงต้องคำสั่งศาลให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว รองนายกรัฐมนตรีที่รักษาราชการแทนนายกฯ ในตอนนี้ ก็เป็นบริวารตัวเอ้ของนายทักษิณ หัวหน้าคณะเจรจาภาษีทรัมป์ ก็เช่นเดียวกัน ถ้าคนเหล่านี้ต้องการคำแนะนำจากนายทักษิณ พวกเขาสามารถทำได้ทันที ทำที่ไหนก็ได้ แต่ทำไมเลือกทำให้เอิกเกริกด้วยการเชิญไปที่บ้านพิษณุโลก มีการต้อนรับและส่งขึ้นรถ เป็นอีเว้นท์ที่ต้องการให้เป็นข่าว ให้ความสำคัญ และสร้างภาพให้ทักษิณใช่หรือไม่ เหมาะควรเพียงใด
4) ส่วนประเด็นนายชวน หลีกภัย เคยเชิญนายทักษิณไปให้คำปรึกษานั้น นายดนุพร ก็ลืม “สำเหนียก” ว่า ทักษิณในวันนั้น กับทักษิณในวันนี้ มีสถานภาพและบริบทแวดล้อมต่างกันอย่างมากมาย ทักษิณในวันนั้นยังไม่ได้ชื่อว่า “คนโกงชาติ” แต่วันนี้ มีคำพิพากษาศาลชี้ชัดแล้ว แถมอยู่ระหว่างการถูกไต่สวนว่า ได้ติดคุกจริงติดคุกครบตามคำพิพากษาศาลหรือไม่อีกด้วย อย่างไรก็ตาม มีคนออกมาปฏิเสธเรื่อง อดีตนายก “ชวน หลีกภัย” เคยเชิญนายทักษิณมาให้คำปรึกษามากมาย
5) นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงในอดีต สมัยที่เกิดปัญหาเศรษฐกิจวิกฤตต้มยำกุ้งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะนั้นนำโดย นายชวน หลีกภัย และมี นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ก็เคยเชิญคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร เข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ช่วยเหลือรัฐบาลในการเจรจาทางการค้ากับประเทศออสเตรเลียมาแล้วนั้นว่า คำพูดของโฆษกพรรคเพื่อไทย ล้วนแล้วแต่เป็นความเท็จทั้งสิ้น โกหกพี่น้องประชาชนพยายามปั้นข้อเท็จจริงมารองรับการกระทำของเจ้านาย เพราะตามข้อเท็จจริงแล้ว ในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ไม่เคยเชิญนายทักษิณ ชินวัตร มาเพื่อขอความช่วยเหลือรัฐบาลในการเจรจาทางการค้ากับประเทศออสเตรเลีย
นายราเมศ กล่าวว่าในช่วงนั้นทั้งตัวนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เป็นทีมเศรษฐกิจ เรียกว่าเป็น ครม.ดรีมทีม เช่น ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ทุกคนล้วนมีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์ ทำงานยึดหลักความสุจริตต่อบ้านเมือง ยึดหลักธรรมาภิบาล ทุกคนที่ร่วมกันทำงาน ไม่ได้เข้ามาทำงานโดยยึดหลักธุรกิจการเมือง ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้การแก้ไขปัญหาประสบความสำเร็จ จนนำไปสู่การให้ความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ดังนั้นการที่รัฐบาลขณะนี้ได้เชิญนายทักษิณ ชินวัตร มาร่วมให้คำปรึกษา ทำงานกับรัฐบาล ทุกคนไม่ค่อยแปลกใจเพราะนายทักษิณคือนายกรัฐมนตรีตัวจริง และแม้ว่าจะพูดอยู่เสมอว่าเขาไม่ได้ครอบงำรัฐบาลแต่เขาครอบครองรัฐบาล ถือว่ามีความหมายชัดเจนในตัวเอง รวมถึงพฤติกรรมที่บอกว่าเรื่องนี้ตนได้สั่งการแล้วให้ไปจัดการนั้น จึงต้องถามว่าทำไปในฐานะอะไร และที่น่าละอายใจจนทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย คือตัวนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจกลับไม่มีสติปัญญา ไม่มีความรู้ความสามารถถึงขนาดนั้นเลยหรือ เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็ควรลาออกไปเพื่อให้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหารประเทศจะดีกว่า
นายราเมศ กล่าวต่อไปอีกว่า ประเด็นเหล่านี้องค์กรที่เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาเช่นกันว่าการกระทำของนายทักษิณมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ รัฐบาลมาจากพรรคการเมือง ซึ่งมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนหลักการดำเนินการทางการเมือง และนโยบายหลักคิดในการบริหารบ้านเมืองก็ล้วนมาจากพรรคแกนนำด้วย การที่ยอมให้บุคคลอื่นคือนายทักษิณมาครอบงำ ชี้นำการบริหารกิจการของบ้านเมือง โดยขาดความอิสระ ทำให้ประชาชนเห็นความชัดเจนว่าเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย และโดยหลักการของพระราชบัญญัติบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มีมาตราไหนให้อำนาจบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมาบริหารราชการแผ่นดินแทนนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ได้
เขากล่าวด้วยว่าโฆษกพรรคเพื่อไทยควรสอบถามข้อมูลให้ชัดเจนก่อนออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่น เว้นแต่รู้อยู่แล้วว่าไม่เป็นจริงแต่มาแถลงข่าวเพื่อโกหกพี่น้องประชาชนไปรายวัน
6) นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ ติ๊งต่าง อดีตแม่ยกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เพิ่งเห็นข่าวที่นายดนุพร ปุณณกันต์ (สส.เพื่อไทย) บอกสมัยวิกฤตต้มยำกุ้ง รบ.ปชป.สมัยคุณชวนเคยเชิญทักษิณให้ช่วยเจรจาการค้ากับออสเตรเลีย #อ่านแล้วสมเพชดนุพร ขอบอกนายดนุพรเพื่อประเทืองปัญญานะ
รัฐบาลสมัยคุณชวนไม่จำเป็นใดๆที่จะต้องไปขอความช่วยเหลือจากนายทักษิณ เพราะบุคลากรของพรรคปชป.(สมัยนั้น)มีคุณภาพ (ล้นแก้ว) เช่น
1. นายธารินทร์ นิมานเหมินทร์ - จบการศึกษาปริญญาตรีจาก Harvard โท จาก Stanford เป็นรมว.คลัง สมัยคุณชวน ได้เป็นคนแก้วิกฤตเศรษฐกิจประเทศจนระบบการเงินของประเทศเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ
2. ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม - ได้รับทุนการศึกษาจากธนาคารแห่งประเทศไทยไปเรียนจนจบปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์จาก Eramus university เคยเป็นรมช.คลัง สส.บัญชีรายชื่อปชป.
3. ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ จบการศึกษาปริญญาเอกจาก Erasmus university ด้านเศรษฐศาสตร์ เคยเป็นรมช.คลัง รมว.พาณิชย์ - อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก
4. ดร.สาวิตต์ โพธิวิหค จบจาก Harvard เคยเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายก
แค่นี้ชัดเจนไหมว่าบุคลากรสมัยคุณชวนเป็นนายกฯมีคุณภาพพอไหม แล้วทำไมจะต้องไปขอคำปรึกษาจากนายทักษิณ #ดังนั้นสรุปได้ว่าไม่มีความจำเป็นอย่างใดที่คุณชวนจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากนายทักษิณ นายดนุพรควรไปหาความรู้รอบตัวอ่านเพิ่มเติม ก่อนที่จะมาเชลียร์นาย
7) นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Sutin Wannabovorn ระบุข้อความว่า ผัวนางเอกดาวพระศุกร์กล่าวว่า รัฐบาลชวนเคยเชิญทักษิณเข้าทำเนียบเพื่อขอให้ช่วยเจรจากับออสเตรียเลีย ขอปฏิเสธว่าสองสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัยไม่เคยเชิญทักษิณเข้าทำเนียบ พบกันบ้างตอนทักษิณแย่งตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ มาจากประสงค์ สุ่นศิริ
Mr.clean of Asia ไม่เคยให้ค่าและรังเกียจนักธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ปล้นชาติพยายาทสถาบัน นายชวน วิจารณ์ความผิดพลาดของทักษิณถูกฟ้องแต่ชนะคดีทุกครั้ง ระหว่างนายชวน หลีกภัย เป็นหัวหน้าพรรคปชป.สู้กับทักษิณสามคดีนายชวนชนะตลอด
สรุป : การทำหน้าที่โฆษกของนายดนุพรคราวนี้ จึงมีบทสรุปว่า โกหกและเชลียร์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่มีคำโต้ตอบใดจากนายดนุพรเลย!!
จิตกร บุษบา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี