“ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่า เมียรัก” เป็นสุภาษิตคำพังเพยโบราณ
สื่อความว่า สิ่งเหล่านี้ เป็นบรรดาสิ่งไม่น่าไว้วางใจ ซึ่งอาจนำภัยมาสู่ชีวิตคน
ช้างสารและงูเห่า เป็นสัตว์เดรัจฉาน มีนิสัยดุร้าย ไว้ใจไม่ได้
ในสมัยโบราณ เชื่อกันว่าให้ระวังช้าง เพราะเวลามันโกรธ จะใช้งวงและงาฟาดฟัน
งูเห่า เป็นอสรพิษร้าย ทำให้สัตว์ที่โดนกัดถึงแก่ชีวิตได้
ข้าเก่าหรือบริวาร อาจนำโจรเข้าบ้าน เพราะรู้ช่องทางเข้า-ออกเป็นอย่างดี
ส่วนเมียรัก อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้โดยที่ไม่ระวัง เพราะถือเป็นคนใกล้ชิด
ทั้งข้าเก่าและเมียรัก เป็นบุคคลที่ใกล้ชิด ย่อมรู้เรื่องราวและความลับของเราหมด บุคคลประเภทนี้ ถ้ากลับกลายเป็นศัตรูแล้ว จะเป็นศัตรูที่ร้ายที่สุดดังนั้น จึงไม่ควรไว้วางใจจนเกินไป
1. ปรากฏการณ์ที่นายจตุพรออกมาแฉนายทักษิณ ทั้งกรณีแทรกแซงยึดเวทีเสื้อแดง ปี 2553 กรณีถีบหัวเรือส่งคนเสื้อแดง และอีกมากมายในช่วงหลัง
ตอกย้ำอันตรายของ “ข้าเก่า” ที่เคยรับใช้ทำงานให้ทั้งบนดินใต้ดิน เมื่อถูกหักหลัง ถูกหยามหมิ่นศักดิ์ศรี ก็อาจออกมาแฉจนย่อยยับ
2. กรณีนายสมศักดิ์ ย้ายขั้วจากทักษิณมาอยู่กับ พปชร. และย้ายกลับเพื่อไทย
น่าสนใจว่า ระหว่างอยู่กับรัฐบาลลุงตู่ นายสมศักดิ์จะได้เปิดเผยข้อมูลอะไรเชิงลึกเชิงลับเกี่ยวกับนายเก่า ทักษิณ ชินวัตร ให้กับลุงตู่ไว้บ้างหรือไม่
แต่ถ้าดูจากพฤติการณ์ ผลงาน ระหว่างเป็นรัฐมนตรีอยู่ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์แล้ว ผลงานโบดำโดดเด่นสุด เห็นจะไม่พ้น กรณีลดโทษนักโทษคดีจำนำข้าวกันอย่างลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์
ถ้าไม่ถูกวิพากษ์ ทั้งโดย สว. และสื่อมวลชนบางสำนัก (อาทิ ท็อปนิวส์ เมเนเจอร์ ฯลฯ) ดีไม่ดี ป่านนี้ นายบุญทรงอาจจะได้ออกจากคุกมาแล้วก็เป็นได้
กรณี “ตะวัน-แบม” นายสมศักดิ์ก็ออกมาให้สัมภาษณ์แสดงละครฉากใหญ่ น้ำตาไหลสะอื้น สงสารเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่เวลาที่พวกม็อบสามนิ้วด่าสถาบัน ป้ายสีในหลวง จงใจฝ่าฝืนกฎหมายต่างๆ นานาซ้ำซาก นายสมศักดิ์กลับไม่เคยออกมาปกป้องสถาบัน หรือห้ามปราบสอนสั่งคนพวกนี้เลย ทั้งๆที่ ตนเองเป็นรมว.ยุติธรรม
น่าแปลกใจ ในยุครัฐมนตรียุติธรรมสมศักดิ์ ปรากฏว่า คดีบรรดา เครือข่ายธรรมกาย ค่อยๆ หายเงียบไปเกือบหมด
คดีเจ้าสัวธรรมกาย อัยการสั่งไม่ฟ้อง ดีเอสไอก็เงียบ
คดีมูลนิธิธรรมกาย ก็เงียบ
หลายคนทราบว่า นายสมศักดิ์นั้น เป็นศิษย์ธรรมกาย เคยบริจาคที่ดิน 300 ไร่ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในนามมูลนิธิพุทธอุทยานนานาชาติ เพื่อนำไปสร้างปทุมรัตน์ธรรมเจดีย์
โดยเป็นคนทำพิธีตอกเสาเข็มต้นแรก สถาปนา “ปทุมรัตน์ธรรมเจดีย์”
นายสมศักดิ์เคยเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง สังกัดพรรคหลายพรรค
เป็นรมว.สาธารณสุข ยุคพล.อ.ชวลิต
เป็นรองนายกฯ รมว.แรงงาน รมว.การท่องเที่ยวฯ รมว.เกษตรฯ รมว.อุตสาหกรรมรมต.ประจำสำนักนายกฯ ยุคทักษิณ
เป็นรมว.ยุติธรรม ยุคบิ๊กตู่
ย้ายพรรคไปเรื่อย เปลี่ยนหัวหน้าไปทุกขั้ว
เคยหักกับเสี่ยประชัย สมัยพรรคมัชฌิมาธิปไตย ก่อนกลับมาเป็นสส.พรรคเพื่อไทย
ปลายปี 2561 ถูกสมคิดดึงมาร่วมกันก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ
หลังเลือกตั้งปี 2562 สามมิตรใหญ่โต ก่อหวอดในพรรค ล้ม 4 กุมารหักหลังสมคิด เพราะต้องการเอาใจลุงป้อมให้เป็นหัวหน้าพรรค
ล่าสุด ปี 2566 เทลุงป้อม หนีพรรคพลังประชารัฐ ย้ายขั้วกลับไปพรรคเพื่อไทยเสียแล้ว
3. กรณีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ย้ายมาอยู่ พปชร. และย้ายกลับเพื่อไทย
ช่วงที่อยู่เป็นรัฐบาลในขั๊วลุงตู่ มีผลงานอะไร ไม่ปรากฏชัด
แต่ที่แน่ๆ รอดอย่างขัดสายตาคนดู ไม่ถูก ป.ป.ช.แจ้งข้อหา กรณีคดีอนุมัติจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัสของการบินไทย
กรณีการบินไทยจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส A340-500 และ A340-600 จำนวน 10 ลำ ในช่วงปี 2546-2547 ยังผลให้เกิดความเสียหายร้ายแรง
ป.ป.ช. ได้ดำเนินการไต่สวน และแจ้งข้อกล่าวหาแก่นักการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในการบินไทย
มีการไต่สวนนายทักษิณกับพวก รวม 5 ราย ประกอบด้วย นายทักษิณ อดีตนายกฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรมว.คมนาคม นายพิเชษฐ สถิรชวาล อดีต รมช.คมนาคม นายทนง พิทยะ อดีตประธานกรรมการบริษัทการบินไทย และนายกนก อภิรดี อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย
แต่ ป.ป.ช. มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาแค่ 4 ราย ได้แก่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายพิเชษฐ สถิรชวาล อดีต รมช.คมนาคม นายทนง พิทยะอดีตประธานกรรมการ บมจ.การบินไทย และนายกนก อภิรดี อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย ในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ บมจ.การบินไทย ได้รับความเสียหาย
ส่วนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม ซึ่งเป็นหนึ่งผู้ถูกไต่สวนนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป
ทั้งๆ ที่ โดยปกติแล้ว การนำเสนอเรื่องต่อที่ประชุม ครม.นั้น รัฐมนตรีว่าการฯจะเป็นผู้นำเสนอ ตลอดจนแถลงข้อมูล ชี้แจงรายละเอียด เพื่อให้ที่ประชุมครม.ได้พิจารณาแนวทางข้อเสนอในเรื่องนั้นๆ
น่าคิดว่า การขอให้ ครม.อนุมัติให้รัฐวิสาหกิจ(ขณะนั้น)การบินไทยจัดซื้อเครื่องบิน ซึ่งแต่ละลำมีราคากว่า 5 พันล้านบาท และจะมีผลได้เสียต่อผลประกอบการของรัฐวิสาหกิจโดยตรง ย่อมเป็นเรื่องสำคัญ คนระดับรัฐมนตรีว่าการจะต้องกำกับดูแลรับผิดชอบ หรือไม่ ?
นายพิเชษฐ สถิรชวาล หนึ่งในผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ในฐานะ รมช.คมนาคมขณะนั้น กล่าวถึงกรณีที่นายสุริยะ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า
“...เฮ้ย! จริงหรือเปล่าเป็นไปได้อย่างไร จริงๆ ตามหลักการความต้องการที่เสนอมาทั้งหมดอยู่ที่คณะกรรมการของการบินไทย อยู่ๆ คุณจะซื้อเครื่องบินคุณต้องมีความต้องการ ....เมื่อบอร์ด (การบินไทย) เสนอมาที่กระทรวงคมนาคม คนที่จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) คือตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น คือ นายสุริยะ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ไม่มีอำนาจเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาเองได้ เว้นแต่จะได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการฯ เท่านั้น อีกทั้งประเด็นการจัดซื้อเครื่องบินนี้ก็ทราบมาว่าทาง ป.ป.ช.ก็ได้ชี้มูลความผิดนายทนง พิทยะ ในฐานะประธานบอร์ดไปแล้วด้วย ซึ่งเอาจริงๆ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมเลย…” - นายพิเชษฐกล่าว
เมื่อตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) พบว่า ในช่วงปี 2546-47 ครม.มีมติเห็นชอบโครงการจัดหาเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำนวน 2 ลอตใหญ่จัดซื้อในรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคมในขณะนั้น เป็นผู้ลงนามเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม.
ลอตแรก เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2546 ครม.เห็นชอบโครงการจัดหาเครื่องบินตามแผนวิสาหกิจปี 2545/46-2549/50 ตามที่บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) หรือ บกท. และนายสุริยะเสนอ โดยให้บริษัทได้ยกเลิกการจัดหาเครื่องบินพิสัยกลาง 1 ลำ ตามโครงการจัดหาเครื่องบินตามแผนวิสาหกิจปี 2543/44-2547/48 และให้บริษัทจัดหาเครื่องบินเพิ่มเติมจำนวน 15 ลำ รวมถึงแบบ A340-500 จำนวน 3 ลำ และเครื่องบินแบบ A340-600 จำนวน 5 ลำ บกท. ทยอยรับมอบเครื่องบินแรกในเดือนมิ.ย.2548 และส่งมอบเครื่องสุดท้ายในเดือน ต.ค.2548 คิดเป็นเงินลงทุนทั้งสิ้น 41,609 ล้านบาท โดยมีราคาเครื่องละ 4,898-5,098 ล้านบาท
ลอตที่สอง เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2547 ครม.มีมติอนุมัติในหลักการให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินโครงการจัดหาเครื่องบินตามแผนวิสาหกิจปี 2548/49-2552/53 จำนวน 14 ลำ วงเงินลงทุน 96,355 ล้านบาทในจำนวนนี้เป็นเครื่องบินแอร์บัส A340-500 จำนวน 1 ลำ และแบบ A340-600จำนวน 1 ลำ วงเงินลงทุนทั้งสิ้น 96,355 ล้านบาท ระบุด้วยว่า การรับมอบเครื่องบินพิสัยไกพิเศษแบบ A340-500 จำนวน 1 ลำ เงินลงทุน 5,748ล้านบาท จะมีขึ้นในเดือนต.ค.2550 และการรับมอบเครื่องบินพิสัยไกลขนาดกลาง แบบ A340-600 จำนวน 1 ลำ เงินลงทุน 6,179 ล้านบาท จะมีขึ้นในเดือนต.ค.2551
แต่นายสุริยะก็ยังรอดมาได้
4. กรณีทั้งนายสมศักดิ์ และนายสุริยะ จึงไม่ชัดเจนว่า การย้ายจากนายเก่าทักษิณ มาอยู่รัฐบาลปัจจุบัน ได้ทำร้ายอะไรนายเก่า(ทักษิณ)บ้าง
คงเห็นมีแต่ได้ทำประโยชน์ให้นายเก่าทักษิณ
แต่หลังจากนี้ เมื่อย้ายจาก 2 ป. กลับไปที่นายเก่าๆ อย่างทักษิณ จะทำร้ายนายเก่า 2 ป.นี้ หรือไม่?
อมความลับอะไรอยู่บ้างหรือไม่?
หรือจะเป็นฝ่ายถูกจัดการเสียก่อน?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี