ผมเคยพูดไว้เสมอว่า วิกฤติมีหลายรูปแบบ และบางครั้งมาพร้อมกัน ตัวอย่างเช่นในอเมริกา จะนำมาวิเคราะห์ประเทศไทยด้วย
สิ่งแรกที่จะพูดคือ 2 สัปดาห์กว่าที่ George Floyd ชาวผิวสีถูกตำรวจผิวขาวในเมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินนิโซตา เอาเข่ากดคอ 9 นาทีจนเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาตำรวจอีก 3 คน ข่าวนี้ก็กระจายไปทั่วอเมริกาและทั่วโลกจนเป็นคำพูดว่า
ฉันหายใจไม่ออก “I can’t breath”
ประชาชนออกมาประท้วงทุกรัฐในอเมริกา มีชาวผิวขาวและชาวผิวอื่นๆ เข้าร่วมด้วย ไม่ใช่แค่ผิวสี กระจายไปยังประเทศอื่นๆ ด้วยกลายเป็นการประท้วงเรื่องการเหยียดผิวครั้งใหญ่ที่สุดของอเมริกา
ตั้งแต่ปี 1968 เรียกว่า March on Washington สมัย Martin Luther King, Jr. อยู่ มีที่มาของคำว่า “I have a dream” หน้าอนุสาวรีย์ Abraham Lincoln
ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Lyndon Baines Johnson ออกกฎหมายสิทธิพลเมือง (Civil Rights) หลายข้อที่เป็นประโยชน์ต่อชาวผิวสี สร้างความเสมอภาคและความเท่าเทียมกัน เป็นการสร้างความปรองดอง ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างผิว แต่บัดนี้ปัญหาตำรวจโหดร้ายและการเหยียดผิวกลับมาเป็นประเด็นหลักอีกครั้งหนึ่ง อเมริกาต้องหาทางให้การเหยียดผิวลดลง และให้สังคมปรองดองมากขึ้น
ถ้าย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ คร่าวๆ
1. 400 ปีที่แล้ว ทาสถูกนำมาจากทวีปแอฟริกาแถบตะวันตก
2. เศรษฐกิจของอเมริกาขยายตัวในรัฐภาคใต้ ทาสเหล่านี้เป็นแรงงานราคาถูก มาเก็บฝ้าย กลายเป็นสินค้าหลักส่งออกของรัฐในภาคใต้
3. ปี 1860 Lincoln ชนะเลือกตั้ง เดือนเมษายน 1860 เกิดสงครามกลางเมือง สาเหตุหลักคือรัฐในภาคใต้ ไม่ยอมเลิกทาส แต่รัฐในภาคเหนือไม่ต้องการทาส ในที่สุด Lincoln ชนะสงครามกลางเมืองในปี 1865
4. ตามกฎหมายเลิกทาสหายไป แต่ความเสมอภาคก็ยังไม่เท่าเทียมกันการเหยียดผิวยังมีอยู่ จนถึงยุคของ John F.Kenedy ได้รับอิทธิพลจากMartin Luther King, Jr. ได้มีการพบปะกัน ในที่สุด John F.Kenedy ได้กล่าวสุนทรพจน์เน้นความเสมอภาคระหว่างผิวเป็นครั้งแรกปี 1963
5. น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการที่อเมริกามีผู้นำที่เข้าใจปัญหาของความไม่เท่าเทียมกัน แต่ในยุคของ John F.Kenedy ยังไม่มีกฎหมายที่เรียกว่าสิทธิพลเมือง (Civil Rights) ให้ความเสมอภาค การเมืองของอเมริกามีตัวแทนของทุกๆ รัฐ โดยเฉพาะวุฒิสภาสูงของสหรัฐฯ เน้นคนในรัฐบาลใต้เป็นจำนวนมากคัดค้านกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิความเท่าเทียมกัน Kenedy ออกกฎหมายไม่สำเร็จแต่บรรยากาศจาก “I havea dream” ยังอยู่
6. Lyndon Baines Johnson เป็นประธานาธิบดีหลังจาก John F.Kenedyถูกฆ่าตาย และได้อิทธิพลจาก Martin Luther king, Jr. มาก ได้ออกกฎหมายให้สิทธิเท่าเทียมกันระหว่างผิวขาวและผิวสีในปี 1964 สำเร็จมากขึ้นมีการเดินประท้วงที่เรียกว่า March on Washington ที่ Martin LutherKing,Jr. กล่าวหน้าอนุสาวรีย์ของ Lincoln ว่า “I have a dream” และ King ถูกฆ่าในปี 1968 Lyndon Baines Johnson เป็นประธานาธิบดี ปัญหาระหว่างผิวก็ลดลง เพราะได้ออกกฎหมายสิทธิทางสังคม (Civil Rights)หลายฉบับ ในปี 1964 และปีต่อมาในปี 1965 และ 1966 เช่น กฎหมายเรื่องที่อยู่อาศัย กฎหมายเรื่องการรักษาพยาบาลให้คนผิวสี และผู้เสียเปรียบในสังคมเรียกรวมว่ากฎหมายชื่อ Great Society (สังคมที่เป็นเลิศ)
ยุค Trump ดูจะสร้างความแตกแยกระหว่างผิวมากขึ้น เพราะ Trump เน้นฐานเสียงเป็นผิวขาวที่ไม่จบมหาวิทยาลัยมากกว่า ซึ่งกลายเป็นวิกฤติขนมชั้นต่อมา เป็นผู้นำที่สร้างความเหลื่อมล้ำระหว่างผิวมากขึ้นเพราะมีปัจจัยทางการเมืองทำให้ปัญหาวิกฤติรุนแรงเรื่องผิวมากขึ้น มาระเบิดเพราะ George Floyd นี่เอง
จากการทำสำรวจความนิยมเมื่อเร็วๆ นี้ เหตุการณ์ของ George Floyd ทำให้คะแนนของ Trump ตกลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องปัญหาการเหยียดผิว เพราะคนรุ่นใหม่ในอเมริกาไม่เห็นด้วย ที่มีประธานาธิบดีสร้างความแตกแยกมากกว่าความปรองดองในประเทศ และคาดว่าผลการเลือกตั้งในปลายปีนี้ Trump อาจจะเป็นประธานาธิบดี แค่สมัยเดียว
ที่เป็นวิกฤติขนมชั้นในอเมริกาคือ นอกจากการประท้วงเกิดขึ้นในขณะเดียวกัน Trump แก้ปัญหา COVID ยังไม่ได้ เพราะการประท้วงทั้งสหรัฐ ไม่มีการห่างทางสังคม สร้างปัญหา COVID มากขึ้น คนอเมริกาไม่ไว้ใจ Trump ในการแก้ปัญหา COVID อยู่แล้ว ตัวเลขปัจจุบันของอเมริกา มีความสับสนมาก คือกว่า 20 รัฐตัวเลขสูงขึ้น ในขณะที่ประมาณ20 รัฐตัวเลขทรงและมีแนวโน้มจะลดลง มีตัวอย่าง 5 รัฐที่คนป่วยเพิ่มขึ้น
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา 2,066,401 คน
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ ในสหรัฐอเมริกา 20,852 คน
5 รัฐของสหรัฐอเมริกาที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ประจำวันสูงสุด
ที่มา https://www.worldometers.info/coronavirus/country/us/
ข้อมูล ณ วันที่ 11 มิถุนายน 2563
เหตุผลที่บางรัฐลดลง เพราะผู้นำรัฐของเขามีความสามารถในการเปิดธุรกิจอย่างระมัดระวัง รอให้ตัวเลขผู้ป่วยลดลงแบบชัดเจน เช่น รัฐนิวยอร์ก แต่ Trump ไม่เคยมองรูปแบบของนิวยอร์ก เขาเน้นเศรษฐกิจมาก่อน การแพทย์เสนออะไร เขาไม่เชื่อเปิดธุรกิจเร็วเกินไป ทำให้โรค ในอเมริกาเพิ่มขึ้น เพราะมีความเสี่ยงมากขึ้น กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ได้ของ Trump เปิดรัฐเพราะต้องการให้เศรษฐกิจเดินหน้า เอาใจฐานเสียง ไม่วิตกเรื่องความตาย เป็นวิธีการที่ได้เศรษฐกิจแต่เสียเรื่องโรคยังร้ายแรงอยู่ เป็นการได้อย่างเสียอย่างที่ไม่ฉลาด แถมมีการประท้วงทำให้การระบาดของโรคไม่ลดลง
ในเมืองไทย ตัวเลข COVID ของเรา ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะมีผู้ป่วยมาจากต่างประเทศเท่านั้น และการเปิดทำการเป็นช่วงๆ ระวังทุกอย่างก้าวแบบฉลาด (Smart Trade-off) ผู้นำเชื่อในวิทยาศาสตร์ ไม่ได้คำนึงถึงฐานการเมือง
ยอมรับว่านายกฯประยุทธ์ทำหน้าที่ได้ดี การเมืองไทยจะมีปัญหาก็แต่นักการเมืองรุ่นเก่าเล่นการเมืองแบบผลประโยชน์เท่านั้น มองว่าคุมเสียง สส.ได้เท่าไหร่ ตำแหน่งต้องสูงขึ้น มีผลประโยชน์สูงขึ้น โดยเฉพาะเล็งที่งบประมาณ 400,000 ล้านบาท เป็นอาหารอันโอชะ
ผมจึงขอฝากท่านนายกฯประยุทธ์ ให้ใช้นโยบาย เช่น นายกฯเปรมคือ มีโควตารัฐมนตรีกลาง ที่เป็นคนซื่อมือสะอาดไว้จำนวนหนึ่ง และที่เหลือก็แบ่งกันไปกับนักการเมืองอาชีพ อำนาจต่อรองของท่านนายกฯ ก็คือท่านเป็นคนมือสะอาดเป็นหัว ประเทศก็จะไปรอด และค่อยๆ ปรับให้บทบาทของวุฒิสภามีในช่วงหลัง 5 ปี จะได้ลดแรงกดดัน
ส่วนการขัดแย้งประเด็นประท้วงบนท้องถนนวันนี้คงยังไม่มีแบบในอเมริกา แต่ยังมีบางกลุ่มที่พยายามเคลื่อนไหวนำปัญหา “I can’thave a breath” มาเป็นปัญหาขัดแย้งระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย โดยเฉพาะการหายตัวของนายวันเฉลิม มีนักการเมืองบางคนใช้คำว่า “ฉันหายใจไม่ออก” ทำนองเป็นการโจมตีรัฐบาลไทยว่ามีส่วนรู้เห็น แต่เท่าที่ผมทราบคุณวันเฉลิม มีคดีผิดกฎหมายคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่คดีเช่น ม.112 กลับมาสู้คดีได้ ไม่จำเป็นต้องหนีไปต่างประเทศ ตรงประเด็นหรือไม่
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
Martin Luther King,Jr. ได้พบประธานาธิบดี John F. Kenedy และมีอิทธิพลต่อการยอมรับปัญหาผิวของ Kenedy
หลังจาก Kenedy เสียชีวิต ประธานาธิบดี Johnson ได้สานต่อนโยบายความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ King มีอิทธิพลมากขึ้น
Trump Caricature
ความโหดร้ายของตำรวจ
ฝ่ายไม่ชอบทหารหาเรื่องโยงวันเฉลิม กับ “ฉันหายใจไม่ออก”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี