“หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา”ฉบับนี้ เสมือนคู่มือการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะกากบาทเลือกใคร ชั่งใจก่อนคนนั้นกลุ่มนั้นยืนเคียงข้างสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์หรือไม่ “ไม้หน้าสาม”ยืนหยัดทำหน้าที่ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ และขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ผ่าน “บุคคลแนวหน้า” เริ่มต้นประเด็นวงจรอุบาทว์ ที่ปัจจุบันพลิกผันไปตามสถานการณ์เป็น “นิว นอร์มอล” ที่มิได้จำกัดเฉพาะแต่การรับผลประโยชน์ในรูปแบบเงินใต้โต๊ะ คอมมิชชั่น เท่านั้น ทว่าการใช้อำนาจสมคบคิดของข้าราชการฝ่ายการเมือง และข้าราชการประจำ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย กลั่นแกล้งให้คุณให้โทษแก่ข้าราชการผู้น้อยที่ยึดมั่นในศักดิ์ศรีทั้งเครื่องแบบและเครื่องหมายที่ติดบนเครื่องแบบเพื่อผลประโยชน์ในห้วงเวลานี้ ดูจะเป็นประเด็นทวีความรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง ทั้งกรณีของอบจ.นครพนม ที่นักการเมืองลากตั้งตำแหน่งประธานกำมะลอกดดันข้าราชการชั้นผู้น้อยด้วยถ้อยคำ “ผรุสวาสวาจา” เรื่อยลงมาถึงการบริหารราชการท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งไทม์ไลน์ “การเลือกตั้งท้องถิ่นจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ย. 2564” นี้ ในขณะที่การเลือกตั้งระดับชาติ แต่ละพรรคการเมืองได้จัดตั้งวอร์รูม ทำสงครามเลือกตั้งกันอย่างครึกโครมแล้วเช่นกัน...
nn ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น แม้ “รัฐบาลทหารแก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะประกาศทำสงครามต่อต้านเชื้อชั่วเชื้อร้ายคนโกงเป็น “วาระแห่งชาติ”แต่ดูเหมือนว่ายิ่งใกล้สู่โหมดเลือกตั้งสส. ขบวนการกลั่นแกล้งข้าราชการชั้นผู้น้อยเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองและพรรคพวก ก็จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ตราบใดที่ “นักการเมือง” ทั้งระดับท้องถิ่น-ระดับชาติ เข้ามาด้วยการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ก็อย่าหวังว่าบ้านเมืองนี้จะพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ เมื่อผู้นำไร้ธรรมาภิบาล ขาดวิสัยทัศน์ เข้ามาด้วยอำนาจเงินก็ต้องกอบโกยทุจริตถอนทุนคืน กลั่นแกล้งข้าราชการประจำด้วยเข้าใจว่าเป็นคนของการเมืองฝ่ายตรงข้าม...
nn “ไม้หน้าสาม” “ไม้หน้าสาม” เคยตีแสกหน้าผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่ง “สรวิชญ์ ทับทิมสุข อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา” ลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าจากบ้านชาวบ้านเอาเข้าไปใช้ในพื้นที่เกษตรส่วนตัว ซึ่งบ้านหลังนั้นเป็นบ้านญาติของ “ศิริธน (มิ่งขวัญ) สุทธิบูรณ์ ข้าราชการทต.บ้านแพรก”จนกลายเป็นคดีความและมีคำพิพากษาถูกตัดสิทธิทางการเมือง ไม่สามารถลงรับเลือกตั้งท้องถิ่นได้ ปัจจุบันนายสรวิชญ์สิ้นบุญได้ลาจากโลกนี้ไปแล้วขออนุญาตไม่เอ่ยไม่ขยายความเดิม เพื่อให้เกียรติผู้วายชนม์ที่ไม่มีโอกาสชี้แจงโต้แย้ง แต่ผลพวงการบริหารงานท้องถิ่นของเขายังคงอยู่ โดยเฉพาะผลงานการบริหารงานบุคคล กรณีมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบ “ศิริธน ข้าราชการเทศบาลตำบลบ้านแพรก” ในฐานะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนเทศบาลวัดหลวงพ่อเขียว งบฯ 2.26 ล้านบาท เมื่อปี 2556 โดยกล่าวหาว่าทำผิดวินัยร้ายแรง เปลี่ยนแปลงแบบแปลนทำให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรง ทั้งที่ในข้อเท็จจริงมีชาวบ้านกว่า 200 คนมาร้องเรียนให้ปรับเปลี่ยนแบบอาคารให้ยกพื้นขึ้นสูงเพื่อป้องกันน้ำท่วม และสัตว์เลื้อยคลาน เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน อดีตนายกฯทต.บ้านแพก จึงสั่งการให้ปรับแบบ เพิ่มประตู หน้าต่าง และติดเครื่องปรับอากาศ ซึ่งผู้รับเหมายินยอมออกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแบบแปลนเดิมมูลค่ากว่า 2 แสนบาท โดยไม่มีการเบิกงบเพิ่มเติม
nn ระหว่างสอบสวนนางสาวศิริธนยังไม่แล้วเสร็จ ผู้ถูกร้องคือนางสาวศิริธนได้รับตำแหน่งปลัดฯ นายสรวิชญ์ก็สร้างเงื่อนไขออกคำสั่งย้ายนางสาวศิริธนเป็นการด่วน ไปเป็นปลัดฯทต.ไผ่ดำพัฒนา จ.อ่างทอง โดยไพโรจน์ พวงศิริ นายกฯทต.ไผ่ดำพัฒนา ตั้งกรรมการสอบสำนวนทต.บ้านแพรกให้ปลดนางสาวศิริธน พร้อมกับพิจารณาผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตรวจเงินแผ่นดิน, ศูนย์ดำรงธรรม พบว่ามีความเห็นให้ยุติเรื่อง ไม่ได้ทำให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรงตามข้อกล่าวหา จึงมีมติเห็นว่าเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ให้ตัดเงินเดือนผู้ถูกร้อง 10% เป็นเวลา 3 เดือน ทว่า ส.ต.อ.โกมน ภู่สมบุญ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดอ่างทอง (ก.ท.จ.) กลับโต้แย้งว่า นายกฯทต.ไผ่ดำฯ ไม่มีอำนาจตั้งกรรมการสอบสวนเพิ่มเติม โดยยืนยันต่อที่ประชุมก.ท.จ.อ่างทองว่า.."ต้องปลดออกราชการตามที่ทต.บ้านแพรกเสนอมา" งานนี้หวยไปออกที่ท่านผู้ว่าฯเรวัต ประสงค์ ต้องมีบัญชาให้ทำหนังสือหารือกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งรองอธิบดีฯ มีหนังสือตอบกลับที่ มท.0809.5/229 ลงวันที่ 5 พ.ค.2563 สาระสำคัญคือทต.ไผ่ดำฯสามารถตั้งกรรมการฯเพิ่มเติมได้ ซ้ำยังมีข้อแนะนำให้ก.ท.จ.อ่างทอง พิจารณาความผิดทางวินัยต้องยึดมั่นในหลักนิติธรรมและหลักมโนธรรม โดยเฉพาะหลักในความเป็นธรรมในการกำหนดโทษข้าราชการ เรียกว่า "หน้าแหกหมอไม่รับเย็บ" เรื่องน่าจะยุติ!!! แต่ส.ต.อ.โกมนกลับเสนอปลดต่อที่ประชุมก.ท.จ.อ่างทอง จนที่ประชุมก.ท.จ.มีมติปลดตามผลสอบของทต.บางแพรก ...
nn นางสาวศิริธนมั่นใจว่าเธอไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงอุทธรณ์ ระหว่างนั้นการเมืองเปลี่ยน นายประทิว ภู่ประสงค์ ชนะการเลือกตั้งนั่งเป็นนายกทต.ไผ่ดำฯ แทนนายไพโรจน์ จึงมีคำสั่งปิดกรอบอัตรากำลังตัดชื่อนางสาวสิริธนนออกจากสารระบบในวันที่ 26 ส.ค. ทันที โดยไม่สนใจว่ากรณีนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ภายในระยะเวลา 90 วัน จนการประชุมพิจารณาอุทธรณ์ก.ท.จ.อ่างทอง ครั้งที่ 10/2564มีมติกลับเห็นว่าคำสั่งนายกทต.บ้านแพรกไม่มีความเป็นธรรมมีอคติ ผลการตรวจสอบไม่พบว่ามีการกระทำผิดตามที่มีการร้องเรียน นางสาวศิริธนมีความผิดวินัยไม่ร้ายแรงอีกทั้งการเปลี่ยนแบบสร้างอาคารโรงเรียนไม่ทำให้ราชการเสียหายร้ายแรง กลับได้ประโยชน์ต่อราชการ ให้ลดขั้นเงินเดือน 1 ปี “ไม้หน้าสาม” ได้สอบถามไปยังนายประทิวเหตุใดไม่ปฏิบัติตามผลสอบก.ท.จ.อ่างทองคืนตำแหน่งให้นางสาวศิริธน ได้รับคำตอบว่าจังหวัดอ่างทองให้ทต.ไผ่ดำฯ ปิดกรอบอัตราจ้างนางสาวศิริธนไปแล้ว (ยุบตำแหน่ง) อีกทั้งนายประทิวยอมรับว่า “ไม่รู้เรื่องข้อกฎหมาย..จังหวัดสั่งอะไรมาก็ปฏิบัติตามนั้น” ทว่า “ไม้หน้าสาม” มีข้อมูลว่า มีหนังสือลงวันที่ 9 พ.ย.2564 คัดค้านคำสั่งก.ท.จ.อ่างทองว่ามิชอบด้วยกฎหมาย โดยฝ่ายกฎหมายส.ต.อ.โกมน ก็รับไปพิจารณาว่าจะส่งเรื่องให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นหรือไม่??? ปี 2563ก็หน้าแหกหมอไม่รับเย็บมาแล้ว งานนี้ก.ท.จ.อ่างทองที่มี “ผู้ว่าฯปู–วีระศักดิ์วิจิตร์แสงศรี” คนจริงสิงห์คลองหลอดเป็นประธาน จะสานต่อความไม่ชอบมาพากลกับความเห็นของอดีตนายกทต.บ้านแพรกที่มีความขัดแย้งกับผู้ถูกกล่าวหา...
nn “ไม้หน้าสาม” อยากจะกระซิบตรงนี้ว่าวันอาทิตย์นี้อำนาจชี้เป็นชี้ตายนักการเมืองผู้หิวโหยอยู่ในมือท่านทั้งหลายแล้ว แสดงพลังพร้อมกันทั่วประเทศแสดงให้เห็นว่าสังคมไทยยินยอมชื่นชมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ, ให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มีการลดพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ หรือเห็นว่ามีระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์จำแลงมาแทรกซ้อนการปกครองของไทยในปัจจุบันก็กากบาทตามแต่วิจารณญาณ อย่างน้อยนักการเมืองชังชาติ สัมภเวสีโอปปาติกะทางการเมืองจักได้ทราบความต้องการของประชาชนของสังคมไทยว่าเห็นด้วยหรือชิงชังกับเสียงสำรอกสำรากที่กล่าวอ้างความต้องการของประชาชนอย่างไม่รู้จบ“หลอกใช้เยาวชนเยาวรุ่น-สนตะพายกากเดนอั้งยี่ทรราช” ลงถนนสร้างความวุ่นวายให้สังคมไทยไม่รู้จบสิ้นเยี่ยงนี้...
nn “ไม้หน้าสาม” ฝากไว้บรรทัดนี้ รู้กันล่วงหน้ารู้เต็มอกว่าราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกทะยานไม่หยุดฉุดไม่อยู่ จะส่งผลถึงต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้าในประเทศจนเป็นเหตุให้ต้องมีการปรับค่าเอฟที ส่งผลให้ระดับราคาค่าไฟฟ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้น ทำไมไม่เร่งสร้างความยั่งยืนทางพลังงาน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนในการใช้ไฟฟ้า ไม่ทำให้ระดับราคาสินค้าเกิดการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้น หาก “รัฐบาลทหารแก่” จะลดความหยิ่งผยองทะนงตัวเชิญผู้มีความรู้ความสามารถมา “Brainstorm” ไม่แยกเขาแยกเราหาทางออกหาช่องทางลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน หรือสร้างเศรษฐกิจและแหล่งพลังงานที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มากกว่ามาสุมหัวคิดกันว่าจะแก้รัฐธรรมนูญจะแก้ไขกติกาการเลือกตั้งอย่างไรให้พรรคพวกตนได้เปรียบได้กลับมาบริหารประเทศอีกวาระ...
nn คิง เพาเวอร์จัดการประกวดดนตรี ผ่านระบบ Live Streaming กับเวที THE POWER BAND การประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยมผสมเครื่องเป่า ประจำปี 2564 ชิงเงินรางวัลรวม 680,000 บาท ร่วมชม และเชียร์พร้อมกันทั่วประเทศผ่านทาง Facebook : King Power Thai Power พลังคนไทย และ Youtube : King Power Thai Power พลังคนไทย ในวันที่ 27 พ.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 10.30-16.45 น....nn
"ไม้หน้าสาม"
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี