ปัญหาการเมืองภายในสหภาพเมียนมาในยุคที่มีนางออง ซาน ซู จี เป็นผู้นำทางการเมืองหลังหมดยุคคณะทหารในกองทัพครองอำนาจในประเทศที่มีประชากร55 ล้านคน ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องไม่แต่เฉพาะชาวโรฮีนจาในแคว้นอาระกันหรือยะไข่เท่านั้นแต่การกระทบกระทั่งทางด้านการเมืองภายในเมียนมานั้นมีมาโดยตลอดทุกๆ แคว้นมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากกว่า 10 ศตวรรษ
พม่าหรือตะเลงเป็นอาณาจักรโบราณที่มีพื้นฐานมาจากชนชาติผสมทิเบตกับพม่า ปีพุทธศักราช 1392 ชาวพม่าได้อพยพลงมาจากอาณาจักรทิเบต ในขณะที่เจ้าของดินแดนดั้งเดิมคืออาณาจักรมอญหรือรามัญและอาณาจักรปยู ชาติมอญหรือละว้า อพยพมาตั้งรกรากอยู่ในพม่าปี 200 ก่อนมีศูนย์กลางที่เมืองสะเทิมในนามอาณาจักรสุธรรมวดีเชื่อว่าเป็นชนชาติจากอินเดียใต้เพราะมีผิวคล้ำดำเหมือนชนในอาณาจักรขอม ส่วนชาวปยูนั้น คาดว่าอพยพมาจากอินเดียแถบแคว้นอัสสัมและอาระกันมีผิวกายสีดำเข้ามาตั้งอาณาจักรในปี 300 เรียกชื่อว่าแคว้นศรีเกษตรคาดว่านับถือพุทธศาสนาและฮินดูที่รับอารยธรรมจากอินเดียโบราณ
ชนชาติพม่าหรือชาวพุกามอพยพมาทีหลังมีผิวกายขาวเหลืองคล้ายจีนและทิเบตมาตั้งอาณาจักรพุกามในปี 1000 พม่าตั้งอาณาจักรพุกามในปี 1587 ถึง 1620 พระเจ้าอนิรุทธิมหาราชหรือราชาธิฤทธิ์หรืออโนรธามังฉ้อครองราชย์ที่พุกามทำสงครามปราบอาณาจักรมอญและปยูได้ทำให้ 2 ชนชาติต้องหนีภัยสงครามเข้าไปอยู่ในสุวรรณภูมิหรือภาคกลางของไทยที่อู่ทอง, สุพรรณบุรี, ลพบุรี และนครปฐม บางส่วนไปอยู่ที่เมาะตะมะตั้งเป็นอาณาจักรมอญ
ปี 1785 กองทัพจีนยุคราชวงศ์หงวนหรือมองโกลสมัยกุบไลข่านเรืองอำนาจส่งกองทัพใหญ่เข้ารุกรานพุกาม, ไทยใหญ่หรือฉาน, ล้านนา,ล้านช้าง, ต้าลี่หรือน่านเจ้าสมัยพระเจ้านรสีหบดี ปี 1830 มองโกลยึดนครพุกามได้ พม่าแยกเป็นแคว้นย่อยๆหลายแคว้นคือมอญกับปยูมี 2 เมืองสำคัญคือหงสาวดี, เมาะตะมะ พม่ามีแปร, ตองอู, อังวะ ไทยใหญ่มีแสนหวีและเขมรัฐ อาระกันมีมณีปุระ ช่วงปี 1907 ถึง 2050 มีสงครามใหญ่ระหว่างมอญรามัญกับเตลงสมัยพระเจ้าราชาธิราชหรือมังรายกะยอชวากับพระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง
ปี 2074 พระเจ้าตะเบงชเวตี้พม่าราชวงศ์ตองอู กำลังรบเข้มแข็งทำสงครามชนะทุกๆ เมืองทั้งอังวะ,ไทยใหญ่, หงสาวดี, พะสิม, เมาะตะมะ,แปร, พุกาม, พะโค, มณีปุระ ฯลฯ ปี 2094 ถึง 2124 พระเจ้าบุเรงนองกะยอดินนรธามหาราชพี่เขยของตะเบงชเวตี้รบชนะสุวรรณภูมิได้ทุกๆ แคว้น คือ พม่าทั้งประเทศไปจนถึงไทยใหญ่, ล้านนา, ล้านช้าง, หลวงพระบาง,กัมพุช, กรุงศรีอยุธยา, พิษณุโลกยุคนั้นพม่าคือมหาอำนาจของสุวรรณภูมิ
ปี 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชกษัตริย์สยามแห่งกรุงศรีอยุธยาทำสงครามชนะพม่าได้ทำให้พม่าเสื่อมอำนาจลงแผ่นดินเตลงหรือพุกามล่มสลายแยกเป็นแคว้นย่อยอีกครั้งปี 2295 แคว้นมอญได้กองทัพฝรั่งเศสในอินเดียของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 สนับสนุนอาวุธปืนใหญ่และปืนเล็กยาวพร้อมฝึกการรบแบบยุโรปทำให้มอญรบชนะพม่า ในปี 2295 มอญได้ปกครองพม่าทั้งหมดมีเมืองหลวงที่เมาะตะมะ ปี 2296 พระเจ้าอลองพญาหัวหน้าหมู่บ้านชาวพม่าที่เมืองรัตนสิงห์ตั้งตัวเป็นกษัตริย์ราชวงศ์คองบอง รวมกองทัพพม่ากู้เอกราชสามารถรบชนะมอญและแคว้นต่างๆ ได้ทั้งหมดในปี 2302 พระเจ้าอลองพญามาสวรรคตในขณะนำกองทัพพม่ามาโจมตีกรุงศรีอยุธยาเมืองหลวงของสยามในปี 2306
ปี 2312 กองทัพพม่าในสมัยพระเจ้ามังระโจมตีและยึดครองกรุงศรีอยุธยาได้หลังจากนั้นชาวสยามรวมตัวกันกู้ประเทศได้ในปี 2312 ปี 2328 หลังพม่าแพ้สงคราม 9 ทัพที่รุกรานสยามอำนาจกองทัพพม่าเริ่มลดลงและถูกอังกฤษส่งกองทัพจากอินเดียเข้ามารุกราน 3 ครั้ง ในปี 2369, 2395 และ 2428 จนยึดครองได้ทั้งประเทศ อังกฤษผนวกพม่าเป็นมณฑลหนึ่งของอินเดียเช่นเดียวกับปากีสถาน, เนปาล, สิกขิม, ศรีลังกา, มัลดีฟส์, ภูฏาน, บังกลาเทศ และอัสสัม
หลังมหาสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงในปี 2488 หลังอังกฤษปกครองพม่า 60 ปีก็ได้ยอมให้เอกราชแก่พม่าในปี 2491ส่วนประธานาธิบดีพม่าคนแรก คือ นายพลอู ออง ซาน บิดาของนางออง ซาน ซู จีแต่ในวันที่ 12 กรกฎาคม อู ออง ซาน ถูกลอบสังหารถึงแก่กรรมและยังผลให้การทำสนธิสัญญาระหว่างเผ่าต่างๆ ในพม่าที่เมืองเปียงหลวงในปีเดียวกันล้มเหลวยังผลให้เกิดสงครามกลางเมืองระหว่างกองทัพพม่ากับกองกำลังติดอาวุธของชนเผ่าต่างๆ ตามแคว้นต่างๆ มาเป็นระยะเวลายาวนานถึง 72 ปี
มีคำถามว่าทำไมประชากรในเมียนมาถึงได้รบกันไม่มีทีท่าว่าจะยุติแม้จะเป็นเอกราชจากอังกฤษมานานตั้ง 72 ปีแล้วคำตอบคือขณะที่อังกฤษปกครองพม่านั้นอังกฤษได้ใช้วิธีบริหารอาณานิคมแบบดีไวด์ทูรูที่เรียกว่าการแบ่งแยกแล้วปกครองพม่านั้นมีทั้งหมด 14 รัฐ และแคว้นมีชนเผ่าในประเทศมากกว่า 20 เผ่า เป็นพม่าร้อยละ 60 และเผ่าอื่นๆ ร้อยละ 40เมียนมามีกองทัพกำลังพลประมาณ 500,000 คน หน้าที่ของกองทัพพม่า คือเอาไว้ปราบชนเผ่าไม่ใช่ใช้ป้องกันประเทศว่ากันว่านางออง ซาน ซู จี เองก็รู้ดี ประธานาธิบดีวินหมิ่น และพลเอกอาวุโส วิน อ่อง ฮา เลียง ผู้บัญชาการทหารบกก็ทราบดี
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี