การที่เทคโนโลยีการสื่อสารร่วมสมัยมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การติดต่อสื่อสารในปัจจุบันเป็นไปด้วยความสะดวกง่ายดาย และมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น จึงนำมาซึ่งการตื่นรู้ ปฏิกิริยาการแสดงความคิดเห็น เป็นประโยชน์ยิ่งต่อมวลมนุษย์ในการสื่อสารซึ่งกันและกัน ซึ่งในการได้รับใฝ่หาความรู้ และแลกเปลี่ยนกัน กลายเป็นปรากฏการณ์ทางประชาธิปไตยอย่างหนึ่ง นั่นคือทุกคนรู้ได้ และร่วมได้ โดยไม่มีการจำกัดองค์ความรู้ และขีดความสามารถในการติดต่อข้องแวะซึ่งกันและกัน และฉะนั้น จึงลดการผูกขาด จะโดยรัฐบาล หรือคน หรือกลุ่มคนหนึ่งใด
ด้วยเหตุดังกล่าว ข้อมูลจึงกระจายไปทั้งโลก ในแง่ดี ก็ได้ทำให้ผู้คนเฉลียวฉลาดขึ้น และรู้สึกใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น โลกจึงแคบลง และมนุษย์ก็เชื่อมโยงกันอย่างกว้างขวาง ลึกซึ้ง ทันใจ
แต่ในแง่ร้ายแล้ว หมู่มวลมนุษย์ย่อมมีคนชั่วอยู่บ้างเป็นธรรมดา จะด้วยความคึกคะนองที่จะได้เห็นความปั่นป่วน หรือจะด้วยเจตนาร้ายที่จะกลั่นแกล้งและบ่อนทำลายกัน ที่มิได้จำกัดอยู่ที่วงบุคคลเท่านั้น หากแต่ยังมีในกลุ่มอื่นๆ เช่น รัฐบาลและคู่แข่ง คู่ต่อสู้กันทางการเมือง ซึ่งต่างก็เป็นอกุศลกรรมทั้งสิ้น
ทำให้แทนที่เทคโนโลยีสื่อสาร จะเป็นเครื่องมือกลไกเพื่อการติดต่อกันเพื่อประโยชน์ร่วมกัน หรือเป็นไปเพื่อองค์ความรู้ แต่เพียงเท่านั้น เทคโนโลยีการสื่อสารก็ยังถูกบิดเบือนนำไปใช้ใส่ความ สร้างกระแส เพื่อประโยชน์อันชั่วร้ายอีกด้วย
ยังมีหลายรัฐบาลที่ใช้การบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อมอมเมา ครอบงำประชาชน หันเหความสนใจของประชาชนจากเรื่องที่ควรรู้ตระหนัก เรื่องที่สำคัญๆ ให้ไปเป็นอื่น
หรือไม่ก็ยังมีรัฐบาลที่มุ่งบ่อนทำลายซึ่งกันและกันเป็นการแทรกแซงในกิจการภายในของกันและกันมีวัตถุประสงค์ให้อีกฝ่ายเกิดความสับสนอลเวง แตกแยก หรืออ่อนเปลี้ย หรือไม่ก็เพื่อสร้างอิทธิพลของตนบนเวทีโลก
ส่วนภายในแต่ละประเทศ นอกจากฝ่ายรัฐบาลจะควบคุมประชาชนดังกล่าวแล้ว บางครั้งก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมืองด้วย ส่วนฝ่ายคู่ต่อสู้ก็มักไม่ยอม ก็ใช้กระบวนการเดียวกันในการทำลายฝ่ายรัฐบาลกลับคืน นัยว่าเพื่อลดแรงสนับสนุนและความชื่นชอบรัฐบาล และเพิ่มคะแนนนิยมให้กับตนเอง โดยใช้ข้อมูลเท็จข้อมูลปลอม ข้อมูลบิดเบือนเป็นหลัก ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ด้วยเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ เป็นเจตนาร้ายทั้งนั้น
หากจะแก้เรื่องข่าวปลอม ข่าวเท็จกันให้ได้ ก็ต้องเริ่มจากฝ่ายที่กุมอำนาจรัฐเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลอย่างชัดเจนตรงไปตรงมาอย่างสม่ำเสมอแก่ประชาชนพลเมือง โดยไม่มีนอกมีใน เมื่อนั้นความเชื่อถือ
ความเชื่อมั่นในหมู่ประชาชนก็จะพึงบังเกิดขึ้น โอกาสที่ข่าวเท็จทั้งหลายจากฝ่ายล้มรัฐบาลก็จะไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด หรือเกิดขึ้นมาแล้วก็จะตายท้องกลมฉันใดฉันนั้น
ประเด็นหลัก จึงเป็นเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตและความจริงใจของทางฝ่ายรัฐ
แต่ก็มีประเด็นปัญหาการให้ข่าวคราวผิดอย่างไม่เจตนาร้าย หรือการให้ข่าวที่ดีต่อสังคม แต่กลับไม่เป็นที่ถูกใจของฝ่ายบ้านเมือง เพราะไม่เชียร์ แต่ชี้ให้เห็นข้อบกพร่อง การนี้จะนำไปไว้รวมกับกระบวนการข่าวเท็จ ข่าวปลอม และข่าวบิดเบือนไม่ได้ เพราะประชาชนผู้ปล่อยข่าวนั้น มิได้มีเจตนาร้ายต่อรัฐ หากแต่มีเจตนาดีที่จะแสดงความคิดเห็น หรือท้วงติงในสิ่งที่เขามองว่าไม่ถูกต้อง
เหตุการณ์แบบนี้จึงจำเป็นที่ภาครัฐจักต้องไม่เหมารวมไปว่า เป็นเจตนาร้าย
ควรจะรับฟัง แล้วทำการชี้แจงแถลงไขให้สังคมทราบ หรือถ้าเป็นข้อบกพร่องจริงๆ ก็ต้องรีบนำไปปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่เพียงดูแค่ข้อมูลว่าเป็นข่าวที่ส่งผลกระทบกับหน้าตา และเสถียรภาพของภาครัฐ แล้วก็
“เล่นงาน” ทางกฎหมายทันที ซึ่งจะส่งผลให้สิทธิเสรีภาพของการแสดงออกสูญหายไปจากสังคมวัฒนธรรมการเมือง เพราะได้ปิดโอกาสการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนไปเสียหมด
บุคลากรภาครัฐอย่าเพียงอ้างกฎหมาย และกำหนดบทลงโทษ เพียงเพราะตนมีอำนาจ โดยไม่ไปดูตาม้าตาเรือว่า เนื้อหาดังกล่าวนั้นมีประโยชน์ต่อส่วนรวมหรือไม่ และผู้กระทำการมีเจตนาอย่างไรต่อสังคมกันแน่
หากฝ่ายบ้านเมืองจะทำการจับกุม ก็ต้องใช้ความระมัดระวังให้มาก และฝ่ายศาลก็ต้องพิจารณาดูเจตนาให้ถ่องแท้ด้วย เรียกว่าต้องคงไว้ซึ่งความเมตตากรุณาที่เหมาะสม มิใช่ตำรวจ และอัยการยื่นมาตามกฎข้อโน้นข้อนี้ แล้วก็ลงโทษตามเอกสารตะบันไป
การติชมรัฐบาลเป็นสิทธิเสรีภาพ เป็นหน้าที่พลเมืองด้วยความสร้างสรรค์และหวังดี ไม่ได้หมายความว่าติชมแล้วเป็นการรังเกียจ หรือต้องการขจัดกัน เป็นการมีส่วนร่วมด้วยเจตนาดีต่างหาก แต่จะทำให้ฝ่ายรัฐบาลเสียรังวัดไปบ้าง ก็ต้องแก้ไขในเนื้อหา มิใช่แก้ด้วยวิธีปิดปาก
ส่วนพวกที่มุ่งร้าย หวังร้ายต่อชาติบ้านเมือง ก็ต้องแยกออกมาให้ได้ แล้วลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง
เมื่อนั้น กฎหมายจึงจะศักดิ์สิทธิ์ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ที่ถูกธำรงไว้ซึ่งสิทธิและเสรีภาพ
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี