“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่อ อุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏให้สังคมไทยทันเล่ห์รู้เหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติ ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสีทั้งส้มทั้งแดงอย่างเท่าเทียม”
เริ่มต้นความจริงด้วยข่าวมหามงคล “องค์การยูเนสโก” ประกาศยกย่อง และร่วมเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 100 ปี วันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวาคม 2570 โดยโครงการพระราชดำริ ทรงเกี่ยวข้องกับภารกิจขององค์การยูเนสโก 4 ด้านคือ “ด้านการศึกษา, วัฒนธรรม,วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์และสื่อสารมวลชน” ซึ่งรัฐบาลลุงตู่จักต้องถวายพระนามและส่งชื่อให้ยูเนสโกพิจารณาภายในปี 2568 ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการดำเนินการนี้แล้ว น่าจะมีการพิจารณาพระนามในปี 2567 โชคดีที่รัฐบาลใหม่ตามแซะสถาบันเบื้องสูง ยังสาละวนกับอาการไบโพลาร์ “แก้ไข/ยกเลิก มาตรา 112” อยู่ไม่อย่างนั้นคงอกแตกตายกับเรื่องราวมงคลเช่นนี้...
nn ถึงคิวเอาคืน “นักร้องฟ้องไม่เลือก – ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย”ย่องเงียบประดุจตีนแมวมอบตัวพนักงานสอบสวนสน.ทุ่งสองห้อง หลังสมาชิกพรรคเพื่อไทยร้องดำเนินคดี “แจ้งเท็จยุบพรรคเพื่อไทย” กรณีแถลงนโยบายค่าแรงขั้นต่ำเกินจริงวันละ600 บาท ซึ่งเรื่องนี้ “นักร้องฟ้องไม่เลือก” ร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ 15 ธ.ค.2565 จากนั้นกกต.พิจารณาสอบสวนแล้วปรากฏว่า ตีตกไป อันเป็นการแจ้งความเท็จ...
nn ไม่มีมูล “หมา” ไม่ขี้แน่นอน ... ประเด็นข้อสนทนาบนโต๊ะอาหารของคนตระกูล “ชินวัตร” ที่ “หญิงอ้อ–คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยาสัมภเวสี โทนี่ วู้ดซัม และอดีตสตรีหมายเลขหนึ่งบนตึกไทยคู่ฟ้า...อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร–สุขสวัสดิ์” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย, เอม-พินทองทา คุณากรวงศ์ บุตรสาวคนกลาง” ที่ปรากฏข่าวการเสนอความเห็นเรื่องการกลับมาของ “สัมภเวสีทักษิณ ชินวัตร” และประเด็นชะลอเวลาการขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของ “อุ๊งอิ๊ง–หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย”กลัว “ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยโดนกองทัพยึดอำนาจต้องหลบหนีออกนอกประเทศ” โดยอ้างแหล่งข่าว เรื่องราวบนโต๊ะอาหารถ้าไม่ต้องการให้สังคมให้คนภายนอกรับรู้ไม่มีทางหลุดออกอย่างนี้แน่นอน แต่เมื่อมีมูลหมาจึงขี้ซ้ำ...
nn ยิ่งดิ้น ยิ่งเจ็บ ยิ่งเป็น “ลิงแก้แห” มากขึ้น แต่อาการ “ทิม–พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เยี่ยงนี้ไม่รู้จะสงสารนักการเมืองไร้เดียงสาหรือสมเพชความกระสันอยากมีอำนาจดี โดยเฉพาะประเด็น“นิติสงคราม” ที่มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะกะเกณฑ์ “มวลชนด้อมส้ม”มาเป็นเครื่องไม้เครื่องมือเป็นอาวุธเด็ดในการต่อสู้ต่อรองแล้วเรียกตนเองอย่างไม่กระดากปากกระดากใจว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย”...“ไม้หน้าสาม”
อ่านเฟซบุ๊ก “ประพันธ์ คูณมี” สมาชิกวุฒิสภาและนักกฎหมายระดับอ๋องแล้วอดขำไม่ได้ อ่านกี่ครั้งซ้ำไปซ้ำมาก็เชื่อตามนั้นได้ทันที ไม่ใช่ “นิติสงคราม” แต่อย่างใด หากเป็น “นิตินิยาย” ที่ถูกประพันธ์ขึ้นโดยตัว “ทิม–พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เองหรือที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัวหรือของพรรคก้าวไกลก็ตามที “นิยาย” ที่พยายามให้ด้อมส้มเชื่อโดยสุจริตใจว่านี่คือการปัดแข้งปัดขาตัดตอนการก้าวขึ้นสู่อำนาจทางการเมือง สู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 แต่หาได้ส่องกระจกดูตัวเองสำรวจพินิจพิเคราะห์ถึงความเลินเล่อผิดพลาดประมาทไม่ “นิยาย” ที่ “วิกิพีเดีย”ระบุว่า เป็นรูปแบบหนึ่งของวรรณกรรมลายลักษณ์ แต่งในรูปของร้อยแก้วมีลักษณะแตกต่างจากเรื่องแต่งแบบเดิม ที่เรียกว่า "นิทาน" แต่ “นิตินิยาย”ที่เกิดขึ้นใหม่นี้เป็นความตอแหลโดยสิ้นเชิง จับแพะชนแกะโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงและความน่าจะเป็นรองรับโดยสักนิด กับข้อกล่าวหาที่ว่า “ปลุกผีไอทีวีคืนชีพ” สกัดการนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลตามฉันทานุมัติ 14 ล้านเสียงเศษ ปลุกผีกล่าวหาเพื่อให้สังคมเกิดความแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างเห็นได้ชัดเจน...การขู่เสมือนเป็นแกนนำม็อบมวลชนด้อมส้มลงถนนเพื่อควานหาความถูกต้องในสิ่งที่ตนเองไม่เคยกระทำ...
nn นี่ก็ “นิติสงคราม” อีกใช่หรือไม่ กรณีกกต.สั่งแล้ว!!! นับคะแนนใหม่ 47 หน่วย เป็นแบบบัญชีรายชื่อ31 หน่วย แบ่งเขตเลือกตั้ง 16 หน่วย ในวันที่ 11 มิ.ย. จากทั้งหมด 9.5 หมื่นหน่วย หลังคะแนนไม่ตรงกับผู้ใช้สิทธิ์ แต่ยังไม่บอกว่ามีจังหวัดอะไรบ้าง ทั้งนี้เมื่อได้ผลคะแนน จะคำนวณสัดส่วนสส.ใหม่ เดี๋ยวคงมีข่าวคาดหวังให้ส้มหล่นใส่“ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” กระหึ่มอีกครั้งคนรุ่นใหม่ใจแคบก็สำรอกสำรากคาดเดาไปเรื่อย ความผิดคนอื่นเท่าภูเขา ความผิดเราเท่าเส้นผมเวงกำ!!...
nn มีไวรัลเผยแพร่ทาง “ทวิตเตอร์” เป็นสาวคนหนึ่งสำรอกสำรากราวผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้สังคมเข้าใจว่า “ไอทีวี” ฟื้นกลับมาเป็นสื่อมวลชนอีกครั้งเพราะเลิกผลิตรายการไปแล้ว เป็นการจ้อแบบไม่รู้ขั้นตอนการจดจัดตั้งบริษัท การจดทะเบียนบริษัทนั้นเขาระบุวัตถุประสงค์ในการดำเนินการบริษัท ซึ่ง “ไอทีวี” ระบุชัดเจนในวัตถุประสงค์การจัดตั้งบริษัทว่า เป็น “สื่อโทรทัศน์” โดยที่ไม่มีการจดทะเบียนเลิกการเป็นสื่อโทรทัศน์แม้แต่น้อยมันจึงไม่ใช่คำว่า “ฟื้นคืนชีพ” อย่างที่นักการเมืองไร้เดียงสาพยายามตอแหล ที่สำคัญ “ไม้หน้าสาม” เคยนำเสนอไปแล้วว่า บริษัท “ไอทีวี” มีโอกาสชนะคดีปกครองในศาลปกครองกลางและอาจจะชนะคดีในศาลปกครองสูงสุดด้วย นั่นหมายความว่า “ไอทีวี” จะสามารถกลับมาผลิตรายการโทรทัศน์ออกอากาศได้อีกครั้ง โดยมีข้อความว่า “มีพิรุธเยอะขนาดนี้ถ้ายังจะตะบี้ตะบันไม่เคารพ 14 ล้านเสียงล่ะก็ อย่ามาโทษประชาชนละกันว่าทำบ้านเมืองไม่สงบ” ประชาธิปไตยแบบด้อมส้ม ไม่คิดถึงเสียงส่วนใหญ่อีกเกือบ 40 ล้านเสียงบ้างหรือ...
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” อยากบอกว่า แค่ 14 ล้านเสียงยังหลงตัวเอง หลงเขาวงกต ยังไม่ได้เข้าใกล้เก้าอี้นายกฯ แต่ก็มีเรื่องที่ ผู้นำประเทศเพื่อนบ้านถึง 2 ประเทศ ออกมาปรามแกมขู่ กันซึ่งๆ หน้า น่าจะเป็นว่าที่ผู้นำคนเดียวของโลกใบนี้ที่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ การทำงานแค่ในระดับพรรค ที่ขาดความรอบคอบจนต้องวิ่งสู้ฟัดคดีความแบบนี้ ถ้ามาบริหารงานประเทศ ในกรณีที่ได้เป็นรัฐบาล หลายคนในสังคมไทยเริ่มสงสัยว่า “สภาพของประเทศไทย ในอนาคต จะเป็นอย่างไร?”...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี