สมมุติกันเล่นๆ ว่า ถ้าจู่ๆ เกิดคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ณ วันนี้ก็น่าจะประกันได้ว่า การเมืองไทยคงได้ปั่นป่วนชนิดที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นไม่ใช่เพราะประเทศไทยขาดคุณประยุทธ์ไม่ได้ หากแต่เพราะกติการายชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรี ที่ค้างคาอยู่ในรัฐสภา จากกฎหมายรัฐธรรมนูญที่แสนจะเป็นเอกลักษณ์ของเรานั่นเอง ซึ่งคงหนีไม่พ้นการตีความกันวุ่นวายกว่าจะได้ นายกฯ คนใหม่มาแทน
อย่างไรก็ดี หากคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา จะดันทุรังอยู่ในตำแหน่งต่อไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่คณะ คสช. บงการให้บรรดานิติบริกรขีดเขียนกันขึ้นมา ก็คงไม่มีผู้ใดในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะมีปัญญาไปโค่นล้มหักล้างได้ เพราะฐานอำนาจคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นแสนจะแน่นแฟ้น มีทั้งกองทหาร ตำรวจ อยู่ในกำมือ ข้าราชการพลเรือนต่างสยบให้ แถมยังมีบรรดานักการเมืองขายจิตขายใจรับใช้แลกตำแหน่ง (ไว้ลงเป็นเกียรติประวัติในหนังสืองานศพของตน) โดยไม่ค่อยจะได้ทำประโยชน์อันใดให้กับชาติบ้านเมือง
ในขณะเดียวกัน รัฐไทยสยาม ก็จะลอยตุ๊บป่องๆ ต่อไปได้เรื่อยๆ เพราะเมืองไทยเราแสนจะโชคดี ที่ตั้งอยู่ในดินแดนสวรรค์นามว่า สุวรรณภูมิ ซึ่งเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ผู้คนไม่เกียจคร้าน มุ่งทำมาหากิน (จะโดนปล้นบ้าง โกงบ้าง) ก็พอจะพยุงตัวให้พอรอดไปวันๆ ได้ แม้จะมีรัฐบาลที่ไม่มีฝีไม้ลายมือมาบริหารประเทศ แต่อาจจะเจ็บใจกันหน่อยก็ตรงที่ รัฐบาลมักจะอ้างโน่นอ้างนี่ว่า ได้ทำงานการอย่างสัมฤทธิผลด้วยประสิทธิภาพ จึงไม่จำเป็นต้องฟังคำเตือน คำติชมจากพวกที่คิดต่าง
ดูท่าอนาคตของประเทศไทยคงหลีกหนีไม่พ้นทางนี้ ซึ่งก็คงต้องอยู่กันไปเรื่อยๆ จนคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นวาระไปอีก 4-5 ปีข้างหน้า (หรืออาจจะต้องรอจนหมดแรงสังขาร) หลังจากนั้น ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ก็คงจารึกถึง คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้ร่วมปฏิวัติในปี พ.ศ. 2549 และผู้นำทัพปฏิวัติในปี พ.ศ. 2557 ไว้ว่า
- คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำเนินการขับเคลื่อนให้มีการขีดเขียนกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมาย “ลูก” เพื่ออำนวยให้คุณประยุทธ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีผ่านระบบรัฐสภา และประชาธิปไตยครึ่งใบ
- คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศด้วยการเรียกร้องให้ทุกคนรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้ทุกคนมีวินัยแต่ไม่สามารถพูด หรือบังคับพรรคพวกรอบๆ ตัวได้
- คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ชอบแสดงวิสัยทัศน์พัฒนาประเทศด้วยคำศัพท์ภาษาอังกฤษ เช่น Creativity,Digital, Smart City, EEC, High Speed Train, Innovation, Post-Industrial 4.0, PPP เป็นต้น แต่วิสัยทัศน์เหล่านั้นเป็นเพียงคำพูดว่าด้วยนโยบายที่ไม่ได้มีการปฏิบัติให้จับต้องได้
- คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ชอบพูดว่า ผมสั่งการแล้ว และผมตัดสินใจแล้ว แล้วเรื่องราวต่างๆ นั้นก็กลายเป็นคลื่นกระทบฝั่ง เงียบหายไป รอให้เรื่องใหม่ขึ้นมาก็วนเวียนเข้าสู่วัฏจักรเดิม
- คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำประเทศที่พูดมาก และการพูดแต่ละครั้งก็มักจะปนเปกันในหลายๆหัวข้อ ซึ่งไม่ได้มีความปะติดปะต่อกัน คนฟัง ฟังแล้วไม่ได้ความชัดเจน
- คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา มีครอบครัวที่ดีที่น่ารักซึ่งก็เป็นกันเองดี ดูไม่มีพิษมีภัย มีความตั้งใจและจริงใจ หากแต่ไม่มีใครทราบว่าทำไมจึงมีขีดความสามารถในการรับฟังผู้อื่นต่ำเหลือเกิน นอกจากนั้นยังไม่มีความสามารถในการแยกแยะคนเลวๆ กับคนดี ทำให้จมปลักกับผู้คนเหล่านั้นในคณะบริหาร
- ประเทศไทยตลอดการบริหารงานโดย คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ถูกโลกลืม ถูกโลกมองข้ามไป เพราะไทยนั้นไม่ได้มีจุดยืน ไม่มีท่าที และดูไม่รู้เรื่องกับความเป็นไปในโลก ชาวโลกจึงน่าจะรู้สึกเสียดายศักยภาพของไทย ที่ไทยขาดความเป็นผู้นำทางความคิดต่อสถานการณ์โลก ทั้งๆ ที่เคยมีมาโดยตลอด
ก็เป็นว่าประวัติศาสตร์คงจะจารึกเรื่องต่างๆ ข้างต้นซึ่งก็ดูจะเป็นไปในเชิงลบเสียมาก
ก็ได้แต่หวังว่า คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้อ่านและคิดตาม เพื่อที่จะได้ตรึกตรองดูว่า ในฐานะนายทหารผู้มีเกียรติ จะต้องการให้สังคมไทยจารึกท่านไว้ในแง่ลบแบบนั้นหรือไม่?
หากคำตอบในใจของ คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ “ไม่” ก็คงต้องถึงเวลาแล้วที่จะต้องคิดว่าจะทำสิ่งใดที่เป็นผลในเชิงบวก และยิ่งใหญ่ขนาดที่ทำให้ชาวไทยได้จดจำ และลืมเรื่องที่ผิดพลาดของตนในอดีตไปได้?
ก็ขอถือโอกาสแนะคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยความเคารพนับถือว่า
1.คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องประกาศแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญภายในระยะเวลา 6 เดือน โดยมีตนเองเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง (ไม่ใช่โยนไปให้หน่วยงานต่างๆ รับผิดชอบ) เพื่อให้ราชอาณาจักรไทยมีโครงสร้างและเนื้อหาที่เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์แบบ เป็นสากล โดยไม่ต้องไปเสียเวลาศึกษาอะไรอีกแล้ว เพราะท่านเองก็รู้อยู่แก่ใจว่า ประเด็นใดที่ไม่สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย หรือเป็นปัญหากับสังคม
2.เมื่อจัดทำกฎหมายรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จก็ให้มีการเสนอต่อประชาชนพลเมือง เพื่อให้ความเห็นชอบ ซึ่งหากท่านแก้ได้ตรงจุด ก็คงไม่มีผู้ใดเห็นเป็นอื่น เมื่อกฎหมายรัฐธรรมนูญมีความเป็นประชาธิปไตยอย่างจริงจัง
3.ประกาศให้มีการเลือกตั้งทั่วไปภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งทั้งหมดก็จะใช้เวลาไม่เกิน 9 เดือน จากวันเริ่มยกร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
4.ในระหว่างการยกร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญ ก็ให้มีการเปิดการฝึกอบรมว่าที่ผู้สมัคร ในเรื่องประชาธิปไตย และประวัติศาสตร์การเมืองไทย ซึ่งสำนักเลขาธิการรัฐสภา และสถาบันพระปกเกล้า ร่วมกับมหาวิทยาลัยทุกมหาวิทยาลัยก็สามารถร่วมมือจัดการกันได้ โดยสาระเนื้อหาที่จะบรรจุในหลักสูตรฝึกอบรมก็นำมาประมวลจากเอกสารต่างๆ ของสภาการเมือง สถาบันเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศไทย คณะกรรมการการเลือกตั้ง และเอกสารแผนแม่บทว่าด้วยการส่งเสริมวัฒนธรรมการเมืองในระบอบประชาธิปไตย จัดทำโดยสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เป็นต้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็มาจากการที่ คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นเป็น “ผู้ผูก” เงื่อนปมการเมืองไทยด้วยตนเอง ฉะนั้นก็ต้องเป็นผู้แก้ด้วยตนเอง เพื่อนำความสง่างามกลับมาสู่ตนเอง
หากทำเช่นนี้ คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะได้ชื่อ และได้รับการจารึก จากสังคมไทยว่า เป็นผู้ที่รับผิดชอบและมีความกล้าหาญ และเป็นนักประชาธิปไตยในที่สุด เพราะได้ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับสังคมไทย เมื่อครั้งทำการรัฐประหาร
เรื่องสำคัญนี้ แม้จะช้า แต่ก็ยังดีกว่าไม่มา
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี