“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ให้ทันเล่ห์เหลี่ยม นักการเมืองเสียชาติเกิดนักเลือกตั้งชังชาติ ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี อย่างเท่าเทียม” ขยายความจริงประเด็นแรกเรื่องใกล้ตัว พฤติกรรม “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี”ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ.2566...
nn กับประเด็นที่ครอบครัว “รัตนพันธุ์” ร้องเรียนสังคมผ่านสื่อมวลชนกรณี “ธรรมาภิบาล” ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยังเป็นเรื่องที่รอการพิสูจน์จากกระบวนการยุติธรรมข้อเท็จจริงนี้คือ “นิติกรรมอำพราง” หรือไม่อย่างไร เยี่ยงนี้สังคมไทยสมควรเสี่ยงนักบริหารที่ไร้จริยธรรม ธรรมาภิบาล มาถือธงไทยนำพาประเทศกระนั้นหรือ แล้วจะก้าวข้ามวงจรอุบาทว์หรือตกอยู่ในวังวนเดิมๆ แล้วเดินทางออกนอกประเทศดังบรรพชนหรือไม่?!?!?...
nn ฟังวิสัยทัศน์ชายนักธุรกิจวัย 59 ปี ผ่านคลิปที่ว่อนในโลกโซเชียลแล้วเข้าใจวิสัยทัศน์ท่านแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทันทีว่า ไร้วิสัยทัศน์มีแค่วาทกรรมปั่นจีดีพีเอาความชอบไว้โอ้อวดในโอกาสข้างหน้าเท่านั้นที่ว่า 8 ปีที่ผ่านมา เราไม่ได้อะไรเลย แถมยังถดถอยเป็นเรื่องน่าเสียดายมากคุณเศรษฐาปลิ้นคำถามออกมาว่า “เรากำลังสู้กับประเทศที่เขามีผู้นำ ซึ่งสามารถออกไปค้าขายเองได้ มีความถ่อมตนว่า ฉันเป็นประเทศที่เล็กต้องออกไปหาเขา ไม่ใช่คอยให้เขามาหาเรา ถามตรงๆ เอเปกที่ผ่านไปเมื่อ 3 เดือนมานี้ ภาษานักธุรกิจเขามีว่า...แล้วไง?” นั่นสิ เยี่ยงนั้นจริงหรือ...
nn “ไม้หน้าสาม” อยากให้ท่านย้อนไปดูพฤติกรรมเพื่อนรักเพื่อนสนิทท่านที่ชื่อ “ปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีที่ลงสนามการเมือง 49 วันชนะเลือกตั้ง “แลนด์สไลด์” นางเป็นนายกฯ 25 เดือน ทำสถิติโลก บินไปนอกถึง 43 ประเทศ รวม 55 ทริป เพราะบางประเทศ ไปซ้ำๆ ถึง 2-3 ครั้ง บางคราวไม่ไปป่าวยังไปแสดงปาฐกถาอัปยศที่มองโกเลียอีกต่างหาก จนเกิด “วรรคทอง” ของ “ชัย ราชวัตร”การ์ตูนนิสต์การเมืองค่ายยักษ์เขียวไทยรัฐที่ว่า “โสเภณีเร่ขายตัวหญิงชั่วเร่ขายชาติ” ผลาญงบประมาณแผ่นดินเงินภาษีประชาชนไปกว่า 230 ล้านบาท ยุคนั้นประเทศชาติได้ส่งออกสินค้าอะไรไปบ้างหรือท่าน “เศรษฐา ทวีสิน” จะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแล้วบินไปเจรจาค้าขาย “บ้านจัดสรรหรูเลิศราคาแพง” จัดโปรโมชั่น “ขายบ้านแถมสัญชาติ” อย่างที่เกิดขึ้นในยุค “ลุงตู่” ที่ “ตู้ห่าว กับ หยู ซินฉี” อย่างที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์บางบริษัทกระทำอย่างนั้นหรือ “พูดไปสองไพเบี้ยนิ่งเสียตำลึงทอง” ต้องถามใจ “ท่านเศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยว่า การออกไปเจริญสัมพันธไมตรีกับ “ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย” ทำประเทศถดถอยกระนั้นหรือ อย่าถามว่า เอเปกไทยได้อะไร ทุกอย่างต้องใช้เวลา เหมือนนโยบายขายฝันของพรรคเพื่อไทยที่หวังปั่นจีดีพีเพื่อบรรลุเป้าหมายตามฝันที่ขาย มิใช่หรือ...
nn บนเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งที่จังหวัดพิษณุโลกของพรรคเพื่อไทยที่มี “คุณเศรษฐา ทวีสิน” นำทีมแซะรัฐบาลปัจจุบันเรื่องมั่นคง มั่งคั่ง “อำมาตย์เต้น-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์” ที่ออกอาการจุกเสียดกะทันหันจนพูดอะไรไม่ออกหลังสื่อถามถึงความคืบหน้า “โครงการจำนำข้าวทุกเม็ดของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย” ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวหาพรรคการเมืองคู่แข่งอย่างค่ายสีฟ้าสถาบันการเมือง “พรรคประชาธิปัตย์” ที่สมควรไปอยู่ในคุกตะรางเพราะช่วยเหลือให้คณะรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองเข้าใจอยู่ว่ากลอนพาไปหรือใจมันเรียกในเวลาที่สมองสัมปชัญญะไม่พร้อม จนเกิดอาการพูดลืมคิดว่า ไอ้นักการเมืองพรรคที่ติดคุกตะรางอยู่จนถึงเวลานี้มีแต่ “พรรคเพื่อไทย” และบรรดาข้าราชการภายใต้การบริหารราชการแผ่นดินโดยพรรคเพื่อไทยบ้างไทยรักไทยบ้าง พลังประชาชนบ้างทั้งนั้น อย่างน้อย “หัวหน้าพรรค” สองคนก็ตะเกียกตะกายมุดหลบหนีคดีความออกนอกประเทศไปเป็น“สัมภเวสี” เยี่ยงที่เห็นที่เป็นอยู่นี่อย่างไร...
nn “ไม้หน้าสาม” เห็นช่องการค้าจาก “ซอฟต์ พาวเวอร์” บางสินค้าอย่างน่าตกใจ “ชุดนักเรียนไทย” ที่กลายเป็นสินค้ายอดนิยมของวัยรุ่นและคนทุกวัยใน “ตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน” ที่หลายคนบอกว่าไม่ใช่ค่านิยมตามกระแส แต่ ... เป็นกระแสหลงรัก “ชุดนักเรียน” เพราะสวมใส่ถ่ายรูปแล้วคล้ายอายุจะลดลง 15-20 ปี ย้อนไปสู่สาวรุ่นหนุ่มกระทงหล่อสวยใสนั่นหมายความว่ากระทรวงศึกษาธิการเดินมาถูกทางกับเครื่องแบบนักเรียน กระทรวงพาณิชย์น่าจะอาศัยกระแสค่านิยมและความต้องการนี้ตลาดในเมืองใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือสร้างแพลตฟอร์มเพื่อการค้าออนไลน์ให้ผู้ประกอบการในประเทศได้แสวงหาผลกำไรอย่างเต็มที่และกำหนดราคาขายในประเทศให้เป็นสินค้าควบคุมราคาเพื่อลดความเดือดร้อนของผู้ปกครองที่ต้องดิ้นรนต่อสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจจนอัตราค่าครองชีพสูงขึ้นเช่นปัจจุบันนี้ อย่ามัวแต่เดินสายหาเสียงกินบุญเก่าที่สร้างไว้อย่างเดียว ก่อบุญใหม่เพิ่มกระแสศรัทธาให้แก่พรรคไม่ดีกว่าหรือ...
nn เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ฝูงชนทั้งไทยและเทศเนืองแน่นหาดพัทยา ไม่ใช่อิทธิพลความสวยงามของหาดพัทยา ทว่า ฝูงชนเหล่านี้มาท่องเที่ยวสนุกสนานในประเพณีสาดสี “โฮลี” ซึ่งเป็นเทศกาลฉลองรื่นเริงที่มีพื้นเพมาจากความเชื่อในศาสนาฮินดูในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยชาวฮินดูจะออกมาเล่นสาดสีใส่กัน เป็นเฟสติวัลที่จัดโดยสมาคมนักธุรกิจไทย-อินเดีย สมาคมอินเดียพัทยา และสมาคมท่องเที่ยวในประเทศรวมทั้งเมืองพัทยา สร้างรายได้มหาศาลให้แก่ชุมชน “ไม้หน้าสาม” ไม่มีโอกาสไปร่วมความสนุกสนานครึกครื้นนี้เองแต่ดูคลิปแล้วน่าสนใจ หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นถ้าไม่ยึดติดแต่ประเพณีไทย จัดเฟสติวัลของต่างประเทศในท้องถิ่นที่มีความพร้อม น่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาฉลองเฟสติวัลในประเทศไทย พร้อมท่องเที่ยวไทยไปด้วยรายได้ 2.4 ล้านล้านบาทไม่น่าจะยากเกินความพยายามดีกว่าไปตะแบง “กัญชาเสรี” ถมเถไป...
nn อย่างเทศกาล “คาร์นิวัล” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ถูกจัดขึ้นในหลากหลายประเทศที่มีการนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกทั้งเยอรมนี โปรตุเกส สเปน อิตาลี และ บราซิล มักเกี่ยวข้องกับการเฉลิมฉลองในที่สาธารณะ รวมถึงงานต่างๆ เช่น ขบวนพาเหรด งานปาร์ตี้บนถนนสาธารณะ ... มีหรือที่องค์กรต่างๆ จะร่วมมือกันจัดงานให้เป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลกไม่ได้ เทศกาลโฮลียังประสบความสำเร็จแล้วทำไมเฟสติวัลอื่นๆ จะไม่สร้างชื่อสร้างรายได้มหาศาลให้แก่ประเทศได้เล่า “ท่านพิพัฒน์รัฐกิจประการ”...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี