ถือเป็นรายการ “ยอดอะเมซิ่งของโลก” ก็ว่าได้ ตรงที่ “กล้วยของนครสารขัณฑ์” เป็นกล้วยที่ “สุดอัศจรรย์” จนลิงทั้งหลายในป่าทึบแห่งการเมืองของนครดังกล่าว ต่างโหยหา“อยากได้กล้วยกัน” จ้าละหวั่น

ที่ระบุว่าเป็นกล้วยอะเมซิ่งและเป็น “กล้วยอัศจรรย์”เพราะลิงทุกตัวที่ได้กินกล้วยชนิดนี้ วันรุ่งขึ้นจะถ่ายออกมาเป็น “ทองคำแท่ง” ชนิดนำไปขายให้ร้านทองแถวเยาวราชก็จะถูกรับซื้อทันที เพราะตรวจพิสูจน์แล้วมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับ “ทองคำแท้”

เมื่อเกิดสิ่งอัศจรรย์เช่นนี้ ลิงในป่าทึบแห่งการเมืองของนครสารขัณฑ์ ต่างจึงกลายเป็น “ลิงหิวกล้วย”

แต่มีปัญหาอันยิ่งใหญ่ ตรงที่ “กล้วยสายพันธุ์อัศจรรย์” นี้ ปลูกยาก ปลูกลำบาก ยิ่งกว่า “เข็นครกขึ้นหน้าผา”

ว่ากันว่า “สูตรลับของการปลูกกล้วยสายพันธุ์นี้”จะต้องปลูกโดย “พระฤๅษีที่บำเพ็ญตบะจนมีบารมีแก่กล้า” เท่านั้น จึงจะสามารถปลูกกล้วยชนิดนี้ให้เติบโต จนออกดอกออกผล

แถมการนำกล้วยมาแจกแก่ฝูงลิงแต่ละครั้ง ก็ต้องแจกกันอย่าง “ลี้ลับ” ชนิด ฤๅษีบอกความลับใครไม่ได้ คนสนิทของฤๅษีซึ่งเป็นผู้แจกกล้วย “ก็ต้องบอกใครไม่เป็น”

ในเร็ววันนี้ “ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนครสารขัณฑ์” ใกล้จะถึงแล้ว ตามมาด้วย “มหกรรมเลือกตั้งครั้งใหญ่ทั่วประเทศ”

ดังนั้น จึงเท่ากับ “ฤดูกาลแจกกล้วยครั้งมหึมา” มา “จ๊ะเอ๋” กัน

จึงไม่น่าแปลกใจ ที่วันนี้มีข่าว พระฤๅษีนักปลูกกล้วยและเจ้าของสวนกล้วยทั้งหลาย ต่างเริ่มแตะมือกันประกาศข่าว ให้ลิงหิวกล้วยทั้งโขยง รีบมาเป็นสาวกพระฤๅษีเพื่อเตรียมตัว “รับกล้วย”

การออกมา “เคาะระฆัง” เรียกหาฝูงลิงมาเข้าอาศรมพระฤๅษีเพื่อเตรียมรับกล้วยนั้น ทำกันทุกพระฤๅษี ไม่เว้นแม้แต่ “พระฤๅษีโคบุตร” ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของทศกัณฐ์ ซึ่งปลูกกล้วยอยู่แดนไกล วันนี้ก็ยัง “ธุดงค์” มาอยู่ใกล้ๆ ประเทศสารขัณฑ์ แล้วเคาะระฆังเรียกลิงหิวกล้วยทั้งหลาย รีบไปรายงานตัว “รับกล้วย” ได้แล้ว

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม