เหลืออีกเพียงไม่กี่วัน เดือนเมษายนของปี 2567 ก็กำลังจะผ่านพ้นไปแล้ว ซึ่งสำหรับคนไทย เดือนนี้ของทุกปีมีความพิเศษเพราะเป็นเดือนแห่ง “เทศกาลสงกรานต์” ทั้งประเพณีทางการทั่วประเทศในวันที่ 13-15 เมษายน รวมถึง “วันไหล” อันเป็นประเพณีสงกรานต์เฉพาะบางท้องถิ่นเพิ่มเติม โดยในปี 2567 นี้การจัดงานเทศกาลสงกรานต์ปิดท้ายกันไปเมื่อวันอาทิตย์ที่21 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา ณ ย่านพระประแดง จ.สมุทรปราการ
นอกจากจะเป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนานจากการเล่นสาดน้ำ จนกลายเป็นหนึ่งในอีเว้นท์การท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกแล้ว เทศกาลสงกรานต์ยังถือเป็น 1 ใน 2 เทศกาลที่เป็นช่วงวันหยุดยาวของประเทศไทย (อีกเทศกาลหนึ่งคือส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ตามปฏิทินสากล) เป็นช่วงเวลาที่คนทำงานไกลบ้านจะได้เดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่ภูมิลำเนา ก่อนจะกลับมาสู้ชีวิตกันอีกครั้งหลังเทศกาลผ่านพ้น
และเมื่อมีการเดินทางจำนวนมากกว่าปกติ “อุบัติเหตุบนท้องถนน” จึงเป็นเรื่องที่รัฐและภาคีเครือข่ายต่างๆ ให้ความสำคัญ เกิดเป็นช่วง “7 วันอันตราย” ที่จะมีการเก็บสถิติอุบัติเหตุและเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการจราจรอย่างแข็งขันเป็นพิเศษ โดย 7 วันอันตราย สงกรานต์ 2567 ตรงกับ วันที่ 11-17 เม.ย. 2567 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,044 ครั้งมีผู้เสียชีวิต 287 ราย บาดเจ็บ 2,060 คน ยอดคดีความถูกจับคุมประพฤติ 7,388 คดี ในจำนวนนี้เป็นข้อหาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับถึง 7,130 คดีหรือร้อยละ 96.51 รองลงมาเป็นข้อหาเสพยาเสพติดแล้วขับ 255 คดี
“แม้จะผ่านช่วง 7 วันอันตรายในเทศกาลสงกรานต์ แต่การทำงานการเฝ้าระวังอุบัติเหตุบนท้องถนนของทุกภาคส่วนยังคงเข้มข้นตลอดทั้งปี” ดังที่ ธัญญา แสงอุบล ผู้รับผิดชอบโครงการเสริมศักยภาพชุมชนท้องถิ่นเพื่อการจัดการความปลอดภัยทางถนน เล่าถึงการทำงานของ “เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่” ซึ่งมีท้องถิ่นกว่า 3,000 ตำบลในการเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในส่วนของสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3)
ธัญญาเล่าว่า ในปี 2564 เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานขับเคลื่อนเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนของเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่อย่างเป็นระบบ และมีแนวโน้มอุบัติเหตุลดลงเรื่อยๆ ในแต่ละพื้นที่ เมื่อเครือข่ายยิ่งทำงาน ยิ่งแบ่งปันข้อมูล ยิ่งเห็นนวัตกรรมดีๆที่สำคัญคือได้ร่วมแลกเปลี่ยนกัน ทำให้ตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่เครือข่ายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
“จากการร่วมกันจัดการความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 มาถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 จาก 115 อปท. (ปัจจุบัน 189 อปท.)จำนวนการเกิดเหตุปี 2565 เกิดจำนวน 136 ครั้ง มา ปี 2566 เกิดเหตุ 89 ครั้ง ลดลง 47 ครั้ง หรือคิดเป็นร้อยละ 34.56 ซึ่งส่งผลให้สามารถลดจำนวนการบาดเจ็บและเสียชีวิตได้” ธัญญา กล่าว
ขณะที่ โยธิน อำพิน นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญพิเศษ เครือข่ายทำงานตำบลขับขี่ปลอดภัยของ อบต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี กล่าวว่า ภาพของอำเภอเมืองอุทัยธานีในปี 2567 เกิดอุบัติเหตุจำนวน 23 ราย แม้จะมีนักท่องเที่ยวและประชาชนออกมาเล่นน้ำสงกรานต์และสัญจรบนถนนกันเยอะ แต่การเกิดอุบัติเหตุลดลงกว่าช่วงสงกรานต์ 2 ปีก่อนหน้า โดยในปี 2566 เกิดเหตุในช่วงสงกรานต์ 7 วันอันตราย จำนวน 34 ราย และปี 2565 จำนวน 38 ราย โดยมี “ปฏิทินจุดเสี่ยง” เป็นนวัตกรรมสำคัญในการป้องกันและลดอุบัติเหตุ
สำหรับปฏิทินจุดเสี่ยง เป็นนวัตกรรมที่เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ที่ร่วมรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย นำมาใช้ โดยให้แต่ละชุมชนร่วมกันกำหนดจุดเสี่ยงและจุดอันตรายที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ รวมถึงการกำหนดแผนการเฝ้าระวังอุบัติเหตุในแต่ละช่วงเทศกาลวันหยุด มีการประชุมร่วมกัน เตรียมความพร้อมในเรื่องของข้อมูลจุดเสี่ยง เน้นไปที่การปรับสภาพจุดเสี่ยงทั้งหมดในพื้นที่ และการพัฒนาศักยภาพของคน
“บริบทของพื้นที่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี มีวัดท่าซุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ ซึ่งนักท่องเที่ยวเข้ามาทำบุญและสัญจรผ่านไป-มาเป็นจำนวนมาก แม้ไม่ได้อยู่ในถนนสายเอเชีย แต่ก็เป็นสายหลักของจังหวัด ซึ่งวัดก็เป็นหนึ่งในเครือข่ายการทำงานขับขี่ปลอดภัย ในการสนับสนุนบุคลากร เครื่องดื่ม บริการลดความเสี่ยง และลดการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ของเรา” โยธิน ระบุ
ด้าน ยุทธนา รัตนมณี ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ทต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร เล่าว่า การเดินทางในช่วงสงกรานต์ 2567 เริ่มหนาแน่นตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. 2567 ซึ่ง จ.ชุมพร ถือเป็นประตูสู่ภาคใต้จึงเป็นทางผ่านและจุดแวะพักของรถยนต์จำนวนมาก ภาพรวมสถิติใน จ.ชุมพร ทั้งจังหวัด ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เท่ากับปีที่ผ่านมา ในส่วนของ อ.เมือง เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุนั้น ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของเครือข่ายฯ ของ 5 อปท. ในชุมพรที่ทำงานขับเคลื่อนร่วมกัน แต่ก็มีความคิดจะชวนมาร่วมทำงานในอนาคต
“ในพื้นที่ ต.วังไผ่ เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด 3 ครั้ง วันที่ 11 เมษายน จำนวน 1 เคส เป็นชาวต่างชาติขับจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์ตรงจุดกลับรถ และวันที่ 13 เมษายน จำนวน 3 เคส ซึ่งทั้ง 4 กรณีนี้ เกิดจากการขับรถโดยไม่ระมัดระวัง ไม่มีกรณีเมาแล้วขับ เป้าของการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ชุมพรมีแผนการดำเนินงานเข้มข้น โดยใช้ นวัตกรรมปฏิทินจุดเสี่ยง ในการกำหนดแผนการทำงาน ทั้งในพื้นที่ และร่วมกับทุกหน่วยงานในจังหวัด บูรณาการการทำงานร่วมกัน จากทั้ง อปท. ในเครือข่าย 5 อปท. และร่วมกับเครือข่ายอื่นๆ” ยุทธนา กล่าว
จากเรื่องเล่าทั้งหมดข้างต้น นิสา รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) กล่าวว่า ในแต่ละพื้นที่ มีนวัตกรรมปฏิทินจุดเสี่ยง ในการกำหนดจุดเสี่ยง จุดอันตรายบนท้องถนน และช่วงระยะเวลาในการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น ขณะที่ สสส. หนุนเสริม การทำงานจากฐานข้อมูล ซึ่งแต่ละพื้นที่มีการเก็บรวบรวมอย่างเป็นระบบผ่านเครื่องมือ TCNAP และ RECAP นำมาวิเคราะห์ วางแผน และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
“บูรณาการทำงานร่วมกันกับ 4 องค์กรหลักในพื้นที่ ประกอบด้วย ท้องถิ่น ท้องที่ องค์กรภาครัฐ และภาคประชาชน บวกกับผู้นำ ทุนศักยภาพของพื้นที่ ด้วยเชื่อว่า ชุมชนท้องถิ่นจะเป็นกำลังสำคัญในการลดอุบัติเหตุได้อย่างเป็นรูปธรรม” รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) กล่าว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี