“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า/แนวหน้าออนไลน์ (www.naewna.com) สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไปตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้างทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้เท่าทันนักการเมืองเสียชาติเกิดนักเลือกตั้งชังชาติ ติ่งแดงด้อมส้ม ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสีอย่างเท่าเทียม”การเมืองในลักษณะ “ไม่มีมิตรแท้-ศัตรูถาวร” ก็ดำเนินเรื่องมาจนถึงเวลาแย่งชามข้าวกันแล้ว ซึ่งก็เป็นพฤติกรรมไร้สามัญสำนึกเดิมๆ ของนักการเมือง/นักเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ กับวาทกรรมสวยหรูของ “เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยภายหลังปฏิวัติสยามในปีพ.ศ.2475”...

nn วาทกรรมที่ออกอาการสำนึกแบบรีรัน-รีแบรนด์ คำพูดอดีตนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ที่ปัจจุบันเป็นผู้ต้องโทษคดีทุจริตคอร์รัปชั่นที่ลูกสาวเย้ยหยันสังคมไทยยกให้เป็น “เทวดา” เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 หลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า “...ผมจะไม่ยอมทำหน้าที่เป็นเพียงผู้นำตามกฎหมายเท่านั้น ผมจะขอเป็นผู้นำที่นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ประเทศไทย เพื่อประเทศไทยที่ดีขึ้น พี่น้องที่เคารพครับ ผมจะขอทำหน้าที่เป็นรัฐบาลที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยเป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเททำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต” แล้วเป็นอย่างไรกับสัจจะวาจา, วาทกรรมปั้นน้ำเป็นตัวของอดีตนักการเมืองที่ถูกยกเป็นเทวดา ผลลัพธ์คือ “หายนะกับระบอบทักษิณ” หรือไม่!?!?! ... ส่วน “เศรษฐา ทวีสิน” ประกาศหลังได้รับเสียงโหวตจากสมาชิกรัฐสภาตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่า “...ยืนยันจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ลืมความเหน็ดเหนื่อย ยกระดับความเป็นอยู่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน” จับตาว่าผลลัพธ์จะออกมาเยี่ยงไร...

nn ความที่เค้กในจานยังยื้อแย่งกันไม่จบสิ้น ทำให้เสียโอกาสต่อยอดความสำเร็จให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปต้องเลื่อนต้องรอคณะรัฐมนตรี อย่าง “การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 42” ระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคม 2566 ที่ ลาบวน บาโจ ซึ่งเป็นรีสอร์ทท่องเที่ยว ในจังหวัดนูซาเต็งการาตะวันออก ของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นชาติเจ้าภาพ โดย “...ผู้นำชาติอาเซียนจะมีการพบปะหารือกันเกี่ยวกับความท้าทายระดับโลก และแนวทางการขับเคลื่อน อาเซียน ภายใต้แนวคิดหลัก “อาเซียน” อาเซียนเป็นศูนย์กลางสรรค์สร้างความเจริญ”...

nn “เกา คิม โฮร์น เลขาธิการอาเซียน” บอกว่า “การหารือเสาหลักที่หนึ่ง และเสาหลักที่สองจะมุ่งเน้นไปที่ศูนย์กลางของกลุ่มชาติสมาชิก เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเงิน และเสาหลักที่สามเกี่ยวข้องกับความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นมุมมองของอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก รวมถึงข้อหารือเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังการระบาดโควิด 2019,วิสัยทัศน์ปี 2045 ของอาเซียน และวิกฤตการณ์ในเมียนมา...” เหล่านี้คือการเสียโอกาสของประเทศไทยหรือไม่ หากไม่แก่งแย่งหาผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง แต่ถือประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นหลัก “เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี” ในฐานะผู้นำประเทศไทย พี่ใหญ่ชาติอาเซียนคงได้โชว์ความสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยได้ไม่มากก็น้อยไม่ใช่ขาดโอกาสเพราะความไม่ลงตัวของชิ้นเค้กคณะรัฐมนตรี...

nn บอกกี่ครั้งก็ไม่ฟัง เตือนกี่หนก็ไม่สำเหนียก “พฤติกรรมพิธาคิโอ้-ทิม,พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”หัวหน้าพรรคก้าวไกล อดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ตัวตึงสุดโต่งจนไม่ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกรัฐสภา แถมโดนคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ท่านผู้ทรงเกียรติเนื่องจากมีพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 98 อนุมาตรา 3 ในกรณีถือหุ้นสื่อ (บริษัทไอทีวี) ออกมาสำรอกสำรากบอกปฏิเสธ “ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร” แต่... รู้สึกเป็นห่วง “วิกฤตศรัทธาประชาชนต่อรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน” แต่เชื่อว่าถ้าตั้งใจทำงานจะฟื้นวิกฤตศรัทธาประชาชนได้ ... เศร้าใจ อย่างนี้ใช่ไหม “ตือโป้ยก่ายตัวตึง “วิโรจน์ ลักขณาอิดศร สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่หยิบเอาคำสอนพ่อ ต้อง “หน้าด้านกว่า” มาบรรจุชุดความคิดผู้ร่วมอุดมการณ์ในพรรค” ทำให้สามัญสำนึกของผู้บริหารพรรคเป็นดังที่เห็นที่ยิน...

nn เป็นบ้านใหญ่ โคราชนครราชสีมา รุ่นใหม่โดยแท้ สกุล “หวังศุภกิจโกศล”ตระกูลเจ้าของกิจการ “แป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม”ที่อยู่ในอ.เสิงสาง นครราชสีมา ซึ่งครองใจลูกหลานย่าโมทั้งการเมืองระดับท้องถิ่น และการเมืองระดับชาติ รัฐบาลที่แล้วส่ง “กำนันป้อ-วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” ผู้พ่อมาชิมลางเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก่อนจะเกิดอาการแลกกระทรวงมานั่งแบ่งเบางาน เสี่ยโอ๋ ณ หูกวาง ในเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อครั้งอยู่ค่าย“หมอหนู ภูมิใจไทย-พูดแล้วทำ” ยกครอบครัวมาสังกัด “พรรคเพื่อไทย” ในครั้งนี้สะเด็ดน้ำเลยถูกยกเป็นเต็งจ๋าเก้าอี้ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” ลูกหลานย่าโมคนเสิงสางเตรียมชื่นชมฝีไม้ลายมือนางไว้ให้ดี ปี 2566 ภายใต้การกำกับดูแลของ “พิพัฒน์ รัฐกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทพีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)” หรือที่คุ้นชื่อคุ้นหูว่า “น้ำมันพีที” คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยราว 29.5 ล้านคน สร้างรายได้ราว 1.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 164.6 แล้วในปี 2567 ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ในกำกับดูแลของ “สุดาวรรณหวังศุภกิจโกศล” จะได้ตัวเลขรายได้ 2.0 ล้านล้านบาท หรือไม่ ซ.ต.พ.หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ “ไม้หน้าสาม” เอาใจช่วยพร้อมยินดีช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานการท่องเที่ยวของไทย เพื่อเป็นกิ่งก้านที่สร้างประโยชน์สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยด้วยความยินดี...nn

ไม้หน้าสาม