“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า, แนวหน้าออนไลน์สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยม นักการเมืองเสียชาติเกิด, นักเลือกตั้งชังชาติ, ติ่งแดงด้อมส้มอย่างเท่าเทียม”...

nn เริ่มต้นด้วยพิธีกรรมตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 การแถลงนโยบายของ “เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในรัฐบาลนิด1 ที่ประหนึ่งว่า “ฝ่ายค้านนวัตกรรมตนเองใหม่”เป็น“ฝ่ายแค้น” ที่ออกอาการชิงชังผลสำเร็จจากการบริหารราชการแผ่นดินของรปภ.คนกล้า “ลุงตู่–พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา...ผนงรจตกม-ผู้นำโง่เราจะตายกันหมด” ที่นับวันจะผลิดอกออกผลเจริญงามตาให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินได้อานิสงส์เก็บเกี่ยวผลผลิตนี้ไปเต็มๆ ทั้งถนนหนทางที่แผ่กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคไม่ได้เกี่ยงงอนเลือกเขาเลือกเราแบ่งพรรคแบ่งพวกอย่างนักโทษเทวดาเคยประพฤติปฏิบัติ...

nn “ไม้หน้าสาม” ขอเชิญสมาชิก“พรรคก้าวไกล” ช่วยกันจูง “ด้อมส้ม-อุปกรณ์การเกษตร”รวมทั้งศิลปินเดี่ยวไมโครโฟน “โน้ส–อุดม แต้พานิช” ที่สารพัดจะล้อเลียนถากถางดูแคลนผู้นำประเทศอย่างต่อเนื่อง มาอ่านศึกษาทำความเข้าใจตรงนี้ จะได้ออกจากกะลาสู่โลกกว้างตามปัจจุบันให้ทันเสียที ทราบไหมว่า...“ที่ประชุม Boao Forum for Asia (BFA) เผยแพร่รายงานระบุว่า การบูรณาการของตลาดการเงินในเอเชียกำลังมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และสกุล เงินบาทไทยอยู่ในกลุ่มสกุลเงิน 10 อันดับแรกที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการชำระเงินและตัดบัญชีทั่วโลก… ประเทศในเอเชียได้ส่งเสริมความร่วมมือด้านสกุลเงิน และการเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่มูลค่าการทำสวอปสกุลเงินระดับทวิภาคีพุ่งขึ้นสู่ระดับมากกว่า 2.40 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ “เงินบาท” พลิกกลับแข็งค่ารอบ 7 สัปดาห์” ยังต้องอธิบายอะไรอีกไหม...

nn เมื่อเที่ยงคืนครึ่งวันที่ 13 กันยายน 2566 “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภาก่อนปิดการประชุมรัฐสภาวาระแถลงนโยบายรัฐบาลตามบทบัญญัติมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยโดยช่วงหนึ่งเน้นย้ำว่าจะปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลเพื่อให้เกิดผลสมฤทธิ์เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติบ้านเมืองโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และขอให้สมาชิกรัฐสภาช่วยกันทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ “ไม้หน้าสาม” ขอเสนอให้“คณะรัฐมนตรีเศรษฐานิด1” ภายใต้การนำของ “เศรษฐา ทวีสิน”นายกรัฐมนตรี ยังจำ “งบช้างป่วย” ที่ “พิธาคิโอ–พิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล” นายกทิพย์อภิปรายในการพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ว่าเป็นเงินที่ไปโป่งตรงเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญของข้าราชการ มีมูลค่าสูงถึง 300,000 ล้านบาท เทียบเท่างบประมาณกระทรวงศึกษาธิการทำให้ภาระงบประมาณมีเหลือในการพัฒนาหรือใช้แก้ไขปัญหาของประเทศในอนาคตมีจำกัด...

nn ทว่า “พิธาคิโอ-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” และพลพรรคก้าวไกลกลับมิสนใจที่จะอภิปรายตัดหรือปรับลดงบประมาณจำนวนมหาศาลที่เกิดจากการจ่ายเงินบำนาญสมาชิกรัฐสภาภายใต้ “พระราชบัญญัติ กองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา พ.ศ. 2556” ที่อ้างตรรกะว่า ตอบแทนคุณงามความดี, มีเงินเลี้ยงชีพสำหรับสมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวประกาศลงในราชกิจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2556ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น กฎหมายนี้กำหนดหมวดต่างๆ ไว้ 6 หมวดรวม 28 มาตรา หากปรับลดยกเลิกพระราชบัญญัติฉบับนี้ภาระงบประมาณ จะมีเหลือในการพัฒนาหรือใช้แก้ไขปัญหาของประเทศได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งค่าอาหารรับรองระหว่างการประชุมสภา, ประชุมวุฒิสภาและประชุมรัฐสภา ที่สื่อมวลชนอาวุโสเรียกเงินจำนวนนี้ว่า“งบประมาณเผื่อหมา” มียอดสูงถึงวันละ 500,000 บาทเลยทีเดียว ยังมีค่าเดินทางทั้งเครื่องบิน, รถไฟ ที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯยังต้องตั้งงบไว้เพื่อการนี้ หาก“ปากท้องประชาชนต้องมาก่อน” ควรหรือที่นักการเมืองชุดนี้จะคงกฎหมายที่ว่าด้วยผลประโยชน์ส่วนตัวของนักการเมือง โดยไม่มีการเสนอยกเลิกแก้ไขให้เป็นภาระงบประมาณน้อยลง เพิ่มโอกาสการจ่ายเบี้ยยังชีพคนชราให้มากกว่า 800 บาท ปรับคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้นน่าจะดีกว่า นี่แหละความไร้จริยธรรม และขาดมโนสำนึกของนักการเมืองเสียชาติเกิด และนักเลือกตั้งชังชาติในการเมืองไทย...

nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ด้วยงานสีดำ “ไม้หน้าสาม” ขอแสดงความเสียใจมายัง "เพื่อนโด้-วชิรธรก้องกุลกิติกร นักเรียนเก่าอำนวยศิลป์ (คณะเรา)รุ่น ลูกป๋า 52" และครอบครัวที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก "คุณแม่เถี้ยม บุญรัตน์" ไปอยู่ภพภูมิที่ดีกว่า โดยตั้งบำเพ็ญกุศล ณ ศาลา 5 วัดคลองเรียนอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สวดพระอภิธรรม 15-18 กันยายน 2566 เวลา 19.00 น. กำหนดฌาปนกิจ วันที่ 19 กันยายน เวลา 12.30 น....nn

ไม้หน้าสาม