“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า, แนวหน้าออนไลน์สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไปตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ ทันเหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิดนักเลือกตั้งชังชาติ ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี ติ่งแดงด้อมส้มอุปกรณ์การเกษตรอย่างเท่าเทียม” ...
■■ “นักแสดงยอดเยี่ยม” ในบท “ผู้ป่วยทิพย์ป่วยหนัก”จากภาพยนตร์เรื่อง “มันลุกมาจากอเวจีชั้น 14” ... “นักโทษเด็ดขาดคดีทุจริตคอร์รัปชั่นชาย - ทักษิณ ชินวัตร” ยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อเนื่อง และเอาจริงเอาจังมากขึ้นเริ่มจากฉายรังสีอเวจีดึงนักการเมืองส่ำสัตว์สัมภเวสีน้อยใหญ่คลาคล่ำชุมนุมที่ “บ้านพักกรีนวัลเลย์ อำเภอแม่ริมจังหวัดเชียงใหม่” พร้อมรดน้ำดำหัวภายใต้ชื่องาน “สระเกล้าดำหัวสืบสานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง”...
■■ งานนี้ไม่ได้หยุดที่ดำเนินการตามป๋าเวณีแต่สะพัดข่าวปรับคณะรัฐมนตรี ณ สถานที่แห่งนี้ ในขณะที่ “หนูน้อยถุงเท้าแดง-เศรษฐา ทวีสิน” ยังเริงร่าอยู่ที่บ้านพักริมทะเลหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ กับครอบครัวกับ “วาทกรรมองคุลีมาล ... ไม่มีอะไรเป็นสรณะ “Nothing is permanent ไม่มีอะไรเป็นสรณะ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป เป็นเรื่องธรรมดา อย่าคิดอะไรมาก” เก้าอี้เสนาบดีมีจำกัดทั้งอัครเสนาบดีและเสนาบดี มีตำแหน่งแล้วก็ต้องหมดตำแหน่งเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนจะบอก “สุทิน ชินแล้ว, ชลน่าน นอมินี และเกรียง ผู้ภักดี” อย่างไรอย่างนั้น...
■■ ไม่มีใครหนีกรรมพ้น ต่อให้เป็น “ผู้มากบารมีเหนือรัฐบาล”, เป็น “นักแสดงยอดเยี่ยม” ก็ต้องชดใช้กรรมที่ก่อ “นักโทษเด็ดขาดคดีทุจริตคอร์รัปชั่นโกงกินชายทักษิณ ชินวัตร”ก็เช่นกันหนีกรรมไม่พ้น ... “หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม” ประธานพรรคไทยภักดี ... อดีตมือปราบจำนำข้าวเมื่อครั้งอยู่ชายคาสีฟ้า “พระแม่ธรณีบีบมวยผม - ประชาธิปัตย์” สถาบันการเมืองเดียวของไทย หอบเอกสารของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่รวบรวมข้อเท็จจริงพฤติกรรมป่วยทิพย์ของ “น.ช.ทักษิณ ชินวัตร” ไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบการทุจริตต่อหน้าที่ตามมาตรา 157 และมาตรา 149 ของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์, นายแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ กรณีการป่วยทิพย์ของน.ช.ทักษิณ ชินวัตร จนทำให้กระบวนการยุติธรรมไทยขาดความน่าเชื่อถือต่อนานาอารยประเทศ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา...
■■ ดูกันว่าคดีนี้จะเป็นอย่างไร “ไม้หน้าสาม” เคยเขียนเตือนสติ “ผู้ปฏิบัติ” แล้วว่า ต้องพิสูจน์ สรุปส่งท้าย “โปรดสัตว์ด้วยความสุจริตหรือไม่สุจริต” หรือว่าจะมีผู้เข้าข่าย “โปรดสัตว์ได้บาป” เกิดขึ้นกันบ้างจักได้เป็นอุทาหรณ์กับผู้ปฏิบัติเฉกเช่นคดี “จำนำข้าวทุกเม็ด” ... “คดีแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต” เอื้อประโยชน์บริษัทเอกชนคู่สัญญา “ชิน คอร์ปอเรชั่น (ชินคอร์ป)” ... “คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร” ฯลฯ...
■■ “ไม้หน้าสาม” ชวนสังคมไทยตามติด “นางน้องสาว” กลับสุวรรณภูมิ ทำบุญ “ฉลองป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองในปีมะเส็ง-งูเล็ก” ตามคำบอกเล่า “ผู้มากบารมีเหนือรัฐบาล” งานนี้ชีใช้แนวทางพี่ชายปฏิบัติไม่ได้ ผู้ชมเขารู้ทันหมดแล้ว กลับเข้ามานอนคุกวันเดียวแล้วถีบให้เข้า “ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566” ...อนุญาตให้คุมขังผู้ต้องโทษนอกเรือนจำ ...นำตัวกลับไปคุมขังที่ บ้านซอยโยธินพัฒนา 3 คล้ายทฤษฎี “ป่วยทิพย์” ก่อนเข้าข่าย “พักโทษสัมภเวสีคดีทุจริตคอร์รัปชั่น - ทักษิณ ชินวัตร”คงไม่ได้ด้วยเหตุผลที่แตกต่างหลายประการ ที่สำคัญ “จ๊าดง่าว - ปู/ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ต้องคำพิพากษาคดีทุจริต/ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ก่อให้เกิดการทุจริตคดี “ระบายข้าวแบบจีทูจี” ซึ่งศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา แม้จะมีการยกฟ้องในคดีอื่นๆ และมีการถอนหมายจับแล้วก็ตามที...
■■ ในโลกไร้พรมแดนเช่นนี้เรื่องดีๆ ที่น่าสนใจน่าผลักดันส่งเสริมให้ “เชียงใหม่เป็นประตูการค้าออนไลน์กับมหาอำนาจที่มีการค้าออนไลน์มากที่สุดในโลกอย่าง “สาธารณรัฐประชาชนจีน” เพราะจากตัวเลขการค้าในปี 2564 ยุครัฐบาลลุงตู่ 5 อันดับแรกที่ทำการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน คือ 1.อินเดีย 2.เวียดนาม 3.สหรัฐอเมริกา 4.แอฟริกาใต้ 5.ไทย โดยในปี 2566 มีการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนถึง 12 ล้านล้านบาท ในขณะที่เชียงใหม่มีศักยภาพและความพร้อมที่จะพัฒนาให้สามารถเป็นศูนย์กลางการค้าออนไลน์ได้ดีที่สุด เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยว สินค้า หากรัฐบาลเข้ามาส่งเสริมการค้าดิจิทัลอย่างจริงจัง พัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตลอดจนระบบไปรษณีย์ หากรัฐบาลสามารถปรับเชียงใหม่รองรับความพร้อม และเสาะหาช่องทางเพิ่มเติมในการสร้างรายได้ Cross Border E-Commerce หรือการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนเป็นอีกตัวเลือกที่มีอนาคต ซึ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจให้จังหวัดเชียงใหม่มีเศรษฐกิจที่ดีขึ้นมีรายได้เพิ่มเติมจากธุรกิจท่องเที่ยวก็สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศเพิ่มมากขึ้นจากการส่งออกสินค้าออนไลน์ที่อาจจะเป็นซอฟต์ พาวเวอร์เป็นสินค้าการเกษตร...
■■ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รัฐมนตรีกระทรวงหูกวาง-คมนาคม รักษาอาการท่าทีหลังตกพุ่มควบรองนายกฯ แทนเพื่อนซี้ “บิ๊กเอ็ม/สมศักดิ์ เทพสุทิน” ศิษย์คณะเรา-อำนวยศิลป์ แสดงอาการเหนียมอายขอให้อยู่ในดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี ตอนนี้ทำงานที่กระทรวงคมนาคมก็พอใจอยู่ และอย่าเพิ่งไปคาดเดา ยัน “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ใน 2 ปีจะทำให้ได้หวังประโยชน์สองกระทอกช่วยลดภาระประชาชน, ลด PM2.5...■■
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี