วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ที่นี่แนวหน้า
ที่นี่แนวหน้า

ที่นี่แนวหน้า

วิภาวดี หลักสี่
วันเสาร์ ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2563, 02.00 น.
‘เชื้อดื้อยา’กับแวดวงปศุสัตว์

ดูทั้งหมด

  •  

“อโรคยา ปรมา ลาภา..ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ”คนเราเกิดมาแม้รู้ว่ามีเวลาจำกัดถึงคราวก็ต้องจากโลกนี้ไปแต่ระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่เชื่อเหลือเกินว่าทุกคนย่อมอยากมีสุขภาพดี ถึงกระนั้นเราๆ ท่านๆ ล้วนต้องเคยป่วยไข้ไม่มากก็น้อยกัน ซึ่งด้วยความที่มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา จึงได้คิดค้น “ยารักษาโรค” จากสมุนไพรดั้งเดิมมาสู่สารสังเคราะห์ทางเคมีในปัจจุบันสำหรับบรรเทาอาการไม่สบายต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย

หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ คือ อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิง (Alexander Fleming) ชายชาวสกอตแลนด์ ค้นพบ “เพนิซิลลิน(Penicillin)” ในปี 2471 ยามหัศจรรย์นี้ได้ทำให้มนุษย์อันเป็นสิ่งมีชีวิตแสนเปราะบาง สามารถเสียชีวิตได้ง่ายๆแม้แต่การมีบาดแผลเพียงเล็กน้อย ไม่ต้องเผชิญชะตากรรมเช่นนั้นอีกต่อไป หลังจากนั้นมนุษยชาติก็พัฒนายาประเภทนี้มาอย่างต่อเนื่องโดยเรียกว่า “ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)”กระทั่งในช่วงไม่กี่ปีล่าสุด “ฝันร้าย” ก็ได้กลับมาเยือนเผ่าพันธุ์ของเราอีกครั้ง


เมื่อปลายปีที่แล้ว ช่วงกลางเดือนธ.ค. 2562 ประภัตรโพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปกล่าวในงานเปิดตัวโครงการวิจัย “สุขภาพหนึ่งเดียวและการดื้อยาปฏิชีวนะในประเทศไทย” ซึ่งจัดโดย มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ มหาวิทยาลัยบริสตอล สหราชอาณาจักร สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์และเครือข่าย โดยระบุว่า การค้นพบยาต้านจุลชีพในกลุ่มยาปฏิชีวนะ ถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในโลก เนื่องจากยาต้านจุลชีพในกลุ่มยาปฏิชีวนะที่ได้รับการขนานนามว่า “ยาปาฏิหาริย์” ได้ช่วยชีวิตคนนับล้านที่ป่วยจากการติดเชื้อแบคทีเรีย

ซึ่งนั่นทำให้ยาปฏิชีวนะได้กลายเป็นเสาหลักของการแพทย์แผนปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม “การใช้ยาจุลชีพที่เพิ่มมากขึ้น และใช้อย่างไม่เหมาะสมในปัจจุบัน ทั้งในการแพทย์ การสาธารณสุข การสัตวแพทย์ และการเกษตร ได้กลายเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้แบคทีเรียดื้อยาเร็วขึ้น” จึงทำให้ยาปฏิชีวนะที่ใช้อยู่เริ่มไม่มีประสิทธิภาพในการรักษา ทำให้จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณการใช้และความเข้มข้นของยามากขึ้น นอกจากนี้การใช้ยาต้านจุลชีพในวงกว้างและกำจัดอย่างไม่ถูกวิธียังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

“การสำรวจแหล่งน้ำนิ่งของฟาร์มหมู พบเชื้อดื้อยาสูงกว่าตัวอย่างน้ำนิ่งจากลำคลอง น้ำจากบ่อเลี้ยงกุ้ง และบ่อเลี้ยงปลา รวมถึงพบการนำยาต้านจุลชีพไปใช้ในการรักษาโรคพืช เช่น โรคกรีนนิ่งในพืชตระกูลส้มปัญหาเชื้อดื้อยาที่เพิ่มความรุนแรงเป็นผลมาจากหลายเหตุปัจจัยที่เชื่อมโยงกันทั้งในด้านการแพทย์และสาธารณสุข เศรษฐกิจ สังคม การคมนาคมระหว่างประเทศ และอื่นๆ ทำให้องค์การอนามัยโลกเน้นย้ำว่าปัญหาเชื้อดื้อยากำลังเป็นภัยคุกคามต่อภาวะสุขภาพและระบบสาธารณสุขทั่วโลก และต้องการความร่วมมือกันของทุกฝ่าย” รมช.เกษตรฯ กล่าว

เช่นเดียวกับ รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม อ้างถึงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ที่พบว่า “ประเทศไทยมีการติดเชื้อดื้อยาประมาณปีละ 87,751 ครั้ง และเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 40” ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อดื้อยาต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลนานขึ้น 3.24 ล้านวัน มูลค่ายาต้านจุลชีพที่ใช้รักษาคิดเป็น 2,539-6,084 ล้านบาท ก่อให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจ
โดยรวมไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ “เชื้อดื้อยาต้านจุลชีพเป็นปัญหาไร้พรมแดน” เพราะสามารถแพร่กระจายข้ามขอบเขตพื้นที่ ประเทศ และทวีปไปทั่วโลกได้ และยังสามารถแพร่กระจายผ่านตัวกลางระหว่างคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย ดังนั้นประเทศไทยจึงเป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องแสดงความรับผิดชอบในการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสมเพื่อลดความรุนแรงของปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพ

รศ.นพ.สรนิตยังกล่าวอีกว่า แม้จะมีความพยายามวิจัยเพื่อรับมือปัญหาเชื้อดื้อยา เช่น การพัฒนายาปฏิชีวนะชนิดใหม่ การใช้ “แบคเทอริโอเฟจ” ซึ่งเป็นไวรัสที่ฆ่าแบคทีเรียได้ ชุดวินิจฉัยโรคที่ทันสมัย และอื่นๆ เช่น โครงการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนายาปฏิชีวนะใหม่ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเป้าหมายว่าจะมียาปฏิชีวนะชนิดใหม่ เพื่อใช้กับเชื้อดื้อยาจำนวน 10 รายการ ภายในปี 2563ถึงกระนั้น “ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าโครงการจะสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่” ดังนั้น “การชะลออัตราการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียให้ช้าที่สุด” คือหนทางที่ดีที่สุด ณ ขณะนี้

น.สพ.ปานเทพ รัตนากร ประธานเครือข่ายสุขภาพหนึ่งเดียว มหาวิทยาลัยไทย ในฐานะสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า การแก้ปัญหาเชื้อดื้อยาจุลชีพนั้นจะต้องรับผิดชอบร่วมกัน จะโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ “เชื้อดื้อยานั้นไม่เกิดกับมนุษย์อย่างเดียว แต่เกิดกับปศุสัตว์และสิ่งแวดล้อมด้วย” ซึ่งเป็นวงจรร่วมกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นการบริโภคเนื้อหมูหรือเนื้อไก่ที่ได้รับยาปฏิชีวนะจึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อดื้อยาเข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้แล้วยังปนเปื้อนอยู่ในสิ่งแวดล้อม เพราะว่ามีการใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงปลาและกุ้งที่มีการปล่อยน้ำทิ้งออกไปสู่ภายนอก

ด้าน ร.ต.พงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ให้ความเห็นว่า ปัญหาเชื้อดื้อยาเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงอยู่กับวิถีทางเศรษฐกิจและสังคมของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการทำการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง และอุตสาหกรรม ซึ่งงานวิจัยนี้จะช่วยสามารถเชื่อมโยงไปสู่การทำความเข้าใจในการมีสุขภาพดีของมนุษย์ที่สัมพันธ์การมีสุขภาพดีของสัตว์และสิ่งแวดล้อม ทั้งในระดับจุลภาคและมหภาค การที่โครงการวิจัยได้เลือก อ.บางเลนจ.นครปฐม ไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อพื้นที่แต่ยังเป็นประโยชน์ของสังคมอีกด้วย

ย้อนกลับไปที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในงานนี้ก็มีการเปิดเผยถึงเป้าหมายที่กระทรวงต้องไปให้ถึง เช่นในปี 2564 จะต้องมีการลดการใช้ยาต้านจุลชีพในสัตว์ลงร้อยละ 30 มีการให้ความรู้เรื่องเชื้อดื้อยาและการใช้ยาต้านจุลชีพอย่างเหมาะสมในกลุ่มเกษตรกรเพิ่มขึ้นร้อยละ 20และเร่งพัฒนาระบบจัดการการดื้อยายาต้านจุลชีพที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล โดยกำหนดให้มีการใช้ยาต้านจุลชีพตามใบสั่งสัตวแพทย์ และลดการใช้ยาต้านจุลชีพในฟาร์มปศุสัตว์และสัตว์น้ำ

นอกจากนี้ประเทศไทยยังร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เพื่อดำเนินตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านการจัดการปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพในภาคเกษตร ปศุสัตว์ และสัตว์น้ำ ให้สอดคล้องกับแผนงานของสหประชาชาติ และองค์กรระหว่างประเทศ

“ขึ้นปีใหม่ 2563” ต้องบอกว่าเป็นงานหนักจริงๆสำหรับกระทรวงนี้ เพราะนอกจากต้องติดตามเรื่องการแบน3 สารเคมีในภาคเพาะปลูกแล้ว ยังต้องเฝ้าระวังภัยจากการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่ถูกวิธีในแวดวงปศุสัตว์อีก!!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
07:45 น. ชายแดนไทยกัมพูชากับ‘ปฏิญญาสันติภาพ’ที่ล้มเหลว และสิ่งที่‘อนุทิน’ควรต้องทำ
07:27 น. หัวใจของแม่! เฝ้ารอข่าวลูกชาย ‘จ่าเทิดศักดิ์’เหยียบกับระเบิดขาขาดที่‘ห้วยมาเรีย’
07:25 น. JPARKคว้าสัมปทานลานจอดรถ สนามบินนครศรีธรรมราช10ปี
07:11 น. ‘อดีตเสธ.ทหาร’เดือด! จวกกองทัพหมดเวลาประท้วงเขมร ควรโต้ตั้งแต่ ชม.แรก จะรอ‘เสียขา’อีกหรือ
07:00 น. ‘เรตินอยด์’ ตัวช่วยผิวอ่อนเยาว์ อยากใช้ให้ผิวปัง ต้องทาให้ถูกต้อง
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 8-14 พ.ย.68
ปภ.เตือน 10 จังหวัดภาคกลาง-กทม. เฝ้าระวังเจ้าพระยาเพิ่มสูง เตรียมพร้อมขนของขึ้นที่สูง
'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์ไอจีล่าสุด! ประกาศสถานะชัดทำชาวเน็ตแห่คอมเมนต์
'นาย ณภัทร'เล่าความเจ็บปวด! 2ปีจิตใจเแตกสลายไม่มีชิ้นดี ทำเพื่อคนอื่นจนลืมความสุขตัวเอง
ไม่ใช่ผู้ชาย! 'บิ๊กโจ๊ก'ตีวงแคบ แฉอดีตนายกฯ ตั้งฐานในต่างประเทศ รับเคลียร์พนันออนไลน์
ดูทั้งหมด
‘แต่ถึงรบไม่ขลาด’ต้องเด็ดขาดกับเขมร
เละเป็นโจ๊ก
ไอ้โม่งจุดจุดจุด?
ผายลมเรื่องไม่มีชายชุดดำ
เจ้าพ่อสแกมลอยนวลอยู่ได้อย่างไร
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'อนุทิน'ลั่น! เนรเทศด่วน ผู้ลักลอบเข้าเมือง ย้ำชัด'ไทยไม่ใช่พื้นที่พักพิงอาชญากรข้ามชาติ'

เรื่องราว‘ทีมหมอนทอง’ โมเดล-ต่อยอด สร้างความสมัครสมานสามัคคี

เปิดจุดเกิดเหตุ!! สะเทือนชายแดน ทหารเหยียบ'กับระเบิด' สูญเสียขา-บาดเจ็บ

‘กต.’ประท้วง‘กัมพูชา’ ซัดเหตุ‘ทหารไทยเหยียบกับระเบิด’

ปตท.สผ. ถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ศาลแรกในไทย!!! 'สนง.ศาลยุติธรรม'อนุมัติสร้าง'บังเกอร์'ศาลจังหวัดกันทรลักษ์

  • Breaking News
  • ชายแดนไทยกัมพูชากับ‘ปฏิญญาสันติภาพ’ที่ล้มเหลว และสิ่งที่‘อนุทิน’ควรต้องทำ ชายแดนไทยกัมพูชากับ‘ปฏิญญาสันติภาพ’ที่ล้มเหลว และสิ่งที่‘อนุทิน’ควรต้องทำ
  • หัวใจของแม่! เฝ้ารอข่าวลูกชาย ‘จ่าเทิดศักดิ์’เหยียบกับระเบิดขาขาดที่‘ห้วยมาเรีย’ หัวใจของแม่! เฝ้ารอข่าวลูกชาย ‘จ่าเทิดศักดิ์’เหยียบกับระเบิดขาขาดที่‘ห้วยมาเรีย’
  • JPARKคว้าสัมปทานลานจอดรถ สนามบินนครศรีธรรมราช10ปี JPARKคว้าสัมปทานลานจอดรถ สนามบินนครศรีธรรมราช10ปี
  • ‘อดีตเสธ.ทหาร’เดือด! จวกกองทัพหมดเวลาประท้วงเขมร ควรโต้ตั้งแต่ ชม.แรก จะรอ‘เสียขา’อีกหรือ ‘อดีตเสธ.ทหาร’เดือด! จวกกองทัพหมดเวลาประท้วงเขมร ควรโต้ตั้งแต่ ชม.แรก จะรอ‘เสียขา’อีกหรือ
  • ‘เรตินอยด์’ ตัวช่วยผิวอ่อนเยาว์ อยากใช้ให้ผิวปัง ต้องทาให้ถูกต้อง ‘เรตินอยด์’ ตัวช่วยผิวอ่อนเยาว์ อยากใช้ให้ผิวปัง ต้องทาให้ถูกต้อง
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

‘Dashboard’ อัจฉริยะ ทางรอด ‘เกษตรไทย’…สู้ ‘วิกฤตภูมิอากาศ’

‘Dashboard’ อัจฉริยะ ทางรอด ‘เกษตรไทย’…สู้ ‘วิกฤตภูมิอากาศ’

8 พ.ย. 2568

เปิดประชุมชี้แจง ‘กองทุนบัตรทอง’69’ 6 แนวทางยกระดับ ‘30 บาทรักษาทุกที่’

เปิดประชุมชี้แจง ‘กองทุนบัตรทอง’69’ 6 แนวทางยกระดับ ‘30 บาทรักษาทุกที่’

1 พ.ย. 2568

‘Chiang Mai Marathon 2026’ ส่งเสริมสุขภาพ สร้างสัมพันธ์นิสิต – ศิษย์เก่า - ชุมชน

‘Chiang Mai Marathon 2026’ ส่งเสริมสุขภาพ สร้างสัมพันธ์นิสิต – ศิษย์เก่า - ชุมชน

25 ต.ค. 2568

เปิดประสบการณ์ ‘ฐานการเรียนรู้ทางการแพทย์’ แนะแนวศึกษาต่อสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ’69

เปิดประสบการณ์ ‘ฐานการเรียนรู้ทางการแพทย์’ แนะแนวศึกษาต่อสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ’69

18 ต.ค. 2568

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

11 ต.ค. 2568

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

4 ต.ค. 2568

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

27 ก.ย. 2568

‘ดัชนีสุจริตไทย’..น่าห่วง แนะรัฐใช้ ‘MBI’ มั่นใจไทยขึ้นแท่น ‘นวัตกรรมคุณธรรมฯ’ แห่งแรกของโลก

‘ดัชนีสุจริตไทย’..น่าห่วง แนะรัฐใช้ ‘MBI’ มั่นใจไทยขึ้นแท่น ‘นวัตกรรมคุณธรรมฯ’ แห่งแรกของโลก

20 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved