แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี วันที่ 11 ธันวาคม 2512)...
nn คนไทยได้ผ่านพ้นจากสภาวะบ้านเมืองสกปรก รกรุงรัง เพราะว่ามีป้ายหาเสียงเลือกตั้งติดระเกะระกะรกเลอะเทอะไปทั่วบ้านทั่วเมือง หลังจากวันลงคะแนนเลือกตั้ง สส. ผ่านพ้นไป ในยามนี้หลายคนคงทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการแล้ว แต่ก็ต้องรอผลอย่างเป็นทางการต่อไป ส่วนเรื่องที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ก็คือ การฟ้องร้องกันอย่างดุเดือดระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องกล่าวหากันและกันว่าทุจริตการเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่คนไทยต่างก็มองออกว่า พรรคต่างๆ ก็ไม่น่าจะสุจริตมากนัก ประเด็นต่อมาคือ การตามดูว่าพรรคไหนบ้างจะจับมือจัดตั้งรัฐบาล แล้วจะต่อรองผลประโยชน์การเมืองอย่างไร เรื่องแบบนี้นับเป็นเรื่องที่นับว่าชั่วช้าสามานย์ของเหล่านักการเมือง เพราะเข้ามาสู่วงการเมืองด้วยการตั้งเป้ากอบโกยโกงกิน แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว แต่กล่าวคำเท็จว่า ต้องการเข้ามาช่วยเหลือประเทศชาติ ช่วยเหลือประชาชน...
nn สิ่งหนึ่งที่ธรรมกรเห็นได้ชัดจากการไปสังเกตการณ์หน้าหน่วยเลือกตั้งหลายหน่วยในกรุงเทพฯ พบว่ามีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากมาย ซึ่งนับว่ามากพอๆ กับวันเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อ 7 พฤษภาคม แต่เท่าที่ดูนั้น ปัญหาในวันเลือกตั้งจริง มีน้อยกว่าวันเลือกตั้งล่วงหน้า ส่วนเรื่องซื้อสิทธิ์ ขายเสียงนั้น ก็ยังคงถูกกล่าวขานถึงอย่างหนัก แต่ทว่าก็ยังไม่พบว่า กกต. (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) จะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเด็ดขาด อาจเป็นเพราะว่ามีการซื้อขายเสียงกันจริง แต่ไม่มีหลักฐานชัดๆ ก็จึงทำอะไรไม่ได้ หรือว่าอาจจะเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น เพราะจริงๆ ไม่มีการซื้อขายเสียง จึงไม่มีผู้ใดกระทำผิด ก็ต้องถามคุณๆ ว่าคุณเชื่อไหมว่าการเลือกตั้งในบ้านเมืองของเราสะอาด บริสุทธิ์ ยุติธรรม ปราศจากการซื้อขายเสียง...
nn มีคำถามมากมายว่า ทำไม กกต. ไม่ทักท้วงหรือห้ามปรามการนำเสนอข่าวการเลือกตั้งว่าพรรคนั้น พรรคนี้ พรรคโน้น จะได้คะแนนเสียงนำพรรคโน่น พรรคนี่พรรคนั่น ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในช่วงเวลาการลงคะแนน ยังไม่ปิดหีบเลือกตั้ง โดยมีการนำข่าวจากมติชนออนไลน์ วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.56 น. (https://www.matichon.co.th/foreign/news_3978483) ที่พาดหัวว่า สื่อนอกจับตาเลือกตั้งไทย ชี้ฝ่ายค้านมีสิทธิ์ครองเสียงข้างมาก มีคำถามด้วยว่า การนำเสนอข่าวนี้มีเจตนาแอบแฝงหรือไม่ ตามปกติแล้ว ก่อนจะปิดหีบเลือกตั้งไม่สามารถรายงานได้ว่าพรรคไหนจะนำพรรคไหน หรือใครไปเลือกใคร แล้วเหตุใดมติชนออนไลน์ทำได้ คำถามย้ำๆ คือ กกต. จะว่าอย่างไร อนุญาตให้ทำได้ ใช่หรือไม่...
nn มีอีกเรื่องหนึ่งที่ กกต. ต้องตอบให้ชัดว่า จะเอาอย่างไรกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งบางหน่วยที่เซลฟ่ีภาพของเจ้าหน้าที่กับผู้สมัครรับเลือกตั้งบางพรรค เรื่องนี้ทำกันอย่างเอิกเกริก ราวกับว่าไม่มีกฎระเบียบใดๆ ถามต่อไปว่า กกต. จะลงโทษสถานใดกับผู้กระทำผิดเรื่องนี้ หรือ กกต. อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งสามารถเซลฟี่กับดารานักการเมือง คนดังคนไหนๆ ก็ได้ เมื่อเขาไปอยู่ในคูหาเลือกตั้ง เรื่องเหล่านี้แม้จะดูสิวๆ เล็กๆ น้อยๆ แต่มันคือการบ่งบอกให้สังคมรู้ว่า กกต. ชุดปัจจุบันมีสติปัญญา และมีความสามารถในการบริหารจัดการการเลือกตั้งในระดับใด ส่วนเรื่องคำครหาเรื่อง คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เป็นคนกันเองของกกต. นั้น เรื่องนี้ยังต้องสืบต้องค้นต่อไปว่าจริงหรือเท็จมากน้อยแค่ไหน เพราะเรื่องนี้ดูไม่ชัดเจนเท่ากับ เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งวางตัวไม่เป็นกลางในระหว่างปฏิบัติหน้าที่...
nn มีคำถามมากมายว่า ทำไมห้ามถ่ายรูปในคูหาเลือกตั้ง แล้วทำไมสื่อมวลชนสามารถถ่ายภาพคนดังที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ คำตอบคือ กฎหมายอนุญาตให้สื่อฯ นำเสนอภาพคนดังไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ เพราะเท่ากับเชิญชวนให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์ออกไปใช้สิทธิ์ให้มากที่สุด โดยมีคนดังเป็นต้นแบบ แต่ก็มีข้อแม้เช่นกันว่า หากคนดังรายนั้นๆ ไม่อนุญาตให้ประชาชนถ่ายภาพ สื่อฯ ก็ไม่สามารถละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของเขาผู้นั้นได้ ดังนั้น การนำเสนอภาพของสื่อฯ จึงขึ้นอยู่กับความสมัครใจของบุคคลสาธารณะเป็นสำคัญ สื่อฯ ไม่สามารถละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้...
nn ในขณะที่คุณๆ อ่านคอลัมน์นี้ ในเช้าวันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม คุณคงทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการเแล้ว แต่สำหรับคอลัมน์นี้ไม่สามารถเขียนรายละเอียดการเลือกตั้งได้มากเกินเหตุอันควร เพราะต้องส่งต้นฉบับก่อนปิดหีบเลือกตั้ง ดังนั้นจึงไม่ต้องการคาดเดาเหตุการณ์ใดๆ จนเกินควร แต่ก็ขอบอกตรงๆ ว่าปลื้มใจพอประมาณที่เห็นผู้คนไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากมาย ส่วนจะถึง 85 เปอร์เซ็นต์ตามที่ กกต. คาดหวังไว้หรือไม่นั้น คงทราบผลกันแล้ว ก็ได้แต่หวังว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อๆ ไปคนไทยจะไปใช้สิทธิมากขึ้นและมากขึ้นจนเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ในวันใดวันหนึ่ง หากคนไทยเชื่อว่าเสียงของตนคือเสียงสวรรค์ แต่เสียงสวรรค์ต้องไม่ได้มาจากการซื้อสิทธิขายเสียง หรือมาจากการบีบบังคับในทางใดทางหนึ่ง...
nn จับตาดูการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ให้ดีเถอะครับ เพราะจะมีการย้ายขั้วย้ายค่ายกันอย่างโกลาหล เนื่องจากนักการเมืองไทยส่วนหนึ่งซึ่งมีจำนวนไม่น้อยต้องการเป็นฝ่ายรัฐบาล เพราะเป็นรัฐบาลแล้วไม่อดอยาก ปากไม่แห้ง มีทั้งอำนาจ และมีทั้งเงินทองมหาศาล นี่แหละคือวัตถุประสงค์หลักประการหนึ่งของการลากให้คนจำพวกหนึ่งกระโจนลงสู่เวทีการเมืองไทย เพราะมันทำให้ผู้ชนะได้ทั้งอำนาจรัฐและผลประโยชน์มหาศาล ส่วนคำพูดที่ว่าเข้ามาเพื่อรับใช้ประชาชนนั้น เป็นจริงไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ และเป็นจริงเฉพาะกับนักการเมืองที่เป็นน้ำดี น้ำบริสุทธิ์ น้ำสะอาดเท่านั้น...
nn มีคำถามก่อนผลการเลือกตั้งออกมาว่า ถ้าหากบิ๊กตู่ หรือลุงตู่ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี สมศักดิ์ เทพสุทิน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจจะย้ายกลับมาซบปีกบิ๊กตู่หรือไม่ คำตอบคือ หากบิ๊กตู่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกจริงๆ รับรองว่า สมศักดิ์,สุริยะ และอีกหลายคนจะแห่ไปซบบิ๊กตู่อย่างแน่นอน แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าพรรคบิ๊กตู่จะได้เก้าอี้ สส. เกิน 50ที่นั่งหรือไม่ เพราะหลายคนปรามาสไว้ก่อนเลือกตั้งว่า น่าจะได้ต่ำกว่า 50 ที่นั่ง แต่แฟนคลับลุงตู่บอกว่า ได้ที่นั่ง สส. เกิน 50 ที่นั่งแน่นอน แต่ขณะนี้ และตอนนี้ สาธารณชนก็ได้รู้แล้วว่า พรรคลุงตู่ได้ สส. กี่ที่นั่ง ย้ำได้คำเดียวว่า หากได้เกิน 50 ที่นั่ง รับรองจะมีงูเห่าเลื้อยเข้าไปหาลุงตู่เป็นสิบๆ ตัว ส่วนลิงจะไปหาลุงตู่กี่ตัว ก็ขึ้นกับว่าลุงตู่เตรียมกล้วยไว้ให้กี่เข่ง...
nn ปิดท้ายด้วยเรื่องไทยสมายล์ สายการบินที่การบินไทยไม่น่าจะปลื้ม แต่ก็อยู่มาได้ตั้งยาวนาน เพราะคนก่อตั้งไทยสมายล์ยังมีอิทธิพลเหนือการบินไทยในระดับมีนัยสำคัญ ดังนั้น คนเข็นให้เกิดไทยสมายล์ก็พยายามจะรักษาหน้าตัวเองไว้ โดยไม่สนใจว่าไทยสมายล์เจ๊งกระบ๊งมากมายสักเพียงใด ล่าสุดมีข่าวว่า ไทยสมายล์จะมีอายุอีก 7 เดือน แล้วจะปิดตัวลง แล้วอาจจะไปอยู่กับการบินไทย คนการบินไทยรู้ดีว่ากำเนิดไทยสมายล์มาจากการผลักดันของใคร แล้วคนคนนั้นก็ยังคงมีอิทธิพลเหนือการบินไทยในยุคนี้ แม้ไทยสมายล์จะเจ๊ง เจ๊ง และเจ๊งมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดบริการเมื่อปี 2556 โดยขาดทุนตั้งแต่หลักหน่วยคือ 3 ล้านบาทไปจนเกือบ 3,800ล้านบาท แต่ไทยสมายล์ก็ยังอยู่ได้ นี่คือความมหัศจรรย์ของการบินไทยผู้เป็นบริษัทแม่ของไทยสมายล์ ที่ทนเลี้ยงลูกที่เลี้ยงไม่โตมาจนถึงบัดนี้ นี่หากไม่ใช่เพราะผู้มีอิทธิพลเหนือการบินไทยเป็นผู้ให้กำเนิดไทยสมายล์ รับรองว่าไทยสมายล์ gone with the wind ไปนานแล้ว...nn
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี