วันศุกร์ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน เมื่อวานนี้เริ่มมีข่าวดี เพราะน้ำท่วมที่อำเภอหาดใหญ่เริ่มลดลงแล้ว สิ่งที่จะทำต่อไปหลังจากนี้ ก็คือการฟื้นฟูเยียวยา ซึ่งดูจากการทำงานของรัฐบาลก็ยังพอจะอุ่นใจได้ ที่นายอนุทินชาญวีรกูล ได้เรียกประชุมกระทรวงและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการการช่วยเหลือ เยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่หลวงที่รออยู่ข้างหน้าหลังน้ำลด
ก่อนจะไปพูดข่าวดีเรื่องน้ำในเทศบาลนครหาดใหญ่ อันเป็น“เมืองเศรษฐกิจการค้า”ที่สำคัญของภาคใต้ตอนล่าง เริ่มลด แต่อยากจะพูดถึงข่าวดราม่า เรื่องศพผู้ประสบภัย และเรื่องที่น่าสลดหดหู่จากสถานการณ์อันเลวร้ายครั้งนี้ ที่ใครก็ไม่อยากให้เกิด หากละไว้กันได้ก็จะเป็นการดี
เช่น นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง หรือ “สิงโต” สส.สงขลา เขต 9 พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน วานนี้ ว่า “นี่คือภาพหาดใหญ่ในวันนี้ อย่างกับ“วันสิ้นโลก” คนแย่งอาหารกันริมถนน, ศูนย์อพยพที่ไร้การจัดการ, ศพคนตายลอยมาต้องวางริมถนน, เสียงคนที่ร้องโหยหวนทั้งคืน ภาพทั้งหมดนี้ผมเห็นกับตาตัวเองมาตลอด3 วัน ความสูญเสียครั้งนี้ใหญ่เกินกว่าจะลืม คนไม่ตายก็เหมือนตายทั้งเป็น”
ก็ไม่รู้ว่า สส.สงขลา เขต 9 ผู้นี้ซึ่งแม้จะไม่ได้เป็น สส.ในเขตพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่ ที่อยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 2 ต้องการจะสื่อสารด้วยจุดประสงค์อะไร จากการที่ออกมากู่ร้องเหมือนประจานตนเองให้โลกรู้ หรือว่าเป็นเพราะตนเองเป็น สส.ฝ่ายค้าน จึงหมายจะโยนความผิดชอบไปให้รัฐบาลพรรคภูมิใจไทย ที่จะเป็นคู่แข่งในการเลือกตั้งหลังการยุบสภาฯ
เรื่องนี้ เห็นด้วยกับ อดีต สว.สมชาย แสวงการ ที่ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนเช่นกัน ว่า “ฝากขอร้องสื่อ TV หนังสือพิมพ์ สื่อ social ฯลฯ หยุดทำข่าว หยุดเสนอข่าว เลิกสัมภาษณ์นักการเมือง รมต สส. influencersฯลฯ ที่ทำท่าถ่ายรูปทำคลิป หาแสง หาคะแนน จากเหตุการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมหาดใหญ่ สื่อมวลชนควรนำเสนอเฉพาะการช่วยเหลือจริง ของหน่วยงานและอาสาสมัครที่ทำจริง ปัญหาความเดือดร้อนและแนวทางแก้ไขปัญหา ที่จะช่วยชีวิตชาวบ้านได้จริงอย่างเร่งด่วน เท่านั้นครับ”
ข่าวดีที่จะพูดถึงนอกจากน้ำในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่เริ่มลดระดับลงเรื่อยๆ อีกไม่กี่วันก็น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ก็คือ รัฐบาลขยับตัวได้ทัน จากที่มีการประชุมบูรณาการในส่วนของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่คราวนี้เจอ“กฐินก้อนอิฐ”จากทุกทิศทุกทาง นั่งเป็นประธานหัวโต๊ะร่วมประชุมกับ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน,นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น สำนักงบประมาณ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้แถลงภายหลังการประชุมว่า “ได้ขอให้ที่ประชุมชี้แนะแนวทาง และกระทรวงการคลังหามาตรการในการช่วยเหลือระยะสั้น เช่น การให้ประชาชนเข้าถึงอาหาร น้ำดื่ม ยา และที่พักพิงชั่วคราวอย่างทั่วถึงเพื่อเยียวยา ส่วนระยะกลางคือการเพิ่มรายได้ลดภาระ โดยมาตรการพักชำระหนี้สินเชื่อดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซ็นต์ และมาตรการทางการพาณิชย์ เช่น การหาสินค้าที่ต้นทุนต่ำกว่าทุน โดยการซัพพอร์ตของภาครัฐลงไปให้พี่น้องประชาชนได้ถึงมือ นอกเหนือจากการที่ได้รับบริจาคสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากภาคเอกชนแล้ว”
ภาพโดยรวมจากการประชุมครั้งนี้ ก็คือ รัฐบาลจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหามาตรการให้ความช่วยเหลือเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการและภาคธุรกิจ ตลอดจนหามาตรการในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัยทุกจังหวัด โดยเฉพาะเงินเยียวยาซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้คำมั่นว่า หลังน้ำลดเงินเยียวยาจะต้องถึงมือประชาชนทันที
ที่เป็นรูปธรรม ก็มี อาทิ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศแถลงว่าจะมีการขยายวงเงิน“ทดรองราชการ”ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด จำนวน 100 ล้านบาท เพื่อใช้ดูแลประชาชนในพื้นที่ ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างได้ออกหนังสือเวียนแนวปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้างสามารถดำเนินการได้ทันทีภายใต้พระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน และนอกจากนั้น ได้เชิญเครือข่ายวายุภัค และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย. (คปภ.) เรื่องประกันรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม ก็จะมีการเคลมที่เร็วและง่ายขึ้น ซึ่ง เลขาฯ คปภ.ได้ประสานกับสมาคมประกันภัยและประกันชีวิต เพื่อเบิกจ่ายเงินได้ทันที โดยที่แค่ถ่ายรูปก็สามารถเคลมได้ทันที
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ยังกล่าวด้วยว่า “ส่วนสถาบันการเงินได้พูดคุยกับสถาบันการเงินของรัฐและสมาคมธนาคารไทย จะมี package ในการพักหนี้พักดอก สำหรับครัวเรือนที่เดือดร้อนทันที เพื่อไม่ให้เป็นภาระ นอกจากนั้นยังมีสินเชื่อดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซ็นต์ เพื่อเยียวยาฟื้นฟู ซึ่งระบบทั้งหมดจะต้องเตรียมให้พร้อมเพื่อให้เงินลงเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแบงก์รัฐหรือเอกชน ซึ่งหัวใจสำคัญ คือ นายกฯสั่งว่าเงินต้องลงทันที และสำหรับประชาชนที่ยังไม่สามารถเดินทางกลับที่พักตัวเองได้กระทรวงการคลังมีที่ราชพัสดุ ก็ได้ให้อธิบดีกรมธนารักษ์
ลงพื้นที่ไปสำรวจ เป็นที่พักพิงช่วยเสริม เบื้องต้นมีอยู่ประมาณ 5-6 แห่ง ที่สามารถรองรับประชาชนได้”
ขณะเดียวกัน เกี่ยวกับสถานประกอบการ 1 หมื่นแห่ง และลูกจ้างสถานประกอบการประมาณ 2 แสนราย ที่ได้รับผลกระทบ จากตัวเลขในเบื้องต้นของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นั้น นางสาวตรีนุช เทียนทอง แถลงว่า“ในกลุ่มของผู้ใช้ประกันตน มีโครงการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน เหตุสุดวิสัยภัยธรรมชาติ โดยกรณีผู้ประกันตนประสบปัญหาไม่สามารถไปทำงานได้ กองทุนประกันสังคมจะดูแลจ่ายเงินค่าจ้างที่ไม่ได้ไปทำงานจาก 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้างรายวัน ที่ควรจะได้ แต่ห้วงเวลาไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งคงจะครอบคลุมช่วงเวลาฟื้นฟูพอดี นอกจากนี้ ผู้ประกันตนใดๆ สามารถดำเนินการได้เลยทั้งประกันตนจังหวัด โดยผ่านเว็บไซต์ สามารถดาวน์โหลดของกรมประกันสังคมได้ ตลอดจนการฟื้นฟูซ่อมต่างๆ กระทรวงแรงงานมีศูนย์ซ่อมสร้างในการที่จะดูแลเบื้องต้น หลังจากน้ำลด ที่จะดูแลซ่อมบ้านเรือน หรือพาหนะในเบื้องต้น ที่มีศูนย์ดูแลได้ประสานงานเตรียมพร้อมตามที่นายกรัฐมนตรีได้ดำริไว้”
ข่าวดีอีกประการหนึ่ง คือ เฉพาะหน้านี้ “เรือหลวงจักรีนฤเบศร” ได้เปิดโรงครัวพระราชทานลอยน้ำ ปรุงอาหารวันละ 3 พันชุด ส่งทาง“ฮ.”ให้แก่ชาวสงขลาผู้ประสบภัย
บรรทัดนี้ขอฝากเป็นการบ้านให้แก่ทุกพรรคการเมือง ที่จะส่งสมาชิกลงสมัคร สส.หลังยุบสภาฯ ควรต้องประกาศนโยบายให้ประชาชนทราบว่า จะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหา“น้ำท่วม” อันเป็นปัญหาซ้ำซากของประเทศนี้อย่างไรในระยะยาว ?!
รุ่งเรือง ปรีชากุล

ด่วน! กรมการปกครอง มีคำสั่งให้ นายอำเภอหาดใหญ่ ออกจากราชการไว้ก่อน
'รมว.ยุติธรรม' เผยผู้แทนจีนขอบคุณไทยส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
ราชทัณฑ์ แจงปมภาพถ่ายครอบครัว'ทักษิณ' ชี้โครงการ เยี่ยมญาติใกล้ชิด จัดมาแล้วหลายปี
จูน กษมาโพสต์ภาพสุดสะเทือนใจ นั่งเฝ้าร่างไร้วิญญาณคุณลุง เหยื่อน้ำท่วมหาดใหญ่
ทบ. ย้ำชัด กัมพูชาบิดเบือนข้อเท็จจริง ต่อคณะทูต-องค์กรนานาชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี