วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / นายซื่อตรงรักเมืองไทย
นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย
วันพฤหัสบดี ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
นิ่งๆอาจกินเรียบ

ดูทั้งหมด

  •  

พฤษภาคม เดือนแห่งการตัดสิน ว่าในท้ายที่สุดแล้วพรรคการเมืองใดจะสามารถคว้าชัยได้ ในสมรภูมิการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ ในทางการเมืองช่วงนี้ นักการเมืองจะเรียกว่าช่วงตะลุมบอน ใครมีของดีทั้งของตนเองหรือโจมตีฝ่ายตรงข้ามต้องงัดมาจะเลือกใคร ท่ามกลางกระแสการเมืองในรอบนี้ที่แบ่งขั้วชัดเจนจนกลายเป็นการสู้กันในฝั่งเดียวกันเป็นหลัก และออกมาใช้ในตอนนี้ เพราะเชื่อกันว่าในช่วงสัปดาห์สุดท้ายสัปดาห์หน้านั้นจึงจะเป็นช่วงตัดสินใจของคนที่อยู่ตรงกลางว่าทางเลือกทางการเมืองแบบตรงกลางก็อาจเก็บนิ่มๆ ไปกินโดยไม่ต้องทำคะแนนเพิ่ม? หากซ้ายตัดซ้าย ขวาตัดขวา จนสูสีไปหมด

ขั้วแรก


หากวัดกันที่กระแสงานนี้ไม่ง่ายสำหรับขั้วอนุรักษ์นิยมแน่ เพราะก็ต้องยอมรับว่าความนิยมของค่ายนี้นั้นไม่อาจวัดได้ในโลกโซเชียลของคนยุคใหม่ ประกอบกับจำนวนพรรคการเมืองในขั้วนี้ที่มากขึ้น ไม่ได้มีเพียงแค่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐเพียงเท่านั้น แต่ยังมีการก่อกำเนิดของพรรคน้องใหม่แต่ไม่ใหม่ประสบการณ์อย่างพรรครวมไทยสร้างชาติ เพิ่มขึ้นมาอีก นี่ยังไม่นับรวม ชาติพัฒนากล้า และสร้างอนาคตไทย

ซึ่งการอุบัติขึ้นของพรรครวมไทยสร้างชาติได้ส่งผลกระทบเต็มๆ ต่อทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะการมีพลเอกประยุทธ์ ยืนหนึ่งทุกโพลล์แห่งขั้วอนุรักษ์นิยมสังกัดอยู่ในพรรคก็น่าจะเป็นแต้มต่อเหนือพรรคการเมืองร่วมอุดมการณ์อยู่ไม่น้อย และยิ่งทำให้การแข่งขันในขั้วนี้ร้อนปรอทแตกอย่างแน่นอน เพราะผู้สมัครเขตหลักๆ ในสามพรรคนี้ก็วนไปวนมาในกลุ่มเดียวกันมาก่อนเกือบทั้งสิ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมรภูมิของภาคใต้ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นฐานที่มั่นเดิมของพรรคประชาธิปัตย์มาหลายยุคหลายสมัย จนมาเมื่อการเลือกตั้งปี’62 ที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ประกาศไม่เอาพลเอกประยุทธ์ ทำเอาเสียไปหลายที่นั่งให้กับพลังประชารัฐรวมถึงการตัดกันเองของสองพรรคนี้ก็นำไปสู่การแทรกตัวของพรรคที่สามสำเร็จในภาคใต้มาแล้ว แต่น่าสังเกตว่ารอบที่แล้วตัดกันอย่างไรพรรคตรงข้ามขั้วอุดมการณ์ก็ยังไม่สามารถแทรกตัวเข้ามาได้ในพื้นที่ภาคใต้

แน่นอนว่าความนิยมของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้คาดการณ์ว่าน่าจะยังเหนียวแน่นกับฝั่งอุดมการณ์เดิม เพราะทั้งคะแนนโพลล์ที่ภาคใต้ยังยกพลเอกประยุทธ์เป็นเบอร์หนึ่งมาตลอด รวมถึงการเลือกตั้งซ่อมครั้งที่ผ่านๆ มา พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังแรงดีไม่มีตกเก็บแต้มคืนได้ทั้งหมด

แต่หากจะวัดกันที่การเลือกตั้ง สส. รอบนี้ อาจต่างออกไปเพราะเมื่อพลเอกประยุทธ์ ได้ประกาศเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับพรรครวมไทยสร้างชาติ แบบเต็มตัว ก็น่าสนใจว่าท้ายที่สุดคะแนนในพื้นที่ภาคใต้นั้นจะออกมาในรูปแบบใดกันแน่ เพราะแม้คะแนนนิยมของผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่จะดีมากน้อยเพียงใดก็ตาม แต่คะแนนนิยมส่วนตัวของพลเอกประยุทธ์ก็ดีไม่แพ้กัน

ว่าท้ายที่สุดพรรคใดจะได้ใจคนน้ำเค็มไปครองกันแน่ เพราะว่ากันตามตรงแล้วพื้นที่ภาคใต้ก็คงเป็นพื้นที่ความหวังสูงสุดของทั้งสองพรรคการเมืองก็ว่าได้ เวทีนี้วัดกันแบบตัวต่อตัว ปอนด์ต่อปอนด์ ผู้ใดจะมาวินในสมรภูมินี้ ชื่อค่ายอย่างประชาธิปัตย์ หรือชื่อผู้นำอย่างพลเอกประยุทธ์ หรือจะแบ่งกันไปเขตกับบัญชีรายชื่อ แต่หากตัดกันรุนแรงแข่งกันสูสี มือที่สามอย่างภูมิใจไทยมีโอกาสแทรกได้เกือบทุกพื้นที่ เพราะตั้งแต่การวางตัวผู้สมัครไปจนถึงการลงพื้นที่ต่อเนื่อง ที่เดี๋ยวจะกล่าวต่อไป ในขณะที่ภูมิภาคอื่นอย่างกทม. พื้นที่คนเมืองที่เปลี่ยนใจบ่อยที่สุดนั้น ถูกประเมินไว้ว่าขั้วอนุรักษ์นิยมอาจคะแนนลดลงในรอบนี้หรือไม่ แต่ถึงกระนั้นตามสไตล์คนเมืองเลือกพรรคมาก่อนคน จึงอาจทำให้พอมองได้ว่าที่หนึ่งของสายนี้จะเป็นใครที่คนเมืองจะเทคะแนนให้แตกต่างกับอีกฝั่งที่ในโพลล์ดูจะสูสีกันเองกว่า ในขณะที่ภูมิภาคยึดตัวผู้สมัครมากกว่าทำให้การแข่งขันต้องดูเป็นรายพื้นที่ว่าเขตไหนตัดคะแนนกันเองกี่คน

อีกขั้ว

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็พบข่าวอันน่ายินดีสำหรับแฟนคลับพรรคเพื่อไทย จากการที่แคนดิเดต ผู้มีบทบาทหลักในการนำทัพพรรคเพื่อไทยสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ อย่างแพทองธารนั้นได้ให้กำเนิดทายาทคนที่สอง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวชินวัตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคุณตาอย่างอดีตนายกฯทักษิณ ที่ก็น่าจะยินดีไม่น้อยสำหรับการต้อนรับหลานคนที่ 7 แต่ก็ไม่วายที่จะกล่าวตัดพ้อว่าหลานทั้ง 7 คนนั้นได้ถือกำเนิดขึ้น ในขณะที่ตนนั้นอยู่ต่างประเทศทั้งสิ้นและได้กล่าวทิ้งท้ายว่าขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน พร้อมจากลาด้วยประโยคที่ว่า พบกันเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม หากมองย้อนอดีตการเมืองของพรรคเพื่อไทยจะพบว่า จุดขายของพรรคในครั้งที่ประสบความสำเร็จถูกมองว่ามาจากความเป็นชินวัตรทุกครั้ง ครั้งนี้ก็อีกเช่นกัน ที่เมื่อแพทองธารประกาศตัวเข้าร่วมดำเนินงานกับพรรคเพื่อไทยในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็ดึงเอาคะแนนโพลล์รวมถึงความเชื่อมั่นของคนในพรรคเองให้กลับมามากกว่าแม่เหล็กอื่นๆ ของพรรค และแม้กระทั่งช่วงที่เตรียมคลอดก็ยังมีบุตรชายอย่างนายพานทองแท้ไปช่วยประกบนายเศรษฐา เดินหาเสียงตลอด ซึ่งต้องติดตามต่อว่าในช่วงสองอาทิตย์สุดท้ายแพทองธารหลังคลอดจะสร้างปรากฏการณ์ใดให้เกิดขึ้นกับการแข่งขันภายในขั้วเพื่อดึงคะแนนจากก้าวไกลที่กำลังมีกระแสร้อนแรงในโซเชียลตอนนี้ได้หรือไม่ ?

เพราะต้องยอมรับว่าในช่วงหลังบทบาทของหมอชลน่าน อาจไม่มีพลังพอจะดึงดูดคะแนนให้พับพรรคเท่ากับคนตระกูล
ชินวัตร?

ไม่นานมานี้วลีเด็ดของนายชลน่านที่พูดถึงจุดยืนของตนเองกลางเวทีดีเบตรายการหนึ่ง ที่ได้กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย
ไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ และยืนยันว่าไม่มีดีลระหว่างพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย แม้จะรู้ผลการเลือกตั้งแล้วก็ตาม แต่อย่างไรเสียมติพรรคก็ย่อมเป็นไปตามมติพรรค แต่ตนนั้นกล่าวในนามหัวหน้าพรรค หากการจับมือระหว่างพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทยเกิดขึ้นจริง ตนนั้นพร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกจากหัวหน้าพรรค

ก็ไม่แน่ใจว่าจะส่งผลดีหรือผลเสียต่อพรรคเพื่อไทยทั้งในตอนนี้และในอนาคตหรือไม่?แต่การประกาศจุดยืนดังกล่าวของหมอชลน่าน ก็ได้พาให้แฟนคลับพรรคเพื่อไทยนั้นก็มีเสียงระงมอยู่ไม่น้อย พร้อมทั้งมีการยกไปเปรียบเทียบกับการประกาศจุดยืนของนายอภิสิทธิ์เมื่อการเลือกตั้งปี 2562?

และก็ต้องยอบรับว่า หลังจากการประกาศจุดยืนของหมอชลน่านนั้นได้แพร่หลายสู่สาธารณะมากขึ้นประชาชนกลับมีการพูดถึงโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐมากขึ้นไปอีก และนั่นก็อาจเป็นหนึ่งในโอกาสสำคัญสำหรับพรรคคู่แข่งร่วมฐานเสียงอย่างพรรคก้าวไกล ในการตีฐานคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยมาเป็นของตนมากขึ้นด้วยหรือไม่?เพราะอย่างที่บอกว่าครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันตีคะแนนกันในขั้วมากกว่า

ในระยะหลังมานี้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลนั้น ดูจะแลกหมัดกันบ่อยขึ้นและถี่ขึ้น แม้จะไม่ใช่การโต้เถียงกันโดยตรง แต่การตั้งประเด็นต่อจุดยืนของพรรคให้แฟนคลับในสายต้องเลือก กลับทำให้การแข่งขันยิ่งดุเดือดขึ้น ตั้งแต่ประเด็นการจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ ไปจนถึงล่าสุด เรื่อง 112

ประเด็นนี้น่าสนใจ เพราะความเก๋าของเพื่อไทยประกอบกับเป้าหมายแลนด์สไลด์ ที่ต้องการเสียงในวงกว้าง ทำให้เพื่อไทยเลือกวางจุดยืนที่ไม่สุดโต่งแม้จะลดความร้อนแรงจากความนิยมของคนกลุ่มหนึ่งไป แต่เมื่อมาถึงวันหนึ่งก็ถึงจุดพลิกให้คนที่เป็นต่อในประเด็นนี้มาเป็นรองให้มาโดนบีบให้ต้องประกาศชัดว่าจะแก้ หรือ จะยกเลิก 112 ซึ่งนายธนาธรก็พึ่งโดนคุณอภิสิทธิ์ต้อนในรายการถึงจุดยืนของพรรค ให้หวนนึกย้อนวันนี้เมื่อสี่ปีก่อนที่นายธนาธรเป็นคนต้อนคุณอภิสิทธิ์ให้ต้องตอบเรื่องจุดยืน แต่ต่างกันตรงที่คุณอภิสิทธิ์ประกาศเดิมพันและทำจริงเมื่อเลือกตั้งเสร็จ?

นี่ยังไม่นับประเด็นที่หัวหน้าก้าวไกลในเรื่อง นั่งแอร์ฟอร์ซวันกลับไทยเมื่อครั้งสมัยนายกฯทักษิณ ที่สุดท้ายเพื่อไทยก็กระโดดลงมาเล่นประเด็นนี้ด้วย แม้จะบอกว่าเป็นการตอบหลังจากถูกพาดพิงไปถึงก็ตาม แต่การตอบครั้งนั้นยังผลต่อความเชื่อมั่นของทั้งก้าวไกลและเพื่อไทยไม่น้อย

นอกจากความร้อนแรงในเชิงของจุดยืนที่ฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตายแล้ว อุณหภูมิของการแข่งขันก็แผ่ขยายไปถึงการแข่งขันในสมรภูมิผู้แทนเขตอีกด้วย

อย่างเช่นกรณีของสนามการประลองเขต 28 ที่พรรคเพื่อไทยได้ส่งแชมป์เก่า ตัวตึงย่านฝั่งธนอย่างนายวัน อยู่บำรุง หัวหน้าครอบครัวใจถึงพึ่งได้ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนายเฉลิมอยู่บำรุง ลงแข่งขัน โดยมุ่งหวังที่จะยึดเก้าอี้ผู้แทนเขตบางบอนอีกคำรบ แต่งานนี้คงไม่ง่าย เพราะพรรคก้าวไกลเองก็ดูจะเอาจริงเอาจังในการตีฐานบางบอนให้แตก โดยการส่งนางสาวรัชนก ศรีนอก นักเคลื่อนไหวทางการเมืองลงแข่งขัน และดูเหมือนจะได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนในพื้นที่ดีไม่น้อย ที่ถือเป็นการรุกจริงของก้าวไกลที่มีผลต่อการแข่งขันในขั้วไม่ใช่แค่เพียงการชิงคะแนนบัญชีรายชื่อแบบที่หลายคนมอง ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่ กทม. และตัวเมืองของต่างจังหวัด

อย่างไรก็ตาม หลังเลือกตั้งรอบนี้ไม่ว่าพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจะอยู่ฝั่งเดียวกันหรือไม่ก็ตาม แต่เราน่าจะได้เห็นความเป็นตัวของตัวเองของพรรคก้าวไกลที่ชัดเจนขึ้น ส่วนหนึ่งก็ถือเป็นความเติบโตทางการเมืองที่อาจมีเส้นทางแนวคิดที่แตกต่างจากพรรคอื่น อีกส่วนอาจมองได้ถึงจุดยืนและสถานะทางการเมืองของพรรคก้าวไกลที่จะเดินต่อไปในอนาคตด้วย

ในขณะที่ทั้งสองขั้วไม่ว่าจะเป็นขั้วอนุรักษ์นิยมและขั้วหัวก้าวหน้ากำลังได้รับความสนใจบนหน้าสื่อ พรรคที่ไม่เคยประกาศว่าอยู่ขั้วไหน กลับถูกมองว่าอยู่ขั้วตรงกลางพร้อมไปได้กับทุกฝ่าย อย่างพรรคภูมิใจไทยก็ดูจะค่อนข้างเงียบ ทั้งจากกระแส และจากแบบสำรวจคะแนนความนิยมของโพลล์หลายสำนักที่ผ่านมาที่ดูแล้วก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจสักเท่าไหร่นักในตอนแรก

ซ้ำร้ายกระแสข่าวที่แรงที่สุดของพรรคภูมิใจไทยในช่วงหลัง ก็ดูจะเป็นการถูกล่อเป้าเรื่องกัญชาจากขาใหญ่อย่างนายชูวิทย์ จนเสียหลักไปช่วงหนึ่ง ซึ่งก็น่าจะสร้างความหวั่นใจให้ประชาชนส่วนหนึ่งว่าพรรคภูมิใจไทยจะสามารถเอาตัวรอดจากการเลือกตั้งใหญ่ครั้งนี้ไปได้มากน้อยเพียงใด ?

แต่เอาเข้าจริงอย่างที่เคยได้วิเคราะห์ไปในครั้งก่อน ว่าคะแนนความนิยมที่ได้ทำการสำรวจจากประชาชนไปนั้น ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจมาจากฐานเดียวกันหรือแบบสำรวจเหล่านั้นอาจเกิดจากการชี้นำหรือไม่?และว่ากันตามตรงประชาชนกลุ่มตัวอย่างที่ได้ตอบแบบสอบถามนั้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวจากกลุ่มตัวอย่างเพียงเท่านั้น ไม่ใช่ประชาชนทั้งหมด
หรือไม่?

อย่างไรก็ตาม แม้ผลโพลล์หลายสำนักที่ออกมาจะไม่เข้าทางพรรคภูมิใจไทยสักเท่าไหร่นัก สวนทางกับพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ที่มาแรงแซงทางโค้ง แต่ผลคะแนนความนิยมต่างๆก็มักจะสะท้อนไปที่ชื่อพรรคและคะแนนบัญชีรายชื่อเป็นหลักเสียมากกว่า ซึ่งคะแนนบัญชีรายชื่อ 100 ที่นั่ง ก็ยังดูสัดส่วนน้อยเกินไปที่จะสร้างอิมแพคทางการเมืองหรือไม่?คะแนนเสียงของ สส. เขตจึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการจัดตั้งรัฐบาล

ซึ่งจากการเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2562 พรรคภูมิใจไทย ก็เป็นพรรคที่กระแสค่อนข้างนิ่งมาโดยตลอด ทั้งช่วงหาเสียง อาจจะพูดได้ว่าเบากว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ผลการเลือกตั้งที่ออกมาก็ยังสามารถกวาดที่นั่งผู้แทนเขตไปถึง 39 ที่นั่ง พร้อมทั้งกวาดคะแนนบัญชีรายชื่อไปอีก 12 ที่นั่ง ก่อนจะมาเก็บเพิ่มในภายหลังได้อีกไม่น้อย

มารอบนี้ การแข่งขันก็เป็นไปลักษณะดังกล่าวหรือไม่?แต่สองฝั่งอุดมการณ์นั้นมีการแข่งขันที่สูงขึ้นและเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม และก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุดมการณ์ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ประกอบการตัดสินใจของประชาชน แต่การที่มีการแตกพรรคของทั้งสองฝั่ง ก็อาจจะส่งผลให้ตัดคะแนนกันเองและมีแนวโน้มสูสีในหลายเขตรวมถึงผู้ชนะสูงสุดอาจมีคะแนนลดลงหรือไม่ ?

ในขณะที่ฐานภูมิใจไทย มักเป็นฐานเขตที่ได้รับชัยชนะจากตัวบุคคลเป็นหลักจึงน่าจะกระทบจากการตัดคะแนนน้อยกว่า เพราะนอกจากที่พรรคภูมิใจไทยในรอบนี้จะสามารถเรียก สส.เขตจากพรรคต่างๆ เข้ามาไว้ในอ้อมอกได้มากกว่าพรรคใดซึ่งก็น่าจะเพิ่มคะแนนในจุดแข็งของตนเองอยู่แล้ว แบบไม่ต้องไปตีกับใคร ในขณะเดียวกัน อาจได้ประโยชน์อย่างมากจากการตัดคะแนนของสองฝั่งแบบสูสีอีกด้วย

ไม่แน่ว่างานนี้เราอาจได้เห็นพรรคภูมิใจไทยเก็บชัยชนะได้จากหลายสมรภูมิการแข่งขันแบบไม่ได้คาดคิดก็เป็นได้หรือไม่?เพราะนอกจากภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนใต้ ภาคกลางบางส่วน ที่พรรคภูมิใจไทยน่าจะได้กินแบบนิ่มๆ แล้ว ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและในบางเขตของประเทศที่พรรคภูมิใจไทยอาจสร้างเซอร์ไพรส์ รวมถึงสมรภูมิสุดหินอย่างภาคใต้เองก็น่าจะยังพอมีลุ้นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

ศึกนี้ก็ไม่แน่ว่าเราอาจได้เห็นพรรคภูมิใจไทยผงาดขึ้นมาในอีกคำรบ

การแข่งกันดุเดือดของทั้งสองข้าง เข้าทางมือที่สามแบบสุดๆ โดยอาจไม่ต้องเก็บแต้มเพิ่ม

“ความหมายของชีวิตที่จริงก็คือ มานะพยายามต่อสู้ด้วยความเข้มแข็ง”

โกวเล้ง จาก ราศีดอกท้อ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:24 น. สตม.โชว์ผลงาน! รวบ'ชาวจีน'หนีคดีค้ายา-แชร์ลูกโซ่
13:23 น. เชิญชมเทศกาลศิลปะ ‘พระนคร ออน โอ่งอ่าง : หันน่าเข้าคลอง’ 11-13 ก.ค.นี้
13:23 น. อำลาเจลีก!บีจีดึง'เจริญศักดิ์'คืนทัพสู้ไทยลีก
13:19 น. (คลิป) 'ณัฐวุฒิ'แซะ! ดาบในมือศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นอาวุธทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
13:19 น. 'พิธา' ของจริง หรือ ของปลอม? วิจารณ์แนวคิด'ขี้ข้าชาวตะวันตก' ไม่สอดคล้องความจริง
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
‘มาครง’เผยคุย‘แพทองธาร’แล้ว ลั่นคนไทยไว้วางใจมิตรภาพจาก‘ฝรั่งเศส’ได้เสมอ
‘หม่อมปนัดดา‘ ปรากฏตัวกลางม็อบ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ของดให้สัมภาษณ์สื่อ
แกว่งเท้าหาเสี้ยน! ปรากฏการณ์แฉโพย‘สายส้ม’เข้มข้น-ล่อนจ้อน
'ออสเตรเลีย'ออกคำเตือนพลเมืองมา'ไทย'หลังพบวัตถุต้องสงสัยหลายเมืองท่องเที่ยวภาคใต้
ดูทั้งหมด
ต้นสนยักษ์ร่วมสมัยกับฟาโรห์
‘คลิปเขมร’เหตุอัปยศ‘แพทองธาร’
รู้ทันคอร์รัปชันด้วยวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่ศีลธรรม
วาทกรรมเจ็บจี๊ด
อุ๊งอิ๊งค์ 2 ปรับ ครม. ฟอร์มาลีน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อำลาเจลีก!บีจีดึง'เจริญศักดิ์'คืนทัพสู้ไทยลีก

'พิธา' ของจริง หรือ ของปลอม? วิจารณ์แนวคิด'ขี้ข้าชาวตะวันตก' ไม่สอดคล้องความจริง

(คลิป) 'ณัฐวุฒิ'แซะ! ดาบในมือศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นอาวุธทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

ตำรวจพะเยาไล่ล่าแก๊งค้ายา ยิงสกัดยึดยาบ้า 1.5 แสนเม็ด คนร้ายเผ่นหนีเข้าป่า

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศกระทรวงมหาดไทย ขอสละสัญชาติไทย จำนวน 195 ราย

มีประโยชน์ยามเกิดภัยพิบัติ! ‘บก.ลายจุด’แนะแจก‘พาวเวอร์แบงก์’เป็นของที่ระลึก

  • Breaking News
  • สตม.โชว์ผลงาน! รวบ\'ชาวจีน\'หนีคดีค้ายา-แชร์ลูกโซ่ สตม.โชว์ผลงาน! รวบ'ชาวจีน'หนีคดีค้ายา-แชร์ลูกโซ่
  • เชิญชมเทศกาลศิลปะ ‘พระนคร ออน โอ่งอ่าง : หันน่าเข้าคลอง’ 11-13 ก.ค.นี้ เชิญชมเทศกาลศิลปะ ‘พระนคร ออน โอ่งอ่าง : หันน่าเข้าคลอง’ 11-13 ก.ค.นี้
  • อำลาเจลีก!บีจีดึง\'เจริญศักดิ์\'คืนทัพสู้ไทยลีก อำลาเจลีก!บีจีดึง'เจริญศักดิ์'คืนทัพสู้ไทยลีก
  • (คลิป) \'ณัฐวุฒิ\'แซะ! ดาบในมือศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นอาวุธทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง (คลิป) 'ณัฐวุฒิ'แซะ! ดาบในมือศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นอาวุธทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
  • \'พิธา\' ของจริง หรือ ของปลอม? วิจารณ์แนวคิด\'ขี้ข้าชาวตะวันตก\' ไม่สอดคล้องความจริง 'พิธา' ของจริง หรือ ของปลอม? วิจารณ์แนวคิด'ขี้ข้าชาวตะวันตก' ไม่สอดคล้องความจริง
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

11 พ.ค. 2566

นิ่งๆอาจกินเรียบ

นิ่งๆอาจกินเรียบ

4 พ.ค. 2566

ทางเลือกหรือทางรอด?

ทางเลือกหรือทางรอด?

27 เม.ย. 2566

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

20 เม.ย. 2566

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

13 เม.ย. 2566

ฉากเดิมๆ

ฉากเดิมๆ

6 เม.ย. 2566

ระฆังเริ่มยก

ระฆังเริ่มยก

30 มี.ค. 2566

ล้างไพ่สลายขั้ว

ล้างไพ่สลายขั้ว

23 มี.ค. 2566

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved