วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / นายซื่อตรงรักเมืองไทย
นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย
วันพฤหัสบดี ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 02.00 น.
ถึงเวลาชน(แก้)ปัญหา

ดูทั้งหมด

  •  

ปี 2020 เป็นปีที่หนักสำหรับโลกจริงๆ เพราะนอกจากการเผชิญไวรัสโคโรนาทั่วทุกประเทศแล้ว ล่าสุดก็เกิดเหตุระเบิดที่กรุงเบรุต เลบานอน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากมายและทำลายทรัพย์สินไปมหาศาล ที่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นการก่อวินาศกรรมหรืออุบัติเหตุจริงๆ เพราะการเมืองระหว่างประเทศที่ร้อนแรงในภูมิภาคก็ไม่อาจที่จะทิ้งประเด็นนี้ได้ เช่นเดียวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่นับวันจะรุนแรงขึ้นและเริ่มมีการวิเคราะห์แล้วว่าอาจปะทุใหญ่ในปีนี้ด้วยเช่นกัน

ขณะที่ประเทศไทยที่ประคองสถานการณ์การควบคุมการแพร่เชื้อโควิดได้ดี แต่อาจกำลังเตรียมเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศยิ่งกว่าปี’40 เหตุจากผลกระทบจากโควิดทั่วโลกทำให้เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศตกต่ำถึงขีดสุด และกำลังลามมาภายในประเทศไม่เกินปีนี้


ขณะที่โลกกำลังเผชิญว่าภาวะวิกฤติทางสาธารณสุขและกำลังเตรียมรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังมาถึงจากการคำนวณระยะเวลาการฉีดวัคซีนที่ยังไม่ใช่เร็ววันนี้ ในประเทศไทยเองสิ่งที่เรากำลังเผชิญหนักกลับคือความขัดแย้งทางการเมืองของคนเห็นต่างในทุกกลุ่มแนวคิด จนอาจกำลังถูกมองว่ากำลังดึงเรื่องทุกเรื่องในสังคมมาเป็นประเด็นทางการเมืองหรือไม่? เริ่มตั้งแต่ความกังวลในการแพร่ระบาดโควิดรอบสองจากกรณีชาวต่างชาติสองคนที่เข้าประเทศมาในเดือนก่อนแล้วไม่ได้อยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐอันเนื่องจากข้อตกลงระหว่างประเทศประจวบกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกมองว่าหละหลวมในการควบคุมติดตามจนกลายเป็นประเด็นการตอบสนองของรัฐต่อประชาชนและชาวต่างชาติที่ต่างกัน จนนำไปสู่การปลุกกระแสในโซเชียลมีเดียของคนรุ่นใหม่และสื่อออนไลน์ ในการต่อต้านการบริหารงานของรัฐบาลมากขึ้น

ขณะที่ปัญหาที่ทั่วโลกเผชิญและรัฐบาลทั่วโลกกำลังกังวลก็คือ ปัญหาเศรษฐกิจฝืดเคืองจากการปิดประเทศในช่วงวิกฤติโควิดนี้ และอาจจะลามเป็นวิกฤติเศรษฐกิจในรูปแบบต่างๆ ในปลายปีนี้ได้

ซึ่งหลายคนยกไปเปรียบเทียบกับ วิกฤติต้มยำกุ้ง ที่เกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2540 ว่าครั้งนี้ก็อาจหนักไม่แพ้กัน หรืออาจจะหนักกว่าด้วยซ้ำ เพราะว่าในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งนั่นผู้ที่ได้รับผลกระทบคือ คนรวยที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่กลุ่มเกษตรกร กลุ่มแม่ค้าทั่วไประดับกลางและล่างยังขายได้จะมีผลกระทบจากคนระดับกลางและล่างบ้างก็คือจากการปิดตัวของธุรกิจและคนตกงานแต่สุดท้ายพบว่าธุรกิจไม่ได้ปิดมากนักแต่เปลี่ยนเจ้าของเป็นชาวต่างชาติเสียส่วนใหญ่ นั่นเพราะการค้าระหว่างประเทศช่วยไว้ แต่ในช่วงวิกฤติไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ ไวรัสนอกจากทำลายปอดแล้วยังทำลายระบบเศรษฐกิจทุกประเทศทั่วโลกด้วย จึงไม่สามารถนำเอาการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศมาช่วยพยุงเศรษฐกิจในประเทศได้

ทุกคนได้รับผลกระทบหมดทั้งคนจน คนชนชั้นกลาง และคนรวย โดยเฉพาะคนจนหรือผู้มีรายได้น้อยอาจได้รับผลกระทบมากที่สุดเพราะไม่มีเงินสำรองให้ใช้ในช่วงที่ไม่มีรายได้ โครงการเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ 5,000 บาท จำนวน 3 เดือน ที่เป็นโครงการช่วยเหลืออาจช่วยได้เพียงเวลาสั้นๆ เท่านั้น หากต้องการช่วยเหลือประชาชนอย่างยั่งยืนและทั่วถึงรัฐบาลต้องเร่งหาทางออก ก่อนที่ปัญหาจะลุกลาม

โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อย SMEs ที่มีอยู่ประมาณ 3 ล้านราย สร้างการจ้างงานอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านราย ซึ่งถือว่าเป็นประชากรกลุ่มสำคัญที่ได้รับผลกระทบโดยตรงถ้าเกิดกลุ่มนี้ล้มขึ้นมาอาจจะนำไปสู่การพังครืนลงมาของเศรษฐกิจประเทศ และปัญหาอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องแนวโน้มที่คนไทยจะเสี่ยงตกงานในอนาคตอันใกล้นี้สูงถึง 8.4 ล้านคน นอกจากนี้ยังรวมถึงกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ราว 5.4 แสนคน ที่คาดว่ามีแนวโน้มที่จะหางานได้ยากขึ้นโดยเฉพาะเด็กจบใหม่ถ้าปล่อยว่างงาน 1-2 ปี อาจจะมีโอกาสตกงานถาวรเพราะส่วนหนึ่งเป็นการเรียนจบที่ไม่ตรงกับความต้องการนายจ้าง บวกกับผลกระทบของเชื้อไวรัสที่ทำให้ตลาดงานปิดตัวลงหรือต้องปรับตัวลดต้นทุนด้วยการลดพนักงาน สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่รัฐต้องไปร่วมกันเตรียมการรับมือหาทางออก ไม่ใช่การจัดหรือปรับเก้าอี้ครม.ใหม่

อย่างไรก็ตาม นอกจากเรื่องโควิดแล้ว รัฐบาลนี้ก็ยังเผชิญวิกฤติที่กำลังกลายมาเป็นวิกฤติการเมืองอีกเรื่องต่อมาเลยในตอนนี้ก็คือ วิกฤติศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม

เรื่องนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการล้มรัฐบาลมาแล้วหลายครั้งเพราะความไม่ยุติธรรมในสังคมเป็นเชื้อไฟที่จุดติดในใจของประชาชนง่าย และแม้ว่าฝ่ายตุลาการของประเทศไทยนั้นได้รับอำนาจให้ทำงานเป็นอิสระ รัฐบาลไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงการทำงานได้ แต่ในทางการเมืองก็ต้องยอมรับว่ายากที่จะรอดจากการถูกเชื่อมโยงในเรื่องอำนาจ กับระบบราชการ

โดยปัญหาครั้งนี้คือกรณี อันเกี่ยวเนื่องของคดีอุบัติเหตุรถชน ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิต ซึ่งคดีนี้กำลังเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ เพราะคดีมีความยืดเยื้อมานาน และยังไม่มีการดำเนินคดีทางกฎหมายเนื่องจากสถานะของผู้ต้องหา อยู่ระหว่างการหลบหนีคดี ถึงแม้ว่าผู้เสียหายจะได้รับค่าสินไหมทดแทนไปแล้วและมีการกล่าวอ้างว่าครอบครัวไม่ติดใจกับสาเหตุการตาย แต่หลายฝ่ายก็วิจารณ์ว่านั่นก็ไม่ใช่สาเหตุที่จะยุติการดำเนินคดี เพราะว่าคดีนี้เป็นอาญา การประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเป็นอาญาแผ่นดิน การชดเชยเป็นการบันเทาผลกระทบต่อครอบครัวผู้เสียหายเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ยังถูกโยงต่อไปอีกว่าการหลุดคดีของผู้ต้องหา เป็นผลมาจากการใช้อำนาจเอื้อกันของชนชั้นนำหรือไม่ เพราะมีการใช้กรรมาธิการกฎหมายยุค สนช. ซึ่งมีน้องชายพล.อ.ประวิตร เป็นกรรมาธิการ รื้อคดีสอบเองจนถูกตั้งคำถามว่ากลายเป็นจุดเปลี่ยนของคดีหรือไม่?

เรื่องนี้แม้จะบอกว่ากระบวนการยุติธรรมเป็นอิสระต่ออำนาจรัฐ แต่รัฐบาลคงไม่สามารถนิ่งเฉยได้ เพราะเรื่องนี้กำลังจะกลายเป็นประเด็นทางการเมือง หากไม่รีบดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งจะยิ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม และยังจะเป็นเหตุให้ผู้เห็นต่างทางการเมืองหยิบยกมาเป็นประเด็นโจมตีได้ และวิกฤติศรัทธาต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมกำลังจะกลายมาเป็นวิกฤติทางการเมือง

ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเฉพาะกิจและกำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบโดยมีนายวิชา มหาคุณเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา จึงต้องติดตามต่อว่าคณะกรรมการดังกล่าวจะสามารถนำความเป็นธรรมและความเชื่อมั่นของประชาชนกลับมาได้หรือไม่ แต่จริงๆ ก็นับว่ายังมีโอกาสในเรื่องนี้โดยรัฐบาลต้องเดินหน้าชนปัญหาอย่างไม่หลบอีกต่อไป แม้การทำงานในกระบวนการยุติธรรมจะเป็นอิสระแต่รัฐอาจใช้โอกาสนี้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมหรือที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างกลไกความเป็นธรรมที่แท้จริงและพัฒนาระบบให้สอดคล้องกับยุคสมัย ก็อาจกู้คืนศรัทธาจากประชาชนให้กลับมาทั้งเรื่องกระบวนการยุติธรรมและความเชื่อมั่นในรัฐบาล

นายกฯประยุทธ์เดินสายพบสื่อในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์กระแสหลักและสื่อออนไลน์แบบไม่เลือกค่ายหรือประเภท ในทิศทางแบบนี้ ไม่เคยทำมาก่อน และไปด้วยตนเองแบบนัดหมายล่วงหน้าไม่นาน และล่าสุดก็มีโปรแกรมจะไปพบกลุ่มเยาวชน นิสิต นักศึกษา นักเรียน กลุ่มต่างๆ ทั้งเห็นต่างและกลุ่มที่ไม่ใช่การเมือง ก็ไม่รู้ว่าใครช่วยคิดให้หรือไม่?

แต่นับว่าเป็นสิ่งหรือแนวคิดที่น่าสนใจ และเชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย เพราะอาจทำให้ได้เกิดความเข้าใจกัน สื่อเองโดยเฉพาะสื่อรุ่นใหม่ที่เชื่อว่าช่องว่างระหว่างวัยมีผลต่อความคิด เช่นเดียวกับเยาวชนนักศึกษาที่กำลังถูกสื่อปลูกฝังในเรื่องความแตกต่างทางความคิดเหล่านี้เมื่อมีโอกาสได้พบนายกฯจริงๆ สิ่งที่คาใจก็จะได้คำตอบ แต่นั่นก็ขึ้นกับการตอบและและการยอมรับจริงๆ ของนายกรัฐมนตรีด้วย ว่าจะสามารถเปิดใจรับฟังได้แค่ไหน และจะสามารถตอบคำถามสื่อสมัยใหม่และกลุ่มเยาวชนได้แค่ไหน อีกด้านที่ดีแน่นอนคือการทำให้ผู้นำประเทศได้มารับฟังความคิดของกลุ่มคนรุ่นใหม่รวมถึงแนวคิดการสื่อสารของสื่อสมัยใหม่ ว่าเหตุใดเขาคิดหรือมุมมองแบบใดจึงสื่อสารมาแบบนี้ โดยปกติเราจะเห็นหรือมองไปว่าพล.อ.ประยุทธ์จะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับปัญหาทางเมืองมากนักเมื่อเทียบกับบทบาทในการบริหารประเทศ แต่ในช่วงหลังที่ดูเหมือนนายกฯจะปรับเปลี่ยนกลวิธีมาเป็นการเดินชนปัญหาการเมือง ซึ่งอาจเป็นแนวทางที่ดีก็ได้......

“เหตุการณ์ในโลกคล้ายเกมหมากรุก แปรปรวนสุดหยั่ง มีผู้ใดคาดคำนวณชะตากรรมวันพรุ่งนี้ได้”

โกวเล้ง เรื่องมังกรเมรัย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
17:28 น. DSI ลุยสางคดีแม่พาลูกวัย 12 ขวบขายร้านนวดค้าประเวณีในญี่ปุ่น จ่อชงเป็นคดีพิเศษ
17:19 น. ‘ผบ.ตร.’ยันไม่ปวดใจ‘บิ๊กโจ๊ก-อัจฉริยะ’โจมตีตร. ไม่ได้แต่งตั้งเพื่อนร่วมรุ่น 41 หาผลประโยชน์
17:19 น. นักวิจัยชี้'โลกร้อน'ต้นเหตุพายุ-ไต้ฝุ่นถล่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รุนแรงขึ้นทุกปี
16:56 น. ‘อนุทิน’แถลงการณ์ 8 ข้อ สยบข่าวชิง‘ยุบสภา’ ยันเดินตาม MOA ไม่จับ‘รธน.’เป็นตัวประกัน
16:54 น. ‘อสส.’ทวง 2 ครั้ง ผ่าน 1 ปี ตำรวจเงียบกริบ ผลสอบเพิ่มคดี‘สส.ชนนพัฒฐ์’
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 2-8 พ.ย.68
โป๊ะแตก!!! 'นักเขียนดัง' แฉเบื้องหลัง 'นิสิตจุฬาฯ' ชูป้ายด่า'อภิสิทธิ์'
ขอบคุณ'คุณจ๋า'! ภรรยานายกฯอนุทิน เลือกใช้ 'กระเป๋า' ฝีมือคนไทยสู่สายตานานาชาติ
'โบว์ ณัฏฐา'โพสต์'อภิสิทธิ์'ตอบชัดทุกปม ซัดนิสิตจุฬาฯการรับฟังแย่มาก
ปลดฟ้าผ่า! มิสแกรนด์ราชบุรี-หนองคาย 2026 พร้อมเผยสาเหตุ
ดูทั้งหมด
MOU แร่แรร์เอิร์ธ ไทย-สหรัฐ ที่ล่องหน
วิชามารทางการเมือง
ต่ออายุให้ไทยเป็นเจ้าภาพ โมโต จีพี คุ้มหรือไม่? พิจารณายังไง?
บุคคลแนวหน้า : 7 พฤศจิกายน 2568
การเมืองของชีวิตประจำวัน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

DSI ลุยสางคดีแม่พาลูกวัย 12 ขวบขายร้านนวดค้าประเวณีในญี่ปุ่น จ่อชงเป็นคดีพิเศษ

‘ผบ.ตร.’ยันไม่ปวดใจ‘บิ๊กโจ๊ก-อัจฉริยะ’โจมตีตร. ไม่ได้แต่งตั้งเพื่อนร่วมรุ่น 41 หาผลประโยชน์

ไม่ใช่ผู้ชาย! 'บิ๊กโจ๊ก'ตีวงแคบ แฉอดีตนายกฯ ตั้งฐานในต่างประเทศ รับเคลียร์พนันออนไลน์

นักวิจัยชี้'โลกร้อน'ต้นเหตุพายุ-ไต้ฝุ่นถล่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รุนแรงขึ้นทุกปี

'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์ไอจีล่าสุด! ประกาศสถานะชัดทำชาวเน็ตแห่คอมเมนต์

'ฝันดี-ฝันเด่น'ขอบคุณน้ำใจ! มอบขนมให้พี่น้องประชาชน ที่มาร่วมถวายอาลัย'พระพันปีหลวง'

  • Breaking News
  • DSI ลุยสางคดีแม่พาลูกวัย 12 ขวบขายร้านนวดค้าประเวณีในญี่ปุ่น จ่อชงเป็นคดีพิเศษ DSI ลุยสางคดีแม่พาลูกวัย 12 ขวบขายร้านนวดค้าประเวณีในญี่ปุ่น จ่อชงเป็นคดีพิเศษ
  • ‘ผบ.ตร.’ยันไม่ปวดใจ‘บิ๊กโจ๊ก-อัจฉริยะ’โจมตีตร. ไม่ได้แต่งตั้งเพื่อนร่วมรุ่น 41 หาผลประโยชน์ ‘ผบ.ตร.’ยันไม่ปวดใจ‘บิ๊กโจ๊ก-อัจฉริยะ’โจมตีตร. ไม่ได้แต่งตั้งเพื่อนร่วมรุ่น 41 หาผลประโยชน์
  • นักวิจัยชี้\'โลกร้อน\'ต้นเหตุพายุ-ไต้ฝุ่นถล่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รุนแรงขึ้นทุกปี นักวิจัยชี้'โลกร้อน'ต้นเหตุพายุ-ไต้ฝุ่นถล่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รุนแรงขึ้นทุกปี
  • ‘อนุทิน’แถลงการณ์ 8 ข้อ สยบข่าวชิง‘ยุบสภา’ ยันเดินตาม MOA ไม่จับ‘รธน.’เป็นตัวประกัน ‘อนุทิน’แถลงการณ์ 8 ข้อ สยบข่าวชิง‘ยุบสภา’ ยันเดินตาม MOA ไม่จับ‘รธน.’เป็นตัวประกัน
  • ‘อสส.’ทวง 2 ครั้ง ผ่าน 1 ปี ตำรวจเงียบกริบ ผลสอบเพิ่มคดี‘สส.ชนนพัฒฐ์’ ‘อสส.’ทวง 2 ครั้ง ผ่าน 1 ปี ตำรวจเงียบกริบ ผลสอบเพิ่มคดี‘สส.ชนนพัฒฐ์’
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

11 พ.ค. 2566

นิ่งๆอาจกินเรียบ

นิ่งๆอาจกินเรียบ

4 พ.ค. 2566

ทางเลือกหรือทางรอด?

ทางเลือกหรือทางรอด?

27 เม.ย. 2566

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

20 เม.ย. 2566

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

13 เม.ย. 2566

ฉากเดิมๆ

ฉากเดิมๆ

6 เม.ย. 2566

ระฆังเริ่มยก

ระฆังเริ่มยก

30 มี.ค. 2566

ล้างไพ่สลายขั้ว

ล้างไพ่สลายขั้ว

23 มี.ค. 2566

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved