วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
การชุมนุม “19 กันยาทวงคืนอำนาจราษฎร” ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จบลงไปในเช้าวันที่ 20 ก่อนจะแยกย้าย พร้อมกับคดีที่ติดตัวแกนนำแต่ละคน ก่อนจะแยกย้ายได้มีการปักหมุดคณะราษฎร 2563 ลงบนพื้นสนามหลวง และได้มีการยื่นหนังสือ 10 ข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบัน ผ่านไปยังองคมนตรี ซึ่งทำให้ดูเหมือนการชุมนุมครั้งนี้ดูแตกต่างไป แต่ในความเป็นจริง อาจไม่ต่างจากสมัยการชุมนุมเสื้อแดง โดยเฉพาะการส่งสารจากอดีตนายกฯทักษิณในวันนั้นพอดิบพอดี
ถึงแม้ว่าแกนนำจะออกมาพูดว่าการชุมนุมครั้งที่ผ่านมานี้ ได้รับชัยชนะและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่ไม่แน่ใจว่าความเป็นจริงเป็นเช่นนั้นหรือไม่? หรือตกลงแล้วความสำเร็จที่ว่าเป็นความสำเร็จของกลุ่มเยาวชนที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาประเทศ หรือเป็นความสำเร็จของกลุ่มการเมืองกลุ่มใด?
หากวัดจากจำนวนผู้ชุมนุม แม้ว่าทางแกนนำจะอ้างว่ามีคนมาร่วมชุมนุมเป็นแสนคน แต่เอาเข้าจริง รายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศบางสำนักก็รายงานว่า อยู่ในระดับ 2-5 หมื่นคน
อย่างไรก็ตามจำนวนมากไม่ได้เป็นสาระเสมอไปเพราะเมื่อครั้งที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีคนประมาณ 1-2 หมื่นคน ก็ถือว่าสร้างแรงกระเพื่อมได้อย่างมากเพราะครั้งนั้นนับเป็นการชุมนุมที่ขับเคลื่อนโดยเยาวชนและมีเยาวชนเข้าร่วมเป็นส่วนใหญ่ และเนื้อหาจุดยืนมีความน่าสนใจ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าผู้เข้าร่วมชุมนุมที่เป็นฐานหลักอาจไม่ใช่กลุ่มวันที่ 16 สิงหาคมหรือไม่ ซึ่งแน่นอนกระทบต่อภาพและจุดยืนของการชุมนุมต่อสายตาประชาชนว่ากำลังเดินไปทิศทางใดและเพื่ออะไร?
หากวัดที่เนื้อหาหรือแกนนำ ซึ่งถือเป็นผู้ส่งสาร ครั้งนี้ถึงแม้ผู้ปราศรัยบนเวที และผู้ออกหน้าในการให้ข่าวต่อสื่อมวลชน จะเป็นเยาวชนก็จริงแต่ ผู้มีบทบาทจริงๆดูเหมือน อาจไม่ได้สอดคล้องกับการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนัก และยังพบการกลับเข้ามาของแกนนำรุ่นใหญ่ของสายแดงบางคน ขณะที่การนำเสนอเนื้อหาเป็นคนละรูปแบบกับเวทีที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และแม้จะมีแกนนำที่พอคุ้นหน้าคุ้นตามาอยู่บ้าง แต่แกนนำบางคนก็มีสายสัมพันธ์บางอย่างกับพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ และหากเป็นเช่นนั้นแล้วการรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมในครั้งนี้กำลังจะนำเราไปสู่คำตอบอะไรบางอย่าง? และเนื้อหาที่สื่อสารในการชุมนุมจะนำไปสู่เป้าหมายอะไร?
อย่างไรก็ตาม ในวันเสาร์ที่ผ่านมาก่อนการชุมนุมจะเริ่มขึ้น ก็ปรากฏข่าวของอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ที่มีความผูกพันกับวันที่ 19 กันยายน หรือวันที่เขาโดนรัฐประหารเมื่อ 14 ปีที่แล้ว โดยเจ้าตัวได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวว่า “วันนี้เป็นวันครบรอบ 14 ปีของรัฐประหาร ขณะผมมาประชุมสหประชาชาติ 19 ก.ย. 2549 ผมขอฝากคำถามคำเดียวครับ ว่า 14 ปีมานี้ ชีวิตคนไทยโดยรวมๆ
เป็นไงบ้าง ประเทศไทยในสายตาโลกเป็นไงบ้าง...ถึงเวลาแล้วหรือยัง...” เอาเข้าจริงการออกมาโพสต์เช่นนี้ในวันนี้มีนัยทางการเมืองอะไรหรือไม่?
เหตุใดแกนนำจึงเลือกเอาวันรัฐประหาร อดีตนายกฯทักษิณ เป็นวันชุมนุมใหญ่ แล้วต่อด้วยการปักหมุดคณะราษฎร 2 ?เอาเข้าจริงหมุดคณะราษฎร 2 ที่ผู้ชุมนุมต้องการสื่อเป็นเชิงสัญลักษณ์ในการเรียกร้องประชาธิปไตยดังเช่นในปี พ.ศ.2475 อาจกลายเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับความต้องการเดิมของคณะราษฎรหรือไม่? การปักหมุดในปัจจุบันดูเหมือนจะเป็นการเดินย้อนกลับไปในอดีตเสียมากกว่าเดินไปข้างหน้า ที่มากกว่านั้นคือเลยเถิดไปถึงการนำเสนอบางอย่างอันเกี่ยวเนื่องถึงสถาบันหลักของชาติเพื่อหวังผลบางอย่างทางการเมืองหรือไม่?
และเหตุใดรอบนี้จึงพบกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงเป็นส่วนมาก?และเหตุใดเนื้อหาในการชุมนุมจึงมุ่งไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญและ การเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศ? ตลอดช่วงหลังรัฐประหารอดีตนายกฯทักษิณ 14 ปี ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นและอะไรทำให้เกิดการรัฐประหารทั้งสองครั้ง ?
ตั้งแต่หลังรัฐประหารสองครั้งมา มีคดีทุจริตของนักการเมืองมากมายที่ขึ้นสู่ศาล รวมถึง การทุจริตที่เรียกว่าการทุจริตเชิงนโยบายที่คุณูปการนี้นำไปสู่การศึกษาในแวดวงวิชาการและการออกกฎหมายอันเกี่ยวเนื่องกับผลประโยชน์ทับซ้อน อันมาจากเหตุแห่งการบริหารบ้านเมืองในยุคนั้น อย่างไรก็ตาม ผลของการทุจริตต่างๆของนักการเมืองในยุคนั้นนำมาสู่ผลกระทบสองอย่างในยุค
ถัดมาคือ (1)มูลค่าความเสียหายของประเทศจากการทุจริต (2) การดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด
โดยในตลอดเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการพิจารณาคดีไปหลายคดีแล้ว บางคนบริสุทธิ์ ก็รอดออกมา ขณะที่ผู้กระทำความผิดที่ศาลตัดสินก็ทยอยเข้าคุกและริบทรัพย์สินไป อย่างคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการจำนำข้าวที่ผลกระทบของมันยังส่งผลมาถึงในปัจจุบัน แต่เอาเข้าจริงก็ยังมีเหลืออยู่อีกหลายคดีที่กำลังอยู่ในขั้นตอนของศาล อย่างคดีบ้านเอื้ออาทร ที่ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร และยังมีอีกหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองและยังรอลุ้นผลอยู่ แนวทางอีกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสิบกว่าปีมานี้จากการผลัดกันขึ้นมาบริหารของฝ่ายการเมืองคือ แนวทางการขอนิรโทษกรรมความผิด แต่เมื่อไม่สำเร็จ จึงต้องถูกดำเนินคดีต่อไป แล้วอะไรจะหยุดหรือช่วยบรรดานักการเมืองเหล่านี้จากคดีได้ ?
ความเปลี่ยนแปลง? คำถามคือ ความเปลี่ยนแปลงของอะไร?
สมมุติว่าเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่บังเอิญสนับสนุนพรรคการเมืองบางพรรค หรือถูกสนับสนุนโดยบางพรรค หากล้มรัฐบาลได้สำเร็จ จะนำไปสู่อะไรได้บ้าง? และพรรคการเมืองที่สนับสนุนต้องการอะไร?
และหากเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนับสนุนอดีตนายกฯทักษิณ หากล้มรัฐบาลได้สำเร็จ จะนำไปสู่ข้อเสนออะไร?
คดีต่างๆ ของอดีตนายกฯทักษิณ คดีต่างๆของบรรดานักการเมืองในยุคนั้น และคดีต่างๆของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ หลายคดีที่ศาลยังพิจารณาไม่สิ้นสุด จะเป็นอย่างไรต่อไป? พวกที่หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศมีสิทธิ์ที่จะกลับมาประเทศหรือไม่? และอดีตนายกฯเองจะมีโอกาสในการกลับคืนสู่อำนาจทางการเมืองและทำธุรกิจดังเช่นอดีตหรือไม่?
ในความเป็นจริงก็ไม่มีใครรู้ว่าการชุมนุมเมื่อ 19 กันยายน ที่ผ่านมาเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมืองไหนหรือไม่ หรือเกี่ยวข้องกับอดีตนายกฯทักษิณหรือไม่ ?
และผลของการชุมนุมถ้าหากสำเร็จอาจเกี่ยวข้องหรือไม่?
ในส่วนของการชุมนุมในวันที่ 19-20 กันยายนที่ผ่านมารัฐบาลก็สามารถควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้ด้วยดี โดยจะสังเกตได้ว่าการชุมนุมในครั้งนี้มีความคล้ายคลึงกับรูปแบบการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ในสมัยปี’53 ช่วงเริ่มต้น โดยมีรูปแบบที่เหมือนกันในลักษณะที่ว่า ผู้ชุมนุมส่วนมากเดินทางมาจากต่างจังหวัด แต่ก็มีชาวกรุงเทพฯบางส่วนเข้าร่วมชุมนุม โดยในช่วงแรกการชุมนุมก็เป็นไปโดยสงบ แต่ระยะต่อไปไม่รู้ว่าจะเหมือนหรือต่าง?
แต่คนกรุงเทพฯที่มีอายุหน่อยจะพอจำภาพการชุมนุมปี’53โดยเฉพาะช่วงท้ายได้เป็นอย่างดี ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกรุงเทพมหานคร
ดูเหมือนสถานการณ์บางอย่างกำลังมาบรรจบบนเส้นทางเดียวกัน อีกครั้งหรือไม่ และแม้ผู้เล่นบางคนก็อาจจะเป็นคนกลุ่มเดียวกันแต่บทบาทเปลี่ยนไป และบางคนที่เคยเข้าร่วมชุมนุมปี’53 ตามที่ได้ปรากฏในคลิป มาวันนี้ได้เป็นนักการเมืองแล้ว และกำลังขับเคลื่อนข้อเสนอเดียวกับกลุ่มผู้ชุมนุม นั่นคือ (1) ต้องการให้มีการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญ (2) เปลี่ยนรูปแบบการปกครองประเทศ?
แล้วพรรคการเมืองเสียผลประโยชน์อะไรกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ?
ก็ต้องบอกว่าอาจมีบางพรรคที่เสียประโยชน์จากกติกาเดิม อันมีผลต่อการโหวตเลือกนายกฯในรอบที่ผ่านมา จึงอาจมีความพยายามในการหาข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญนี้ในด้านอื่นๆเพื่อหาเหตุมาสู่การแก้รัฐธรรมนูญในหลายมาตราแต่หนึ่งในนั้นคือ ที่มาของอำนาจ นั่นคือที่มาของการเลือกนายกรัฐมนตรี
แต่ขณะที่การชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมครั้งนี้ได้พ่วงเรื่องรูปแบบการปกครองประเทศเข้าไปอีก จึงทำให้น่าคิดต่อว่าพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องหรือสนับสนุนคิดเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้ เพราะจะส่งผลต่อทิศทางการชุมนุมและผู้เข้าร่วมชุมนุมต่อไปของฝั่งพรรคการเมือง อันจะมีผลต่อน้ำหนักของกลุ่มผู้ชุมนุมที่กำลังเดินยุทธศาสตร์กดดันฝ่ายการเมืองในรัฐสภา
โดยหากเป็นการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงของประเทศ อย่างเรื่องการศึกษา การมีงานทำ ความเท่าเทียม นับว่าน่าสนใจและบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองควรรับฟังเพราะนี่คืออนาคตของพวกเขาและคืออนาคตของประเทศ แต่หากมีกลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมืองเข้ามาร่วมแล้วเลือกดึงแต่ประโยชน์ตามเป้าหมายทางการเมืองของตนเอง จะทำให้ทิศทางการเรียกร้องผิดเพี้ยนไปได้
“ขึ้นชื่อว่าแก้วถึงจะแตกทำลายก็ไม่หายชื่อ เราจะขอทำศึกสงครามด้วยท่านกว่าจะสิ้นชีวิต”
กวนอู สามก๊ก ฉบับ วณิพก

ตอกหน้าฝรั่งดูแคลน! ประภาส เปิดอภินิหารคำว่า แล้ว พิสูจน์ความลึกซึ้งที่เหนือกว่า Tense
(คลิป) สื่อเขมร รายงานจริงครั้งแรก! ไทย ใช้ F-16 ทิ้งบอมปอยเปตพังท่องเที่ยวกัมพูชา
ปราชญ์ สามสี สดุดี จ่าเริง วีรบุรุษเนิน 350 ผู้ปกป้องแผ่นดินด้วยชีวิต
ทรัมป์ กร้าว ต้องการ กรีนแลนด์ เพื่อความมั่นคงของ สหรัฐฯ
เขมรกล่าวหาไทย ทิ้งระเบิด พ่นควันพิษ เป็น อาชญากรรมสิ่งแวดล้อม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี