วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / นายซื่อตรงรักเมืองไทย
นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย
วันพฤหัสบดี ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2566, 02.00 น.
ทางเลือกหรือทางรอด?

ดูทั้งหมด

  •  

เข้าสู่ช่วงปลายเดือนเมษายน อีกไม่นานกระบวนการเลือกตั้งซึ่งเป็นศึกตัดสินว่า พรรคการเมืองใด จะมีชัยในสมรภูมิใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นกันแน่ และเมื่อเวลาแห่งการรอคอยนั้นกำลังจะถึงคราวสิ้นสุด ทุกพรรคการเมืองก็ต่างเดินหน้าอย่างเต็มพิกัด

อย่างในฝั่งของพรรคแกนนำขั้วอนุรักษ์อย่างพรรครวมไทยสร้างชาติที่มีแคนดิเดตเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้เดินสายลงพื้นที่อย่างไม่ลดละ อีกทั้งยังปรากฏภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ขึ้นเวทีปราศรัยซึ่งดูจะปรากฏมาดของนักการเมืองมากขึ้น


ส่วนทางด้านของพรรคพี่ใหญ่อย่างพรรคพลังประชารัฐที่นำโดยรุ่นพี่ร่วมสถาบัน อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ลงพื้นที่กันอย่างหนักหน่วงทั้งภาคกลางและภาคอีสาน เพื่อพบปะประชาชนในพื้นที่ ก็เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อยเช่นกัน เพราะในยามนี้เมื่อพรรคพลังประชารัฐไม่ได้มี พล.อ.ประยุทธ์ ในการเรียกคะแนนเสียงดังเดิม แม่เหล็กดูดคะแนนเสียง จึงดูจะเป็นหน้าที่ของพลเอกประวิตรพี่ใหญ่เพียงเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีผลแค่ประชาชนที่มาฟังแต่เมื่อพลเอกประวิตรไปที่ใดก็ทำให้ผู้สมัครลูกพรรคในพื้นที่นั้นๆ จิตใจอิ่มเอมมีพลังแน่นมากกว่าพื้นที่อื่น

แต่อย่างไรก็ตามแม้พรรคการเมืองทั้งสองพรรคตัวตึงจากทางฝั่งขั้วรัฐบาลหรือที่เรียกกันในนามขั้วอนุรักษ์นิยมจะลงพื้นที่พบปะประชาชนมากน้อยเพียงใด แต่ตัวเต็งในการจัดตั้งรัฐบาลอาจไม่ใช่สองพรรคนี้ก็ได้หรือไม่?

แน่นอนว่าหนึ่งในพรรคการเมืองที่ในตอนนี้ก็ยังดูจะกระแสดีวันดีคืน ย่อมมีชื่อพรรคเพื่อไทยอยู่ด้วย ไม่ว่าผลโพลล์จะเป็นสำนักใด ก็ล้วนบ่งชี้ไปว่าพรรคเพื่อไทยก็ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเต็งอยู่เสมอและมีโอกาสไม่น้อยที่จะเป็นที่หนึ่งในผลการเลือกตั้ง แต่จะเป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้นอาจต้องมองปัจจัยอื่นด้วย?

ซึ่งก็ยากจะปฏิเสธว่าการทุ่มหมดหน้าตักของพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้ น่าจะเล็งผลถึงการจัดตั้งรัฐบาลและแม้การเลือกตั้งจะยังไม่เกิดขึ้น แต่ก็เริ่มที่จะมีการพูดถึงการรวมตัวเพื่อจัดตั้งรัฐบาลในสมัยหน้ากันเสียแล้ว ซึ่งการจับมือของแต่ละพรรคการเมืองนั้น หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นอกจากจะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และลูกพรรคแล้ว ก็คือการที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนายทุนพรรคของแต่ละพรรคด้วย เพราะอย่าลืมว่าครั้งที่แล้วเพื่อไทยก็ชนะได้คะแนนมาเป็นที่หนึ่งแต่สุดท้ายผลการเลือกตั้งก็พิสูจน์ให้ประชาชน ลูกพรรคหรือนายทุนเห็นแล้วว่าการได้มาเป็นที่หนึ่งไม่ได้แปลว่าจะได้จัดตั้งรัฐบาลเสมอไป

ย้อนกลับไปเมื่อการเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2562 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว พรรคเพื่อไทย ถือเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่ถูกมองว่าเสียเปรียบจากกติกาและรูปแบบการเลือกตั้งหรือไม่ ยิ่งเมื่อลองดูจากวิธีคำนวณจากสูตรคำนวณคะแนนความนิยมที่ใช้ประกอบในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วนั้น เท่ากับว่าพรรคเพื่อไทยมีโควตา สส. เข้าไปนั่งในสภา 111 คน แต่พรรคเพื่อไทยได้ สส. เขตไปถึง 137 คน ซึ่งเกินโควตามาถึง 26 คน ทำให้เสียโอกาสในที่นั่งบัญชีรายชื่อทั้งหมด พรรคเพื่อไทยจึงถูกมองว่าดูจะเสียโอกาสไม่น้อย จากรูปแบบการต่อสู้ภายใต้กติกาดังกล่าว

แต่เมื่อมีผู้เสียผลประโยชน์ก็ต้องมีผู้ได้รับผลประโยชน์เช่นกัน และพรรคที่ได้รับอานิสงส์จากการใช้รูปแบบการเลือกตั้งดังกล่าวก็มีหลายพรรครวมถึงพรรคสีส้ม เพราะแม้พรรคอนาคตใหม่ในยามนั้นจะได้ผู้แทนระบบเขตพื้นที่ไม่มากนักและยังถูกมองว่าได้เพราะปัญหาของพรรคไทยรักษาชาติ แต่นั่นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการคิดคะแนนในระบบเลือกตั้งรอบที่แล้ว ก็พาให้ได้ สส. ในจำนวนที่ไม่น้อยหรือไม่?

เพราะเมื่อพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้รับคะแนนเสียงท่วมท้นในฐานะพรรคการเมืองน้องใหม่ในยามนั้นที่ได้สามารถสร้างความตกตะลึงเมื่อกวาดคะแนนได้มากไปถึง 5,871,137 คะแนน และเมื่อนำเข้าสูตรการคำนวณ สส. ระบบที่แล้ว ควรจะมี สส. ได้ถึง 80 อัตรา

อย่างไรก็ตามเมื่อพรรคอนาคตใหม่ชนะการเลือกตั้งแบบเขตไปเพียง 30 เขต เท่ากับว่าจะต้องเติม สส. ให้พรรคอนาคตใหม่ให้เต็ม เพื่อให้สอดคล้องกับ 50 เสียงที่หายไป เท่ากับว่ากติกาการเลือกตั้งเมื่อครั้งก่อน ยิ่งได้คะแนนดิบมาก โควตา สส.ระบบบัญชีรายชื่อก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

ซึ่งหากมองไปที่คะแนนเขตของพรรคอนาคตใหม่นั้น แม้ในบางสนามการประลองพรรคอนาคตใหม่จะไม่ได้ที่ 1 แต่ก็ได้ ลำดับ 2-3 ในจำนวนที่ไม่น้อย จึงได้คะแนนสะสมมากพอที่จะทำให้ได้สัดส่วนบัญชีรายชื่อจำนวนไม่น้อยในสมัยที่ผ่านมา แต่ในเมื่อกติกาและรูปแบบของการเลือกตั้งนั้นเปลี่ยนแปลงไป อะไรๆ ก็คงไม่ง่ายดังเดิมหรือไม่? เพราะเมื่อการเลือกตั้งแบบบัตรสองใบ จะคนละแบบกับบัตรใบเดียวครั้งที่แล้วคะแนนบัญชีรายชื่อจึงน่าจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะจำนวน สส. ระบบบัญชีรายชื่อที่ลดลงด้วย

แม้ในตอนนี้จะมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่คะแนนบัญชีรายชื่อของเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล รวมกันอาจเกิน 50% ของคะแนนทั้งหมดหรือไม่? ยิ่งเมื่อไปดูในช่วงนี้ที่คะแนนนิยมในโพลล์ต่างๆ ที่ออกมาของขั้วอนุรักษ์นิยมดูจะสะดุดแบบน่าใจหาย สวนทางกับคะแนนนิยมของขั้วหัวก้าวหน้าที่สูงขึ้นแบบสวนทาง แต่เมื่อรูปแบบและกติกาการเลือกตั้งในครั้งนี้นั้นแตกต่างกันออกไป การวิเคราะห์คะแนนหรือผลการเลือกตั้งก็ต้องตามให้ทันกติกาด้วย

เพราะเมื่อมีการแบ่งสัดส่วนของทั้งคะแนนเขตและบัญชีรายชื่อออกจากกัน เป็นผลให้คะแนนบัญชีรายชื่อจะเป็นคนละมุมมองกับคะแนนเขต และพรรคที่น่าจะได้บัญชีรายชื่อสูงบางพรรคอาจจะมีคะแนนระบบเขตไม่สอดคล้องก็ไม่น่าแปลกใจมากเท่าไหร่นัก

อย่างพรรคก้าวไกลที่เคยสร้างผลงานไว้สมัยที่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในครั้งนี้ก็คาดว่าน่าจะได้รับคะแนนบัญชีรายชื่อในสัดส่วนที่สูงอีกคำรบ จากคะแนนความนิยมที่ค่อยๆ ขยับ ไต่ลำดับขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันหากมองไปที่คะแนนเขตก็อาจคนละเรื่องก็เป็นได้หรือไม่? และในเมื่อคะแนนตกน้ำไม่มีผลแล้วบวกกับสัดส่วนความสำคัญของระบบบัญชีรายชื่อที่ลดลง ผลคะแนนรวมอาจสวนทางกับผลโพลล์ตอนนี้หรือไม่?

เพราะคู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทยถูกมองว่าเป็นพี่ใหญ่แห่งฝั่งเสรีนิยมและเปรียบเสมือนกระดูกชิ้นใหญ่ที่ขวางทาง และน่าจะเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่คอยสกัดดาวรุ่ง ทั้งจากการที่พรรคเพื่อไทยเป็นหนึ่งในที่รวบรวมของบรรดา สส. เขตที่แข็งแกร่ง และนับว่าเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่ครองใจคนในพื้นที่ได้ไม่น้อย จึงเป็นการยากที่พรรคก้าวไกลจะสามารถกวาดต้อนคะแนนพื้นที่เขตมาเป็นของตนได้ง่ายๆ แต่ไม่ใช่กับคะแนนบัญชีรายชื่อที่พรรคก้าวไกลน่าจะยังพอมีลุ้นอยู่หรือไม่?

กระนั้นต่อให้บัญชีรายชื่อรอบนี้มีสัดส่วนที่เปลี่ยนไปมาก แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบที่มากพอที่จะส่งผล ต่อคะแนนรวมเพราะคะแนนในสัดส่วนของบัญชีรายชื่อนั้น ก็มีเพียง 100 ที่นั่งเพียงเท่านั้น

ดังนั้นจึงไม่แปลกใจหากพรรคการเมืองทุกพรรคนั้น จะหันหน้าไปเอาจริงเอาจังกับการเลือกตั้งในเวทีเขตมากเป็นพิเศษซึ่งท้องถิ่นกลายเป็นปัจจัยสำคัญในรอบนี้ เพราะจากจำนวนเก้าอี้บัญชีรายชื่อที่เปลี่ยนแปลง จึงดูแล้วเป็นการยากที่จะสามารถกวาดคะแนนความนิยมและเกาะเก้าอี้บัญชีรายชื่อให้มากพอที่จะสร้างแรงสั่นสะเทือนในเวทีรัฐสภาฯ ได้ความหวังของพรรคการเมืองที่หวังจัดตั้งหรือเข้าร่วมรัฐบาลจึงหนีไม่พ้นเก้าอี้ สส. ที่มาจากเวทีเขตหรือไม่?

เมื่อการตัดสินนั้นวัดกันที่คะแนนการเลือกตั้งแบบเขต ซึ่งกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ชัยชนะของทุกเขต ไม่อาจนำกระแสเข้ามาเป็นตัววัดอย่างเดียวได้หรือไม่? เว้นแต่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเท่านั้น ที่กระแสดูจะส่งผลไม่น้อยต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น

อย่างในการเลือกตั้งเวทีผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ที่กระแสได้ส่งผลต่อการเลือกตั้งอย่างเห็นได้ชัด จากการที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯคนปัจจุบันอย่างนายชัชชาติ สามารถกวาดคะแนนในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้มากเป็นประวัติการณ์ แต่สำหรับในพื้นที่ต่างจังหวัดและพื้นที่ในเขตภูธรกระแสอาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการตัดสินใจของคนในพื้นที่เท่าไหร่นักหรือไม่?

เพราะในตอนนี้พรรคเพื่อไทยก็ยังคงเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่ยังถือครองใจของประชาชนในเขตภูธรอยู่ไม่น้อย แต่จะถึงขั้นแลนด์สไลด์ตามที่ใจหวังหรือไม่นั้น ก็คงเป็นอีกเรื่อง แต่ก็ต้องยอมรับว่าหนทางสู่แลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่ได้ไกลเกินเอื้อมแต่ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างแน่นอน

ทั้งปัจจัยจากการที่ความนิยมของพลเอกประยุทธ์ก็ยังพอมีลุ้นในอยู่ในเขตภูธรหลายพื้นที่แม้อาจไม่ได้ครอบคลุมทุกภาคอีกทั้งนโยบายพ่วงชื่อประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชารัฐที่ชาวบ้านในบางพื้นที่ก็น่าจะถูกอกถูกใจและผูกพันกับบัตรนี้อยู่บ้างไม่มากก็น้อย และด้วยคู่แข่งทางการเมืองที่มากขึ้น ในขณะเดียวกันอีกฝั่ง คู่แข่งตัวฉกาจอย่างพรรคก้าวไกลนั้น แม้จะเสียเปรียบจากกติกาที่ออกมาในครั้งนี้ แต่ว่ากันตามตรงเพื่อไทยก็ยังไม่สามารถประมาทได้ในหลายพื้นที่

และเอาเข้าจริงต่อให้คะแนนรวมของบรรดาผู้แทนจากสังกัดพรรคเพื่อไทย เกินครึ่งหนึ่งของสภาฯ หรือรวมกับพรรคการเมืองจากสังกัดอื่นแล้วเกินครึ่งหนึ่งของสภาฯ แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีของฝั่งตนเองได้ง่ายๆ หรือไม่? เพราะ สว. เองก็ยังคงเป็นหนึ่งในกลไกที่มีความสำคัญในการคัดเลือกสรรนายกรัฐมนตรีอยู่ตามอำนาจที่บัญญัติไว้ในปัจจุบัน

แต่แม้จะมี สว. เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญอยู่ก็จริง แต่กระนั้นก็ใช่ว่าฝ่ายรัฐบาลจะได้เปรียบจากการมีอยู่ของ สว. มากนัก และก็ใช่ว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ภาคที่ 3 จะเกิดขึ้นอย่างไม่มีอุปสรรค หรือดำเนินไปอย่างไร้รอยต่อ เพราะอย่างน้อยที่สุดเสียงข้างมากในสภาฯ ก็ยังสามารถคัดเลือกผู้ที่จะดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ ได้

ดังนั้นหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ชนะเด็ดขาด หากเป็นเช่นนั้นการดำเนินกิจการของสภาฯ ก็น่าสนใจว่าจะเป็นไปได้ในแง่ใดบ้าง เพราะหากสภาฯ ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ทางเลือกที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตก็อาจมีอยู่ 2 ทาง ซึ่งก็คือ การลากสภาฯ ที่การดำเนินการที่อาจติดขัดและบริหารงานไม่ได้จนยุบสภาฯ ภายใน 9 เดือนหรือ 1 ปี และอาจนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ปีหน้าอีกก็เป็นได้หรือไม่?

อีกหนึ่งความเป็นไปได้ก็คือ หากฝั่งอนุรักษ์นิยมคะแนนเสียงไม่เกินครึ่งในสภา ขณะที่ฝั่งเสรีนิยมชนะแต่ไม่แลนด์สไลด์ข้ามคะแนน สว. การที่พรรคเพื่อไทยนั้น อาจจับมือกับพรรคพลังประชารัฐเพื่อจัดตั้งรัฐบาลแบบข้ามรั้วกันก็อาจเป็นทางออกหนึ่ง ตามที่สื่อหลายสำนักก็ต่างมองกันถึงความเป็นไปได้ของการจัดตั้งรัฐบาลในลักษณะนี้มาโดยตลอด แม้ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายจะออกมาปฏิเสธแล้วก็ตาม

แม้กองเชียร์ของฝ่ายหัวก้าวหน้าจะออกมาเชียร์ให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลแต่หากถามถึงมุมมองเพื่อไทยว่าระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคก้าวไกล การจับมือแบบใดจะทำให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลได้จริงแบบมีเสถียรภาพมากกว่ากัน ก็คงต้องบอกก่อนว่าในตอนนี้เองหากมองถึงเป้าหมายของพรรคเพื่อไทยที่มองไปที่การแลนด์สไลด์โดยตนเองพรรคเดียวจะลงตัวที่สุด ก็ไม่แปลกที่พรรคเพื่อไทยอาจจะมองพรรคก้าวไกลเป็นคู่แข่งที่สำคัญในตอนนี้ เพราะพรรคเพื่อไทยเองก็ต้องการที่จะกลืนคะแนนจากฐานเสียงขั้วเดียวกันให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นคะแนนเขตหรือคะแนนบัญชีรายชื่อก็ตาม เพราะผลโพลล์ที่ออกมาชี้ว่าคะแนนรวมสองพรรคน่าจะสูงพอแต่การตัดคะแนนกันในระบบเขตกันเองอาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อผลการแข่งขันในหลายพื้นที่ของเพื่อไทย

และจากการที่พลเอกประยุทธ์เป็นเบอร์หนึ่งในขั้วอนุรักษ์นิยม คู่ต่อสู้ในเชิงอุดมการณ์หัวโต๊ะจึงน่าจะอยู่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ มากกว่าพรรคพลังประชารัฐที่นำโดยพลเอกประวิตร?

แต่หนึ่งในสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องคิดและคำนึงถึงมากที่สุด ก็อาจเป็นผลกระทบของคะแนนเสียงในระยะยาว เพราะหากพรรคเพื่อไทยตัดสินใจที่จะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐจริง ตามที่มีการคาดกันไว้ ย่อมส่งผลถึงคะแนนเสียง ความนิยมในระยะยาวอย่างแน่นอน และหนึ่งในผู้ที่จะได้รับผลบวกไปเต็มๆ หากแฟนตัวยงของขั้วหัวก้าวหน้าผิดหวังกับการตัดสินใจเดินเกมของพรรคเพื่อไทย คงหนีไม่พ้นพรรคก้าวไกลที่อาจได้ฐานแฟนคลับและได้ใจประชาชนเพิ่มขึ้นหรือไม่? นี่จึงอาจเป็นสาเหตุให้พรรคเพื่อไทยออกมาปฏิเสธในตอนนี้แล้ว

แต่อย่างไรก็ตามก็ใช่ว่าผลโพลล์จะทำให้คะแนนเป็นไปอย่างนั้นเสมอไป บทเรียนในอดีตแต่ละครั้งก็มีให้เห็น รวมถึง ยังเหลือเวลาอีกไม่น้อย ที่ยังไม่อาจสรุปได้ว่าคะแนนจริงจะเป็นอย่างไร เพราะประชาชนอีกหลายคนก็อาจยังไม่ตัดสินใจ รวมถึง ที่มาของแต่ละโพลล์ก็อาจมีที่มาที่ไปที่แตกต่างกัน หรือมีเหตุผลอื่นก็ไม่อาจทราบได้ แต่ที่แน่ๆ ดูเหมือนหากรอบนี้ฝั่งใดไม่ชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดก็อาจเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่ แต่การเมืองไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ว่าไม่ลงตัวก็อาจจะลงตัวในตอนจบ

“ชีวิตคนไยมิใช่เฉกเช่นเวทีละครฉากหนึ่ง พวกเราไยมิใช่กำลังเล่นละคร?”

โกวเล้ง จาก ทวนทมิฬ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
16:13 น. สหรัฐฯ แจ้งขอระงับ การเจรจาภาษีการค้ากับไทยชั่วคราว รอให้คำมั่นทำตามแถลงการณ์ร่วม
16:12 น. เลือดโจรเข้มข้น! ตชด.นครพนม จับศิษย์เก่าเรือนจำ พร้อมยาบ้าเกือบ 8 หมื่นเม็ด
15:52 น. พรรคที่โกง ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็เหมือนโจรที่ซ้อมปล้น ตั้งแต่ยังไม่พ้นรั้วบ้าน
15:43 น. สัมพันธ์ส่อร้าว! 'จีน'เตือนพลเมืองเลี่ยงไปญี่ปุ่น คาดปมนายกฯหญิงพูดหนุนไต้หวัน
15:43 น. 'รถถัง'โพสต์สุดเศร้า ร่างกายพังกะทันหัน เผยนาทีทรมานจนเป็นตะคริว ยืนยันมาเพื่อสู้
ดูทั้งหมด
สาวชุดหวือโชว์รอยสัก 'ของลับโผล่' ชี้แจงแล้ว 'ไม่ได้ตั้งใจ-ที่แปะหลุด-ดื่มหนัก'
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงทำริบบิ้นสีดำถวายความอาลัย
'กรณ์ ณรงค์เดช'หลั่งน้ำตา! กอดคุณพ่อเกษมดีใจชนะคดี
บุกจับ2วัยรุ่นสร้างตัว เปิดเหมืองบิทคอยน์ซุก'สวนมะพร้าวบ้านแพ้ว' โกงไฟหลวงมหาศาล
แรงมากแม่! 'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์สตอรี่ปริศนาพูดถึงเวรกรรม
ดูทั้งหมด
ระวังการส่งออกเทียม
บุคคลแนวหน้า : 15 พฤศจิกายน 2568
ตำรวจกับโจร โจรกับตำรวจ
สงครามกับสันติ : ทรัมป์จะไปทางไหน?
ลิ้นสองแฉก
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

พรรคที่โกง ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็เหมือนโจรที่ซ้อมปล้น ตั้งแต่ยังไม่พ้นรั้วบ้าน

สัมพันธ์ส่อร้าว! 'จีน'เตือนพลเมืองเลี่ยงไปญี่ปุ่น คาดปมนายกฯหญิงพูดหนุนไต้หวัน

'รถถัง'โพสต์สุดเศร้า ร่างกายพังกะทันหัน เผยนาทีทรมานจนเป็นตะคริว ยืนยันมาเพื่อสู้

'ธรรมนัส' ลุยนครปฐม สั่งอนุมัติงบ 20 ล้าน สร้างประตูระบายน้ำ รพ.ห้วยพลู

GC จับมือ กระทรวง อว. ต่อยอด โครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” สู่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สร้างเครือข่าย คนรุ่นใหม่ ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำอาเซียน

‘เสื้อแดง’ รวมพลังให้กำลังใจ ‘ทักษิณ’ เตรียมมอบไดอารี่รักให้ ‘อิ๊งค์’ 17 พ.ย.นี้

  • Breaking News
  • สหรัฐฯ แจ้งขอระงับ การเจรจาภาษีการค้ากับไทยชั่วคราว รอให้คำมั่นทำตามแถลงการณ์ร่วม สหรัฐฯ แจ้งขอระงับ การเจรจาภาษีการค้ากับไทยชั่วคราว รอให้คำมั่นทำตามแถลงการณ์ร่วม
  • เลือดโจรเข้มข้น! ตชด.นครพนม จับศิษย์เก่าเรือนจำ พร้อมยาบ้าเกือบ 8 หมื่นเม็ด เลือดโจรเข้มข้น! ตชด.นครพนม จับศิษย์เก่าเรือนจำ พร้อมยาบ้าเกือบ 8 หมื่นเม็ด
  • พรรคที่โกง ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็เหมือนโจรที่ซ้อมปล้น ตั้งแต่ยังไม่พ้นรั้วบ้าน พรรคที่โกง ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็เหมือนโจรที่ซ้อมปล้น ตั้งแต่ยังไม่พ้นรั้วบ้าน
  • สัมพันธ์ส่อร้าว! \'จีน\'เตือนพลเมืองเลี่ยงไปญี่ปุ่น คาดปมนายกฯหญิงพูดหนุนไต้หวัน สัมพันธ์ส่อร้าว! 'จีน'เตือนพลเมืองเลี่ยงไปญี่ปุ่น คาดปมนายกฯหญิงพูดหนุนไต้หวัน
  • \'รถถัง\'โพสต์สุดเศร้า ร่างกายพังกะทันหัน เผยนาทีทรมานจนเป็นตะคริว ยืนยันมาเพื่อสู้ 'รถถัง'โพสต์สุดเศร้า ร่างกายพังกะทันหัน เผยนาทีทรมานจนเป็นตะคริว ยืนยันมาเพื่อสู้
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

11 พ.ค. 2566

นิ่งๆอาจกินเรียบ

นิ่งๆอาจกินเรียบ

4 พ.ค. 2566

ทางเลือกหรือทางรอด?

ทางเลือกหรือทางรอด?

27 เม.ย. 2566

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

20 เม.ย. 2566

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

13 เม.ย. 2566

ฉากเดิมๆ

ฉากเดิมๆ

6 เม.ย. 2566

ระฆังเริ่มยก

ระฆังเริ่มยก

30 มี.ค. 2566

ล้างไพ่สลายขั้ว

ล้างไพ่สลายขั้ว

23 มี.ค. 2566

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved