วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / นายซื่อตรงรักเมืองไทย
นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย
วันพฤหัสบดี ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2566, 02.00 น.
ฉากเดิมๆ

ดูทั้งหมด

  •  

เข้าสู่ช่วงของเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงเดือนที่เรียกได้ว่าร้อนที่สุดในรอบปี แต่สภาพอากาศที่ร้อนระอุของประเทศไทยคงไม่อาจเทียบเท่าอุณหภูมิของเวทีการเมืองที่เรียกได้ว่า ร้อนกว่าแดดที่กำลังแผดเผาพื้นที่ประเทศไทยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อเวลาในการนับถอยหลังเพื่อเข้าสู่ศึกเลือกตั้งนั้นขยับใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศบนเวทีการเมืองไทยนั้นยิ่งทวีความร้อนแรงขึ้นไปอีกตามลำดับ

สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ของการรับสมัครเลือกตั้ง สส.ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและระบบเขตเลือกตั้ง ซึ่งบิ๊กเนมหลายคนรอบนี้ลงในระบบเขตเลือกตั้ง แม้กระทั่งระดับแกนนำพรรคหรือหัวหน้าพรรคก็ตาม อย่างกรณีพรรคเพื่อไทย


ในเวทีของระบบเขตหนึ่งในจุดที่สำคัญและถูกจับตามองมากที่สุด คือ ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพฯ เขตดินแดง เพราะสนามเขตกทม.รอบนี้จะแตกต่างจากอดีตอย่างมาก เนื่องจากปกติพื้นที่กทม.จะเป็นพื้นที่คนเมืองที่จะเลือก
พรรคหลักๆ เพียงสองพรรค หรือไม่เกินสามพรรค ที่จะเข้าวินแต่รอบนี้ต้องบอกตามตรงว่าหลายคนยังมองออกยากมากเนื่องจากมีพรรคที่เข้ามาแข่งอย่างจริงจังเป็นพรรคหลักกทม.จำนวนมาก ว่ากันตั้งแต่ พรรคเพื่อไทย และพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ถูกประเมินว่าเป็นมวยคู่หลักจากสองฝั่ง แต่ในความเป็นจริงเพื่อไทยก็ประมาท ก้าวไกล ไม่ได้ นอกจากนี้ พรรคพลังประชารัฐในฐานะที่ครั้งที่แล้วเป็นแชมป์เก่ากทม.ก็มีความหวังเช่นกันเช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทย ที่มีอดีตสส.พลังประชารัฐ กทม.ย้ายไปซบมากที่สุดก็ตั้งใจจะวางหมุดกทม.รอบนี้ให้ได้ นอกจากนี้ ประชาธิปัตย์ ในฐานะแชมป์เก่าหลายสมัยในอดีตก็ตั้งใจจะมาล้างตาแต่จะไปได้กี่คนนั้นรายชื่อรอบนี้หลายเขตก็น่าสนใจโดยเฉพาะพื้นที่ชั้นใน ในขณะเดียวกัน พรรคของคุณหญิงหน่อยและพรรคของคุณกรณ์ที่ถือว่าทั้งสองมีฐานเสียงคะแนนความนิยมในกทม.ไม่น้อยเมื่อแยกมาตั้งพรรคตนเองแล้วจึงน่าติดตามอย่างยิ่ง

การที่มีการลงแข่งกันหลายพรรคในพื้นที่กทม.นอกจากจะดูความนิยมสูงสุดแล้ว การลงหลายพรรคจะทำให้เกิดการตัดคะแนนจนคาดเดาได้ยากว่าคะแนนจะพลิกไปทางใด จนเห็นได้ว่ามีการปรับยุทธศาสตร์โค้งสุดท้ายปรับผู้สมัครจากเขตไปเป็นบัญชีรายชื่อก็มีทั้งที่ขึ้นป้ายไปก่อนหน้านี้แล้ว เพราะแต่ละพรรคเมื่อเห็นเกมการแข่งขันแบบนี้ก็แทบจะต้องปรับยุทธศาสตร์กันใหม่เลย

เวทีกทม.สำคัญทั้งในแง่จำนวนสส.ที่มากที่สุดถึง 33 เขตและยังเป็นภาพลักษณ์สำคัญของพรรคการเมืองด้วยจึงไม่แปลกที่หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตของสังกัดพรรคการเมืองต่างๆ จะลงพื้นที่เพื่อมาส่ง สส. ในสังกัดด้วยตนเองแต่อย่างไรก็ตามก็มีหัวหน้าพรรคบางท่านที่ไม่ได้มาร่วม

อย่างในรายของนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ไม่ได้มาร่วมให้กำลังใจผู้สมัครในพื้นที่กรุงเทพฯเนื่องจากพรรคชาติไทยพัฒนานั้น เป็นพรรคเจ้าถิ่นแห่งเมืองสุพรรณบุรี อีกทั้งเมื่อมองเป้าหมายของพรรคชาติไทยพัฒนาคือการกวาดที่นั่งยกเมืองสุพรรณและเป้าหมายหลักที่ภาคกลางตอนล่าง ก็ยิ่งไม่แปลกใจหากพรรคชาติไทยพัฒนาจะไปเอาจริงเอาจังในพื้นที่ที่ตนเองชำนาญมากกว่าหรือไม่?

ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ที่แม้ดูจะมีความพยายามในการบุกตีตลาดฐานเสียงกทม.อย่างจริงจังในรอบนี้ แต่หัวหน้าพรรคเลือกที่จะมาโคราชซึ่งเป็นเมืองหลักภาคอีสานเป้าหมายหลักพรรคมากกว่า แต่ก็มีบางคนอาจวิพากษ์วิจารณ์ไปถึงการที่
คุณชูวิทย์อาจเข้ามาร่วมกิจกรรมนี้ด้วยหรือไม่?

อีกหนึ่งพรรคการเมืองที่หัวหน้าพรรคไม่ได้มาร่วมลุ้นในภาคพื้นที่กรุงเทพฯ นั่นคือพรรคเพื่อไทย ซึ่งหมอชลน่าน
ศรีแก้ว ไม่ได้เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า ส่วนตัวของหมอชลน่านนั้น ลงสมัคร สส. แบบแบ่งเขต จึงมีความจำเป็นที่ต้องเดินทางไปยังจังหวัดน่าน เพื่อจัดการการสมัครของตนเองให้เรียบร้อย

แต่เอาเข้าจริง ไฮไลท์หลักของพรรคเพื่อไทยกลับอยู่ที่รายชื่อแคนดิเคตนายกรัฐมนตรีของพรรคอย่างแพทองธาร
ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และหนึ่งในแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย ที่ได้เดินทางมาส่งสมาชิกในครอบครัวสีแดงด้วยตนเอง ซึ่งรอบนี้ต้องบอกว่าเพื่อไทยคาดหวังกับพื้นที่กทม.มากกว่าทุกครั้ง ทั้งจากกระแสพรรค กระแสผู้ว่าฯ กทม. ที่ทำให้แม้กระทั่งอดีตสส.จากพรรคอื่นเองก็ยังย้ายเข้ามาสังกัดใต้ร่มเพื่อไทยจากพรรคพลังประชารัฐและพรรคก้าวไกล แต่อย่างไรก็ตามอุปสรรคหลักของพรรคเพื่อไทยกลับไม่น่าใช่พรรครวมไทยสร้างชาติหรือพลังประชารัฐ แต่อาจเป็นพรรคก้าวไกลและพรรคไทยสร้างไทย ที่ต้องบอกว่าในหลายเขตสูสีมาก และนอกจากนี้อาจมีผลต่อการตัดคะแนนในทุกเขตด้วย

อีกหนึ่งพรรคการเมืองที่ดูจะแสดงความต้องการตีตลาดฐานเสียงกรุงเทพฯ อย่างชัดเจน คือพรรคภูมิใจไทย ที่นอกจากจะมีการชูนโยบาย 24 ชั่วโมง 7 วัน ดูแลคนกรุงเทพฯ เพื่อเอาใจชาวเมืองกรุงแล้ว ก็ยังรวบตึงบรรดา อดีต สส. กรุงเทพมหานคร จากพรรคการเมืองอื่นๆ เข้าร่วมสังกัด ทั้งสิ้นจำนวน 8 ราย ไม่ว่าจะเป็นจากพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ รวมถึงพรรคก้าวไกลจึงมีผลให้มีโอกาสได้ในหลายเขตและมีโอกาสตัดคะแนนให้เกมต้องเปลี่ยนไปหลายเขต

นอกจากประเด็นในเรื่องของผู้สมัครเขตในพื้นที่กรุงเทพฯในพื้นที่ต่างจังหวัดก็คึกคักและสร้างความน่าสนใจแล้วไม่แพ้กัน รอบนี้ขอยกศึกเมืองชลขึ้นมาก่อน ซึ่งแน่นอนว่าหากพูดถึงเมืองชลแล้ว แล้วตัวเต็ง 2 ขั้ว ก็คงหนีไม่พ้นคู่เกาเหลาคนเคยอยู่บ้านเดียวกัน ระหว่างศึกบ้านใหญ่คุณปลื้ม ที่ตอนนี้อยู่ใต้ชายคาของพรรคเพื่อไทยและ บ้านใหม่ ของนายสุชาติ ที่ในตอนนี้สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ

ซึ่งทั้งนายสนธยาและนายสุชาติ ก็ได้นำทัพผู้สมัครเข้าสู่กระบวนการด้วยตนเอง แต่หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจคือ มีกระแสข่าวว่า ทั้งสองท่านนี้ต่างฝ่ายต่างอยู่ในมุมของตน ไม่ทักทาย ไม่แสดงสัมพันธไมตรีต่อกัน เปรียบเสมือนนักมวยที่ต่างฝ่ายต่างทำสมาธิ รอเพียงเสียงระฆังเริ่มยกเพียงเท่านั้น

จับตาท้องถิ่นระดับอบต.และเทศบาลให้ดี เพราะตอนนี้แบ่งข้างชัดเจนว่าใครสนับสนุนใคร และขึ้นชื่อว่าเมืองเจ้าพ่อแล้ว ความเดือดดาลของทั้งสองคู่แข่งทางการเมืองทั้งสองชายคานี้นอกจากจะเกิดขึ้นเพราะขั้วตัวแทนของทั้งสองนั้น ต่างก็ดูจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกันอย่างชัดเจนแล้ว ยังมีเรื่องราวความขัดแย้งของทั้งสองที่ปูกันมาอีกด้วยหรือไม่ ศึกนี้บอกเลยว่าสนุกแน่ เพราะไม่มีใครยอมใคร ศึกนี้เดิมพันด้วยศักดิ์ศรีและสุดท้ายผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งเมืองชลตัวจริง เพราะหลายคนประเมินว่าไม่น่าจะเป็นการแบ่งพื้นที่กันดูแลเหมือนบ้านใหญ่จังหวัดอื่น?

งานนี้น้ำเค็มคงกลายเป็นน้ำเดือด

อย่างไรก็ตามไฮไลท์หลักในช่วงนี้ ก็คงเป็นเรื่องของลำดับบัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรค ก็ต่างได้มีการวางตัว วางลำดับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในเรื่องการวางลำดับบัญชีรายชื่อนั้นเอง ก็ทำเอาหลายพรรคเกิดความขัดแย้งภายในมาก่อนหน้าเป็นสัปดาห์แล้ว

อย่างในรายของพรรคเก่าแก่สุดอย่างพรรคประชาธิปัตย์เองที่ในรอบนี้ แม้ตัวเต็งในลำดับต้นๆ จะไม่พลิกโผ น่าจะมีทั้งหัวหน้าพรรคอย่างนายจุรินทร์ ตามมาด้วยท่านชวน หลีกภัย ตามมาด้วยผู้หลักผู้ใหญ่ภายในพรรค แต่อย่างไรก็ตาม ในลำดับที่หลังจากผู้ใหญ่ของพรรคก็มีข่าวขัดแย้งภายในให้ต้องระอุมาตลอดช่วงก่อนสมัคร ภายใต้การแข่งขันที่สูงขึ้นจึงนับเป็นความท้าทายภายใต้การนำทัพของนายจุรินทร์ จะพาให้พรรคประชาธิปัตย์กลับขึ้นสู่พรรคหลักอีกครั้ง ?

อีกหนึ่งพรรคการเมืองที่ก็มีเรื่องราวของ สส. บัญชีรายชื่อที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ พรรคเพื่อไทย ที่ไร้ชื่อของนายเศรษฐาทวีสิน และ แพทองธาร ปรากฏในลำดับบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เมื่อไม่นานนักหากยังจำกันได้ ครั้งหนึ่งพรรคเพื่อไทยเคยได้มีการเสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 159 มาแล้ว ซึ่งเป็นการเสนอเพียงเพิ่มช่องทางให้นายกรัฐมนตรีจะมาจากบัญชีของพรรคการเมืองก็ได้ หรือจะมาจากใครคนใดคนหนึ่งที่เป็น สส. ในสภาฯ ก็ได้ แต่ข้อเสนอดังกล่าวก็ถูกเบรกจาก สว. โดยลงมติให้ตกไปไม่รับไว้พิจารณา

ก่อนที่ในเวลาต่อมาพรรคเพื่อไทยจะยื่นข้อเสนอแก้ไขมาตรา 159 อีกคราว แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป โดยมี
ข้อกำหนดบังคับเลยว่า นายกรัฐมนตรีต้องเป็น สส. ในสภาฯ ที่ได้รับการเลือกตั้ง และต้องเป็นบุคคลผู้ที่พรรคการเมืองเสนอชื่อไว้ก่อนเลือกตั้งด้วย ซึ่งสอดคล้องกับการที่นายชลน่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เคยได้กล่าวไว้ว่าผู้ที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมาจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองเพียงเท่านั้น

อีกทั้งข้อเสนอบางส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้น มีบางส่วนที่คาบเกี่ยวกับอำนาจของ สว. ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาตรา 272 ที่พรรคเพื่อไทย ดูจะมีความพยายามในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการกับมาตรานี้หรือไม่? ภายใต้ชื่อภารกิจปิดสวิตช์ สว. แม้ในท้ายที่สุดความตั้งใจของพรรคเพื่อไทยก็ดูจะไม่เป็นผลก็ตาม

อย่างไรก็ตาม การที่เพื่อไทยไม่ได้ใส่ ชื่อทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลงในลำดับบัญชีรายชื่อ ทั้งที่ตนเองเป็นผู้เสนอให้แก้ไขข้อบังคับดังกล่าวก็น่าสนใจว่าจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อไทยมากน้อยเพียงใด?และหนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจก็คือจะมีพรรคการเมืองสังกัดใดใช้จุดนี้เพื่อโจมตีพรรคเพื่อไทยด้วยหรือไม่?

หันมาดูรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค พบว่ารอบนี้ส่งแบบคนเดียวอยู่หลายพรรค แต่โดยมากในหลายพรรคก็เสนอแคนดิเดตเดียวกับรอบที่แล้วหรือไม่ก็นักการเมืองที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว มีเพียงพรรคเพื่อไทยที่ส่งนักการเมืองหน้าใหม่ลงแคนดิเดตนายกฯถึงสองคนคือ แพรทองธาร ชินวัตร และเศรษฐา ทวีสิน

อย่างไรก็ตามแม้จะดำเนินการมาถึงช่วงของการลงสมัครของบรรดา สส. ทั้งแบบเขตและการยื่นบัญชีรายชื่อไปแล้วแต่หนึ่งในสิ่งที่ต้องจับตาดู นอกจากจะเป็นบรรยากาศ ของการเลือกตั้งแล้ว ยังมีกรณีของการที่ศาลปกครองนัดหารือคดีฟ้องกกต. ว่าด้วยเรื่องของการแบ่งเขตว่าเข้าข่ายการแบ่งเขตโดยมิชอบหรือไม่ ?

จากปมการแบ่งเขตเลือกตั้งของกรุงเทพฯ, สุโขทัย และสกลนคร ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเข้าข่ายไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ส่งผลต่อความไม่เป็นธรรมต่อผู้สมัครหรือไม่? ซึ่งหลังจบกระบวนการพิจารณา องค์คณะตุลาการเจ้าของสำนวนได้แย้งคู่กรณีทุกฝ่ายว่าศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีในวันที่ 7 เมษายน

อย่างไรก็ตาม เรื่องของกระบวนการยุติธรรมนั้น คงไม่อาจไปก้าวล่วง แต่ในส่วนของบรรยากาศการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งนั้น แน่นอนว่าจะเข้มข้นถึงพริกถึงขิงอย่างแน่นอน ที่นอกจากนโยบายแต่ละพรรคแล้วก็ต้องจับตาการจับผิดการดำเนินการหาเสียงของแต่ละฝ่ายไปจนถึงวันเลือกตั้งเลยทีเดียว?

“คนมีชีวิตอยู่ก็ต้องอดทน อดกลั้น ความหมายอีกหนึ่งของอดทน ...

คือดิ้นรนต่อสู้ อดกลั้นทนทานโดยไม่หยุดยั้ง ก็คือ ดิ้นรนต่อสู้โดยไม่หยุดยั้ง

มิเช่นนั้น ชีวิตของท่านจะไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง

เนื่องเพราะความจริงชีวิตเติบใหญ่ขึ้นจากห้วงทุกข์ทรมาน”

โกวเล้ง จาก ผู้ยิ่งใหญ่

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:36 น. ‘ปชน.’ยืนกระต่ายขาเดียว!จี้รักษาการนายกฯตัดสินใจ‘ยุบสภา’คืนอำนาจปชช.บี้ถอนร่างกาสิโนก่อนโดนคว่ำร่างฯ
12:30 น. ทัพคาเรนนียึดค่ายทหารพม่า'ผาซอง'เบ็ดเสร็จได้อีก 1 แห่ง! เจ็บกว่า 90 รายทยอยเข้าไทย
12:12 น. ไม่ใช่แค่ม็อบคนแก่! ม็อบ 28 มิถุนาฯ คือฐานเสียง'พรรค ปชน.' ชี้ฝ่ายค้านเอาแต่แก้ รธน. เมินปากท้องคนไทย
12:06 น. 'บี-วีณา-อามชุ'จูงมือชาว LGBTQIA+ เติมสีสันความเท่าเทียมใน 'พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล ไพรด์ เฟสติวัล 2025'
12:04 น. ประเดิม'สุริยะ'ทำหน้าที่นายกฯวันแรก ลงนามแต่งตั้ง'ภูมิธรรม'รักษาการนายกฯลำดับที่ 1
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
‘มาครง’เผยคุย‘แพทองธาร’แล้ว ลั่นคนไทยไว้วางใจมิตรภาพจาก‘ฝรั่งเศส’ได้เสมอ
‘หม่อมปนัดดา‘ ปรากฏตัวกลางม็อบ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ของดให้สัมภาษณ์สื่อ
แกว่งเท้าหาเสี้ยน! ปรากฏการณ์แฉโพย‘สายส้ม’เข้มข้น-ล่อนจ้อน
'ออสเตรเลีย'ออกคำเตือนพลเมืองมา'ไทย'หลังพบวัตถุต้องสงสัยหลายเมืองท่องเที่ยวภาคใต้
ดูทั้งหมด
ต้นสนยักษ์ร่วมสมัยกับฟาโรห์
‘คลิปเขมร’เหตุอัปยศ‘แพทองธาร’
รู้ทันคอร์รัปชันด้วยวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่ศีลธรรม
วาทกรรมเจ็บจี๊ด
อุ๊งอิ๊งค์ 2 ปรับ ครม. ฟอร์มาลีน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ไม่ใช่แค่ม็อบคนแก่! ม็อบ 28 มิถุนาฯ คือฐานเสียง'พรรค ปชน.' ชี้ฝ่ายค้านเอาแต่แก้ รธน. เมินปากท้องคนไทย

ยันเป็นเขตแดนไทย! ทบ.แจง Google Map ไม่มีผลด้านกฎหมาย หลังหมุดปราสาทโผล่เขมร

ชาวบ้านผวา! ชายคลุ้มคลั่งอาละวาดทำร้ายผู้หญิงบาดเจ็บ

'ภูมิธรรม'นั่งมท.1 ปัดหวังล้างแค้น'ภท.'คดีเขากระโดง ลั่นหากไม่ผิด ก็ไม่มีใครทำอะไรได้

บุกทลายร้านชำกระทุ่มแบน! พบปืนเถื่อน บุหรี่ไฟฟ้า น้ำท่อม ยาแก้ไอ วงพนันครบครัน

‘ผู้หญิง’ก็ต้องเกณฑ์ทหาร! ‘เดนมาร์ก’แก้กฎหมายรับสถานการณ์ความมั่นคง

  • Breaking News
  • ‘ปชน.’ยืนกระต่ายขาเดียว!จี้รักษาการนายกฯตัดสินใจ‘ยุบสภา’คืนอำนาจปชช.บี้ถอนร่างกาสิโนก่อนโดนคว่ำร่างฯ ‘ปชน.’ยืนกระต่ายขาเดียว!จี้รักษาการนายกฯตัดสินใจ‘ยุบสภา’คืนอำนาจปชช.บี้ถอนร่างกาสิโนก่อนโดนคว่ำร่างฯ
  • ทัพคาเรนนียึดค่ายทหารพม่า\'ผาซอง\'เบ็ดเสร็จได้อีก 1 แห่ง! เจ็บกว่า 90 รายทยอยเข้าไทย ทัพคาเรนนียึดค่ายทหารพม่า'ผาซอง'เบ็ดเสร็จได้อีก 1 แห่ง! เจ็บกว่า 90 รายทยอยเข้าไทย
  • ไม่ใช่แค่ม็อบคนแก่! ม็อบ 28 มิถุนาฯ คือฐานเสียง\'พรรค ปชน.\' ชี้ฝ่ายค้านเอาแต่แก้ รธน. เมินปากท้องคนไทย ไม่ใช่แค่ม็อบคนแก่! ม็อบ 28 มิถุนาฯ คือฐานเสียง'พรรค ปชน.' ชี้ฝ่ายค้านเอาแต่แก้ รธน. เมินปากท้องคนไทย
  • \'บี-วีณา-อามชุ\'จูงมือชาว LGBTQIA+ เติมสีสันความเท่าเทียมใน \'พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล ไพรด์ เฟสติวัล 2025\' 'บี-วีณา-อามชุ'จูงมือชาว LGBTQIA+ เติมสีสันความเท่าเทียมใน 'พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล ไพรด์ เฟสติวัล 2025'
  • ประเดิม\'สุริยะ\'ทำหน้าที่นายกฯวันแรก ลงนามแต่งตั้ง\'ภูมิธรรม\'รักษาการนายกฯลำดับที่ 1 ประเดิม'สุริยะ'ทำหน้าที่นายกฯวันแรก ลงนามแต่งตั้ง'ภูมิธรรม'รักษาการนายกฯลำดับที่ 1
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

11 พ.ค. 2566

นิ่งๆอาจกินเรียบ

นิ่งๆอาจกินเรียบ

4 พ.ค. 2566

ทางเลือกหรือทางรอด?

ทางเลือกหรือทางรอด?

27 เม.ย. 2566

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

20 เม.ย. 2566

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

13 เม.ย. 2566

ฉากเดิมๆ

ฉากเดิมๆ

6 เม.ย. 2566

ระฆังเริ่มยก

ระฆังเริ่มยก

30 มี.ค. 2566

ล้างไพ่สลายขั้ว

ล้างไพ่สลายขั้ว

23 มี.ค. 2566

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved