วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ที่นี่แนวหน้า
ที่นี่แนวหน้า

ที่นี่แนวหน้า

วิภาวดี หลักสี่
วันเสาร์ ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2565, 02.00 น.
‘หมวกกันน็อก’ใส่ลดเสี่ยง อุบัติเหตุ‘สมองเสีย’ไม่คุ้ม

ดูทั้งหมด

  •  

“ช่วงที่เรายังไม่มีจุดหมุนจุดเปลี่ยนอะไร เช่น ใน อ.เมือง ช่วง 4-5 โมงเย็น ใส่กัน 80% ส่วนอำเภอนอกๆ ก็สักครึ่งหนึ่งแต่หลังจากสัก 2 ทุ่ม อันนี้คือ 52% แล้วก็ในรอบนอกเหลือเพียง 10 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ยังใส่หมวกกันน็อกกันอยู่ แล้วทำไมไม่ใส่? ไม่มีใครจะดูแลกลางคืน ตำรวจก็กลับเข้าที่ตั้ง มันไม่เหมาะสมที่ตำรวจจะไปยืนกำกับหรือมีการตั้งด่านกลางคืน เพราะจะประจันหน้าทะเลาะกันเปล่าๆ”

นพ.ธีรวุฒิ โกมุทบุตร ที่ปรึกษา สอจร.ภาคเหนือกล่าวในวงเสวนา (ออนไลน์) เรื่อง “จุดเปลี่ยนเมื่อสวมหมวกกันน็อก” จัดโดย แผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) เมื่อเร็วๆ นี้ ถึงสถานการณ์อุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ (จักรยานยนต์) ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งจากประสบการณ์เป็นแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) มาตั้งแต่เริ่มทำงานจนถึงเกษียณ “ป้องกันดีกว่ารักษา” เป็นบทสรุปที่ชัดเจน


โดยผู้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจากมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ข้อมูลเมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อน พบกระจุกอยู่ใน 5 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.สันทราย อ.สารภี อ.แม่ริม และ อ.หางดง อยู่ที่กว่า 200 รายต่อปี แต่ถ้านับทั้งจังหวัดจะสูงถึงเกือบ 400 ราย และความสูญเสียส่วนใหญ่เกิดในเวลากลางคืนมากกว่ากลางวัน เพราะเป็นเวลาที่สวมหมวกกันน็อก (หมวกนิรภัย) ค่อนข้างน้อย ซึ่งสาเหตุที่คนไม่สวมหมวกกันน็อกในเวลากลางคืน มาจากการขาดงบประมาณสนับสนุนทั้งการประชาสัมพันธ์ การทำงานนอกเวลาราชการของเจ้าหน้าที่ และการนำเทคโนโลยีมาใช้

อย่างไรก็ตาม ด้วยความมุ่งมั่นของ จ.เชียงใหม่ ประกอบกับได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิ Safer Roads Foundation (SRF) พัฒนาระบบกล้องวงจรปิดที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตรวจจับผู้ไม่สวมหมวกกันน็อก ทดลองใช้ใน 5 อำเภอเสี่ยงสูงข้างต้น พบว่า ในพื้นที่ อ.เมือง ก่อนปี 2563 อัตราการสวมหมวกกันน็อก อยู่ที่ร้อยละ 60.17 แต่ในเดือน มิ.ย. 2565 พบว่าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 82.36 หรือหากดูค่าเฉลี่ยรวมทั้ง 5 อำเภอ พบว่า ก่อนปี 2563 อัตราการสวมหมวกกันน็อก อยู่ที่ร้อยละ 54.54 แต่ในเดือน มิ.ย. 2565 พบว่าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 79.57

นพ.ธีรวุฒิเล่าต่อไปว่า การพัฒนาซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์เพื่อตรวจจับผู้ไม่สวมหมวกกันน็อก เป็นนวัตกรรมที่เกิดขึ้นโดยฝีมือคนไทย เนื่องจากไม่พบการพัฒนานวัตกรรมแบบเดียวกันในประเทศที่เจริญแล้วซึ่งหลังจากนำมาทดลองใช้ใน 5 อำเภอ พบสามารถตรวจจับได้หลักหลายร้อยรายต่อวัน จากเดิมที่ใช้วิธีให้เจ้าหน้าที่มาคอยนั่งดูผ่านจอมอนิเตอร์ ที่ตรวจจับได้เพียงหลักสิบรายต่อวัน จากนั้นนำมาคัดเลือกให้เหลือภาพที่เห็นรายละเอียดชัดเจนจริงๆ เพื่อส่งใบสั่งไปให้มาเสียค่าปรับตามกฎหมาย พร้อมกับส่ง “ใบเตือน” ให้ปรับพฤติกรรมด้วย

“เรารู้ดีว่าถ้ามีจักรยานยนต์ 3,000 คัน ไม่สวมหมวกนิรภัย จะต้องมีคนหนึ่งตายใน 1 ปี เชียงใหม่มีจักรยานยนต์ตั้งล้านคัน กลายเป็นว่ามหาศาลแน่นอนจากจักรยานยนต์ ข้อมูลที่ผมเรียงลำดับอย่างซับซ้อน ขอ Simplify (อธิบายให้เข้าใจง่าย) ว่าการสวมหมวกนิรภัยเพิ่มขึ้นโดยการใช้เทคโนโลยีในการจับภาพคนไม่สวมหมวก ซึ่งเถียงไม่ได้ ไม่เหมือนกับการตั้งด่าน เถียงกันอยู่ใกล้นิดเดียว

ไม่ต้องเถียงกัน เพราะว่ามันเป็นสี่แยกจุดยุทธศาสตร์ ที่เรารู้ว่าการจะผ่านจุดนี้มันต้องมาไกลพอสมควร แล้วจะต้องไปไกลพอสมควร เอาแค่จุดยุทธศาสตร์ เมื่อเถียงไม่ได้แล้วเขาเห็นหลักฐานชัดเจน รวมถึงมีใบแสดงปรารถนาดีโน้มน้าวให้รู้สึกว่าไม่ได้จับปรับเพราะเอาสตางค์ จับปรับเพื่อปรับพฤติกรรม” นพ.ธีรวุฒิ กล่าว

นพ.ธีรวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม “การใช้เทคโนโลยีต้องมาพร้อมกับการประชาสัมพันธ์ด้วย” โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสื่อมวลชนท้องถิ่นใน จ.เชียงใหม่ มีการเสนอข่าวแจ้งประชาชน เช่น ประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2563 เป็นต้นไป จะเริ่มใช้ AI มาตรวจจับผู้ไม่สวมหมวกกันน็อกใน 5 อำเภอ และย้ำว่าเป็นการบังคับใช้กฎหมายด้วยความหวังดีต้องการลดการบาดเจ็บล้มตายของประชาชนเอง ซึ่งการประชาสัมพันธ์แบบนี้จะช่วยลดแรงต่อต้านจากประชาชน ดีกว่าอยู่ๆ ก็ไปเข้มงวดจับกุมทันทีซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความไม่พอใจเจ้าหน้าที่

คุณหมอท่านนี้ยังยกตัวอย่าง “ความสูญเสียและความทุกข์ทรมานของคนใกล้ชิด” มาบอกเล่าไว้เป็นอุทาหรณ์ เมื่อพ่อแม่ซื้อมอเตอร์ไซค์ให้ลูก แต่ไม่ได้เน้นย้ำเรื่องการสวมหมวกกันน็อกเพื่อความปลอดภัย ในวันที่เกิดอุบัติเหตุ บางรายแพทย์ทำได้เพียงรักษาให้สมองมีชีวิต แต่ผู้บาดเจ็บมีสภาพติดเตียงซึ่งพ่อแม่ดูแลอยู่ได้เพียง 1 เดือนเศษๆ ก็เสียชีวิตเพราะติดเชื้อจากแผลกดทับที่เริ่มเน่า หรือบางรายสมองก็ถูกทำลายจนใช้ชีวิตได้ไม่ต่างจากเด็กเล็กๆ แม้จะขยับร่างกายได้ แต่ก็ไม่สามารถไปเรียนหนังสือหรือทำงานตามปกติได้ เป็นที่น่าเวทนาต่อผู้พบเห็น

จากภาคเหนือสู่ภาคใต้ วรรณี มีขวด พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ งานอุบัติเหตุและฉุกเฉิน รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช บอกเล่าถึงหลายกรณีที่สะเทือนใจ เช่น สามีมาโรงพยาบาล เมื่อถามว่าทำไมภรรยาไม่มาด้วย ก็ได้รับคำตอบว่า เมื่อ 10 ปีก่อน ลูกชายเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจากมอเตอร์ไซค์ ตั้งแต่นั้นภรรยาก็มีอาการหวาดกลัวโรงพยาบาลและไม่กล้ามาอีกเลย เพราะเพียงเห็นโรงพยาบาลภาพฝันร้ายในอดีตก็จะตามมาหลอกหลอนทันที

หรืออีกกรณีหนึ่ง วัยรุ่นชายอายุ 15 ปี ขี่มอเตอร์ไซค์ไปเกิดอุบัติเหตุและสมองได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ต้องกลายเป็นคนพิการ “จากครอบครัวฐานะดี..ทุกอย่างเปลี่ยนไปจากอุบัติเหตุของลูกชายเพียงครั้งเดียว”ผู้เป็นแม่จากที่สามารถเดินทางจาก จ.นครศรีธรรมราช ไปโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ได้เรื่อยๆ ก็ต้องหยุดไป พี่ๆ ที่กำลังเรียนในระดับมหาวิทยาลัยก็ต้องหยุดเรียนเพราะต้องมาช่วยกันดูแลน้อง รวมถึงต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากไปกับค่าวัสดุอุปกรณ์ในการดูแล เนื่องจากสวัสดิการของรัฐช่วยได้ส่วนหนึ่งเท่านั้น

“ขับมอเตอร์ไซค์ไม่ใส่หมวกกันน็อก เป็นเคสปกติที่เราจะเจอได้บ่อยมาก อยู่ที่ห้องฉุกเฉินเราเห็นพ่อหรือแม่ได้ข่าวว่าลูกขับมอเตอร์ไซค์แล้วบาดเจ็บมานอนโรงพยาบาล ส่วนมากไม่ค่อยคิดว่าจะตาย ก็มาด้วยความหวัง คิดว่าลูกเขาน่าจะปลอดภัย มาถึงบอกเราเดี๋ยวจะขอห้องพิเศษ แต่จริงๆ ลูกเขาตายแล้วและเราไม่รู้จะบอกเขาอย่างไร แต่มันจำเป็นต้องบอก แล้วเราได้เห็นอาการที่เรียกว่าล้มทั้งยืนอยู่บ่อยๆ เหมือนกันที่ห้องฉุกเฉิน” วรรณี ระบุ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
21:14 น. ฟุตบอลลั่นกวาดหมด! สมาคมกีฬาฟันธง241ทองซีเกมส์
21:13 น. ‘ผกก.สส.สระบุรี’สนองนโยบายผบช.ภ.1-ผู้การสระบุรี รับเหรียญเกียรติคุณ ป.ป.ส.จากผลงานปราบยานรก
21:11 น. พัฒนาผู้ตัดสิน! BYDเปิดโครงการ B License
21:06 น. เรื่องชวนคิด!!! เลือก'ปธ.กกต.คนใหม่'ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?
21:04 น. ‘เจ้าบังเกอร์’ลูกวัวน้อยขี้เล่น ความน่ารักบนความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา
ดูทั้งหมด
การทูตหยุดโลก 'อ.ธรณ์'ชี้ความสำคัญ ในหลวงเสด็จเยือนจีน
ยูเนสโกประกาศยกย่อง 'ในหลวงรัชกาลที่ 9' และ 'สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ'
เบื้องหลังฉลองพระองค์ 'สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี'
แรงมากแม่! 'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์สตอรี่ปริศนาพูดถึงเวรกรรม
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงทำริบบิ้นสีดำถวายความอาลัย
ดูทั้งหมด
เสียงร้องไห้ไม่เคยดังกว่าเสียงปืน
ไทย-จีน‘ดุจครอบครัวเดียวกัน’
คุยกันแบบนักเลง
สงครามสี
อสส. อุทธรณ์คดี 112 ‘ทักษิณ’ ต้องสู้ให้สมศักดิ์ศรี
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ฟุตบอลลั่นกวาดหมด! สมาคมกีฬาฟันธง241ทองซีเกมส์

พัฒนาผู้ตัดสิน! BYDเปิดโครงการ B License

เรื่องชวนคิด!!! เลือก'ปธ.กกต.คนใหม่'ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?

'ขี่ม้าโปโลไทย'พร้อม! ตั้งเป้าคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์

แฟนคลับส่งกำลังใจ! 'เก้า สุภัสสรา'เผยป่วยเนื้องอกในมดลูก เมนส์มาไม่หยุดจนเป็นลม

เน้นเกมรุก! 'ฮัดสัน'ปลื้มช้างศึกระเบิดฟอร์ม

  • Breaking News
  • ฟุตบอลลั่นกวาดหมด! สมาคมกีฬาฟันธง241ทองซีเกมส์ ฟุตบอลลั่นกวาดหมด! สมาคมกีฬาฟันธง241ทองซีเกมส์
  • ‘ผกก.สส.สระบุรี’สนองนโยบายผบช.ภ.1-ผู้การสระบุรี รับเหรียญเกียรติคุณ ป.ป.ส.จากผลงานปราบยานรก ‘ผกก.สส.สระบุรี’สนองนโยบายผบช.ภ.1-ผู้การสระบุรี รับเหรียญเกียรติคุณ ป.ป.ส.จากผลงานปราบยานรก
  • พัฒนาผู้ตัดสิน! BYDเปิดโครงการ B License พัฒนาผู้ตัดสิน! BYDเปิดโครงการ B License
  • เรื่องชวนคิด!!! เลือก\'ปธ.กกต.คนใหม่\'ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่? เรื่องชวนคิด!!! เลือก'ปธ.กกต.คนใหม่'ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?
  • ‘เจ้าบังเกอร์’ลูกวัวน้อยขี้เล่น ความน่ารักบนความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ‘เจ้าบังเกอร์’ลูกวัวน้อยขี้เล่น ความน่ารักบนความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

พลิกเกมป้องกันภัยไซเบอร์ในยุค AI เสริมเกราะความไว้วางใจ สู่การป้องกันเชิงรุก

พลิกเกมป้องกันภัยไซเบอร์ในยุค AI เสริมเกราะความไว้วางใจ สู่การป้องกันเชิงรุก

15 พ.ย. 2568

‘Dashboard’ อัจฉริยะ ทางรอด ‘เกษตรไทย’…สู้ ‘วิกฤตภูมิอากาศ’

‘Dashboard’ อัจฉริยะ ทางรอด ‘เกษตรไทย’…สู้ ‘วิกฤตภูมิอากาศ’

8 พ.ย. 2568

เปิดประชุมชี้แจง ‘กองทุนบัตรทอง’69’ 6 แนวทางยกระดับ ‘30 บาทรักษาทุกที่’

เปิดประชุมชี้แจง ‘กองทุนบัตรทอง’69’ 6 แนวทางยกระดับ ‘30 บาทรักษาทุกที่’

1 พ.ย. 2568

‘Chiang Mai Marathon 2026’ ส่งเสริมสุขภาพ สร้างสัมพันธ์นิสิต – ศิษย์เก่า - ชุมชน

‘Chiang Mai Marathon 2026’ ส่งเสริมสุขภาพ สร้างสัมพันธ์นิสิต – ศิษย์เก่า - ชุมชน

25 ต.ค. 2568

เปิดประสบการณ์ ‘ฐานการเรียนรู้ทางการแพทย์’ แนะแนวศึกษาต่อสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ’69

เปิดประสบการณ์ ‘ฐานการเรียนรู้ทางการแพทย์’ แนะแนวศึกษาต่อสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ’69

18 ต.ค. 2568

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

11 ต.ค. 2568

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

4 ต.ค. 2568

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

27 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved