“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” ยึดมั่น “จรรยาบรรณ-อุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” สะกิดคอการเมืองห้ามกะพริบตาการเมืองเริ่มเข้าสู่ประเด็นน่าสนใจมากขึ้น...
nn เริ่มจากเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา “นายหัวชวน หลีกภัย”ประธานสภาผู้แทนราษฎร วางปมซ่อนเงื่อน เรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มอีก 1 วัน “วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2562” ก็ต้องมาดูกันว่า วาระด่วนที่จะถูกบรรจุให้นำเข้าพิจารณาในวันศุกร์นี้ใช่ “ญัตติการพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน พ.ศ.2560” หรือไม่อย่างไร เพราะนี่ก็คือเผือกร้อนชิ้นหนึ่งเหมือนกัน จนถึงวินาทีนี้ยังไม่มีการเคาะอย่างชัดเจนจากซีกพรรคร่วมรัฐบาลว่า ใครจะมานั่งเป็นประธานกรรมาธิการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อคุมเหล่า “ส่ำสัตว์และฝูงเดรัจฉาน” ให้พิจารณาแก้ไขอยู่ในกรอบที่ควรจะเป็น...
nn แต่ก่อนที่จะไปลุ้นเผือกร้อนในวันศุกร์ “เผือกร้อน”อีกชิ้นหนึ่งที่ต้องลุ้นกันตัวโก่ง หลังจากที่สัปดาห์ที่ผ่านมาประดา “ผู้เฒ่ากะโหลกกะลา” พล่านไล่งับน่อง-แว้งกัดสส.จากค่าย “พลังประชารัฐ - หญิงและชาย” ติดกระดุมผิดเม็ดเลยสาดวิวาทะใส่กันแค่เอาชนะคะคาน ฝ่ายหนึ่งก็ตั้งอกตั้งใจชำระความแค้นส่วนตัว ขณะที่อีกฝ่ายก็ปกป้องผู้นำประเทศไม่ให้ระแคะระคายเรื่องไร้สาระ เหมือนคำพังเพยโบราณที่ว่า “หมากัดอย่ากัดตอบ” เพราะที่สุดมันก็หาความใดไม่ได้ ยกเว้นความเลอะเทอะส่งเสียงหอนโหยหวนจนวุ่นวายไร้สาระของสุนัขบางตัวที่ไม่รู้ประสาไร้กาลเทศะเท่านั้น...
nn แทนที่ผู้แทนปวงชนชาวไทยเหล่านี้ ซึ่งได้เป็นผู้แทนราษฎรจะด้วยเหตุผลใดแบบไหนก็ตามทีจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาดูแลทุกข์สุขให้พี่น้องประชาชนได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีบรรเทาปัญหาใส่ใจปัญหาต่างๆ ที่รายล้อม กระทั่งทำให้หน้าซีดเซียวหม่นหมองแบกภาระค่าครองชีพเพราะความผันผวนถดถอยทางเศรษฐกิจที่แน่นอนว่าไม่ได้เกิดในประเทศไทยเพียงแห่งเดียว แต่เป็นปัญหาเดียวกันไปทั่วทุกภูมิภาคของโลก...
nn “เผือกร้อน” ที่ว่าก็คือการเชิญพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ มาชี้แจงการถวายสัตย์ฯไม่ครบก่อนรับตำแหน่งตามมาตรา 162 และการแถลงนโยบาย โดยที่การถวายสัตย์ฯดำเนินการอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งคณะกรรมาธิการชุดนี้คือ คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) ที่มี “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยเป็นประธาน ซึ่งเป็นการเรียกมาชี้แจงรอบที่ 4 แล้ว โดยที่ท่านนายพลทั้งสองก็ไม่เคยมาสักครั้ง ทั้งยังมีหนังสือชี้แจงชัดเจนด้วยว่า ไม่ใช่หน้าที่หรือกงการใดๆของกรรมาธิการคณะนี้ที่จะมาเรียกให้ชี้แจง ขณะที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ก็ยังคำรามก้องหล้าว่านายพลทหารบกนอกราชการทั้งสองต้องมาชี้แจงตามมาตรา 129 วรรค 4ประกอบมาตรา 6 พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2554 ซึ่งกรรมาธิการในซีกของพรรคพลังประชารัฐก็ออกมาขวางลำ ท้าให้เปิดเทปการประชุมพิสูจน์ข้อเท็จจริงของมติที่ให้มีการเชิญสองนายพลเฒ่ามาชี้แจงนั้น ไม่มีเรื่องมาตรา 129 วรรค 4 ประกอบมาตรา 6 พ.ร.บ.คำสั่งคณะกรรมาธิการแต่อย่างใด งานนี้มีสิทธิ์ที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะหลุดจากเก้าอี้ประธานหากยังดื้อดึง “เล่นไม่เลิก” แบบ “ทัพช้างศึก” อยู่เช่นนี้ต่อไป...
nn “ไม้หน้าสาม”ขออุปมาอุปไมยสันดานเล่นไม่เลิกที่ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” แสดงออกมานั้นไม่ต่างไปจากเหตุที่ต้องบัญญัติพระธรรมวินัยซึ่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัตินั้นล้วนเกิดจากพฤติปฏิบัติของหมู่ภิกษุสงฆ์ ที่เพียรพยายามหลบเลี่ยงหลักธรรมคำสอน เมื่อความทราบถึงองค์ศาสดา จึงทรงบัญญัติพระธรรมวินัยอันเป็นข้อห้าม หรือข้อควรปฏิบัติ...
nn ซึ่งเมื่อเปรียบทางโลกแล้วก็ไม่ต่างจากพฤติปฏิบัติที่เกิดขึ้นในคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ รวมทั้งการทำหน้าที่ของประธานคณะกรรมาธิการปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธานกรรมาธิการ เกินขอบเขตอำนาจหน้าที่หรือไม่ เรื่องนี้คงต้องไปหาอ่านเอา ...
nn ทว่าล่าสุด “นายหัวชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร”ได้ลงนามในประกาศระเบียบสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการกระทำกิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดที่มีความเกี่ยวข้องกันของคณะกรรมาธิการหลายคณะ พ.ศ. 2562 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการกระทำกิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดที่มีความเกี่ยวข้องกันของคณะกรรมาธิการหลายคณะ โดยเพิ่มการประชุมรัฐสภาในวันศุกร์อีกหนึ่งวัน เท่ากับว่านับจากนี้กรรมาธิการจะเชิญใคร จะเรียกใครมาชี้แจงต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ จะมั่วนิ่มลุยถั่วเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้อีก...
nn อีกเผือกร้อนที่ต้องจับตามองอย่างยิ่งคือ คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำพิพากษาที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “ตี๋ทอน-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”ถือหุ้นสื่อ “บริษัทวี-ลัค มีเดีย” อันเป็น “ลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครสส.” ซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ไต่สวนข้อเท็จจริงและสอบปากคำนายธนาทรเรียบร้อยแล้ว ประเด็นนี้ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย ฟันธงไว้ล่วงหน้าไว้ทางสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวีช่อง 32 เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ไม่น่ารอดและอาจต้องคำพิพากษาจำคุกด้วยซ้ำแต่คงไม่ถึงขั้น “ยุบพรรคอนาคตใหม่” อย่างแน่นอน ขณะที่ “ตี๋ทอน-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ก็ประกาศเหมือนที่ “นายทักษิณ ชินวัตร” และ “นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”เคยประกาศไว้ต่อสาธารณชนเช่นกันว่าจะไม่หนีแน่นอน หากต้องคำพิพากษาคดีนี้ถึงขั้นจำคุก ก็จะไม่ยอมหนีไปไหน...
nn อีกรายการ “เผือกร้อน” ที่กลายเป็นความขบขันกับจำนวน “วัชพืช”ที่มาร่วมชุมนุมใน “กิจกรรมของพรรคอนาคตใหม่ - อยู่ไม่เป็น” หรือ “อยู่ไม่เป็นสุข” ต้องเสี้ยมยุยงปลุกปั่นให้เกิดความระส่ำระสายและสร้าง “วาทกรรมการเมือง”ให้เกิดความแตกแยกรอบใหม่ “ไม้หน้าสาม”อยากเคาะกบาลเขกกะโหลก “ตี๋ทอน-ธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ” ให้เกิดสามัญสำนึก รู้ผิดชอบชั่วดีต่อแผ่นดินที่มันลงสำมะโนครัว หมดเวลานักสร้างภาพ “ดัดจริตลดเหลื่อมล้ำ” และ “ดัดจริตอยู่ไม่เป็น” เลิกยุยงปลุกปั่นได้แล้ว...
nn “ไม้หน้าสาม” นึกไม่ถึงเลยว่าคนรุ่นใหม่บางคนที่สอนให้ลูกสามคนแรกหัดขี่จักรยานด้วยตัวเอง พยายามคิดและแสดงตัวให้ลูกๆ เอาเป็น “ไอดอล” เจริญรอยตามจะใช้วิธีการต่ำทราม เอาดีใส่ตัวชี้นิ้วกล่าวโทษผู้อื่นชั่วช้าไปเสียหมด ท่องคาถาแก้รัฐธรรมนูญแล้วอนาคตประเทศไทยจะดีขึ้น ผลสำรวจโพลล์ออกมาแล้ว ประชาชนไม่ได้กินหญ้า จึงลงมติชี้เปรี้ยงนัยว่า “การแก้รัฐธรรมนูญ” เป็นความสกปรกโสมมของประดานักการเมืองที่ต้องการแก้ปัญหาให้กับตนเองและหมู่คณะ และก็ไม่ใช่หนทางที่จะทำให้การเมืองขาวสะอาด ไม่ใช่เหตุปัจจัยใดที่จะทำให้ “สังคมปราศจากคอร์รัปชั่น” หากจะแก้ไขจริง ก็ควรเริ่มจากเปลี่ยน “นิสัย-สันดานของเดรัจฉานนักการเมือง” น่าจะทำให้บ้านเมืองนี้พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น...
nn “ไม้หน้าสาม”ทิ้งท้าย “บุคคลแนวหน้า”ด้วยข่าวสังคมกำหนดสวดพระอภิธรรมศพนายชาติชาย รวมเมฆ บิดา ดร.จุฑารัตน์ รวมเมฆ ผู้อำนวยการโรงเรียนปรีดาวิทย์โรงเรียนประถมศึกษาในอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และเป็นพี่ชาย อาจารย์ดวงพร(รวมเมฆ) ศศะสมิต ที่ศาลาใหญ่ วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ตั้งแต่วันนี้เวลา 19.30 น. ไปจนถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 และฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2562 ในเวลา 16.30 น. เจ้าภาพเรียนเชิญมิตรสหายร่วมไว้อาลัยและประชุมเพลิงตามวันเวลาดังกล่าวด้วย
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี