“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสามย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติ ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี/โจรในวงจรอุบาทว์ทุจริตคอร์รัปชั่นโกงบ้านกินเมืองฉ้อฉลเงินงบประมาณแผ่นดิน ติ่งแดงด้อมส้มอุปกรณ์การเกษตรที่พร้อมถูกลากถูกจูงลงถนนอย่างเท่าเทียม”...
■■ เมื่อมีสมาธิ สติก็บังเกิด ปัญญาประเทืองทันที ... “หนูน้อยถุงเท้าแดง -เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีนอมินีก็บังเกิดหูตาสว่างประกาศส่งเสริมอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย ; สร้างโอกาสการพัฒนาเศรษฐกิจต่อยอดการผลิตสินค้าจากสมุนไพรไทย ผลักดันสมุนไพรไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดโลก ในฐานะ “สินค้าซอฟต์ พาวเวอร์” ของไทย...
■■ อัชช่า!!ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ “นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ที่ชื่อลุงตู่/พี่ตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ตั้งเรื่องสร้างแผนงานกำหนดเป็น “แผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรฉบับที่ 1 (ปีพ.ศ.2560-2564)” ทุกขั้นตอน แม้กระทั่งงบประมาณ ทว่า ท่านเสนาบดีช่างรับเหมากลับนิ่งเฉยเฉกเช่นข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ที่อาจจะมีผลประโยชน์กับการนำเข้ายาปฏิชีวนะ จากต่างประเทศ กระทั่ง “กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก” กลายเป็น “เสือกระบาก” ไม่ดำเนินการตามแผนแม่บทอย่างจริงจังเป็นชิ้นเป็นอัน ทั้งที่สมุนไพรบางชนิดมีสรรพคุณในการป้องกัน/รักษาพยาบาลโรคบางโรคจนเป็นที่นิยมชื่นชมของต่างประเทศ โดยเฉพาะองค์การระหว่างประเทศ อย่าง “องค์การอนามัยโลก (WHO)”...
■■ “ไม้หน้าสาม” ไม่อยากฟื้นฝอยหาตะเข็บ เพราะเคยกระแซะสะกิดสะเกาทั้งรัฐมนตรีผู้รับเหมา ... ทั้งข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับ “สมุนไพรไทย”, การแพทย์ทางเลือก(แพทย์แผนไทย) แต่หาได้สำเหนียก ... ประเทืองปัญญาให้เกิดสมาธิมีสติปัญญาที่จะคิดหยิบ “วิกฤตเป็นโอกาส” นำตำรับยาที่ประดา “ปราชญ์ชาวบ้าน/แพทย์แผนไทย” ถือนำมา “จดลิขสิทธิ์” ป้องกันการลอกเลียนแบบตำรับยา นำมาวิจัย พัฒนา ต่อยอด จนสามารถนำสู่ตลาดโลกทั้ง “สมุนไพร” ที่มีมูลค่าการตลาดปัจจุบันราว สามล้านล้านบาท ... ในรูปแบบยาสำเร็จรูปด้วย สามารถสร้างรายได้เสริมแก่เกษตรกรไทยได้อีกช่องทาง โดยเอาพื้นที่นาบางส่วนที่ไร้ผลผลิต เอาพื้นที่ไร่บางส่วนที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จากผลผลิตที่สมบูรณ์แบบ นี่แหละ “พรุ่งนี้ ... เพื่อไทย เพื่อประชาชน”...
■■ หยุดเคาะกะลาบ้าบอกับคาถาวิปลาส “วิกฤตเศรษฐกิจ” พล่านหาเงินกู้เจียดมาดำเนินนโยบายเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท กับทุ่มเทสุดสรรพกำลังในการดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยการทำประชามติอย่างน้อย 3 กระทอก แต่ละกระทอกน่าจะใช้งบประมาณดำเนินการราวๆ 3,000 ล้านบาท รวมแล้วเกือบ หมื่นล้านบาท พลิกตัวกลับมานั่งตั้งสติมองสภาพปากท้องประชาชน หลังราคา “สินค้าอุปโภค-บริโภค” ปรับสภาพตาม“ราคาพลังงาน” จนเดือดร้อนกันทุกหัวระแหงสะท้านแผ่นดิน ลองนึกพฤติการณ์ที่เคยใช้กับปัญหาปากท้องสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้นในยุค “ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่ถูกปรามาสว่าแก้ไขสินค้าราคาแพงไม่ได้ให้ลาออกไป ... วันนี้สินค้าเดียวกันในสมัยนั้นราคาปรับตัว “โคตรแพง” ... “เฮียอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คิดวาทกรรมคิดประเด็นไว้แล้วหรือยังว่าจะออกประตูไหนอย่างไร “ไม้หน้าสาม” ไม่ถามดอกว่า พณ.เตรียมการแก้ไขไว้อย่างไร เพราะท่านทั้งคณะมะงุมมะงาหราบ้าบอกับนโยบายกู้เงินมาแจก 500,000 ล้านบาท ตามข้ออ้างสร้างพายุหมุน “กระตุ้นเศรษฐกิจ”...
■■ วันนี้ ผักผลไม้ราคาสุดโต่ง “ผักชี”กิโลกรัมละ 200-300 บาท, “ผักคะน้า” กิโลละ 80-120 บาท, ถั่วฝักยาวกิโลละ 80-100 บาท ไข่ไก่ ฟองละ 3 บาทกว่า ไข่เป็ด ฟองละ 5 บาท แน่นอนสภาพอากาศร้อนอบอ้าวมากในเวลานี้ ราคาย่อมปรับสูงขึ้นแต่สมควรสูงขนาดนี้หรือท่านเสนาบดี, อัครเสนาบดี ราคาค่าขนส่งก็สูงขึ้น เพราะกระทรวงพลังงานมัวแต่หาสาเหตุที่ทำให้ต้นทุนราคาน้ำมันแพงไม่เจอสักที ราคาดีเซล, เบนซินจึงทะยานขึ้นไปไม่ได้หยุด รัฐบาลที่ท่านปรามาส ... บูลลี่สามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ทุกวันนี้จึงไม่แปลกใจที่มีเสียงเรียกร้องให้ “รปภ.โง่-ลุงตู่” กลับมาบริหารประเทศอีกครั้งจนเกิดกระแสดีล “นายกรัฐมนตรีสำรอง” ...เหอ!! เหอ ที่ผ่านมาราคาคุยถ่มน้ำลายบูดรดฟ้านี่หว่า!?!?!...
■■ กระแสปรับคณะรัฐมนตรี ทำให้มีชื่อ “น้องน้ำ-จิราพรสินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด รองหัวหน้าพรรคพรรคเพื่อไทย” มีชื่อนั่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ แทน“ท่านรัฐมนตรีไชยา พรหมา” จะจริงจะชัวร์แค่ไหนไม่รู้ แต่น้องน้ำบอกว่า “...ไม่ว่าจะเป็นบทบาทใดทั้งในสภาฯ หรือ บทบาทอื่น ก็พร้อมทำงาน” จะขึ้นชั้น “รัฐมนตรี”ก่อนเพื่อนเลิฟเพื่อนซี้อย่าง “น้องอิ่ม-ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์” สส.กทม.เขต 20 คนเดียวของพรรคเพื่อไทย ที่แฟนคลับเหนียวแน่นฝ่ากระแสนักการเมืองคนรุ่นใหม่เท่าเทียมกันตามม็อตโต้ “การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต ... ต้องก้าวไกล ให้ไทยก้าวหน้าก้าวไกล ตรงไปตรงมา”จนได้รับคะแนนจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 14 ล้านเสียง(151 ที่นั่งในสภา)...
■■ ทิ้งท้าย ฉบับนี้ เห็นคลิปไวรัลใน “X ทวิตเตอร์” สื่อโซเชียลยอดนิยม ประเด็นที่ตกเก้าอี้รมว.สธ.โดนปรับกลับบ้านพ้นครม. “...หมอชลน่านตัดพ้อกับข้าราชการทางการแพทย์ด้วยความน้อยใจที่ตัวเองออกรับแทนพรรคทุกอย่างช่วงเลือกตั้ง ยอมทนโดนประชาชนก่นด่ายอมโดนเหยียบหน้าที่ตระบัดสัตย์หลอกลวงประชาชนแทนทุกคนในพรรค แต่สุดท้าย กำลังจะโดนนาย...ปลดออกเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีโควตาดิจิทัลมาแทนด้วยข้ออ้างว่าชลน่าน “เอาข้าราชการไม่อยู่” ...” ฟังแล้วรู้สึกจับใจ หาใช่สงสาร แต่สมเพชยิ่งนัก ... ขอโทษเถอะที่ผ่านมา “ท่านชลน่าน” ยอมนายใหญ่มาตลอด ไร้ปากเสียงมาวันนี้เพียงเพราะนายไม่เห็นศีรษะไม่มีเก้าอี้ “เสนาบดี” มารองรับถึงต้องพ้อกับคนสาธารณสุขอย่างนั้นหรือ???...■■
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี