วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เขียนให้คิด
เขียนให้คิด

เขียนให้คิด

เฉลิมชัย ยอดมาลัย
วันอาทิตย์ ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2566, 02.00 น.
สร้างภาระหนี้สินให้ประเทศด้วยนโยบายไร้ปัญญา

ดูทั้งหมด

  •  

มีคำถามว่า คนไทยทุกคน ตามคำจำกัดความของพรรคเพื่อไทย จำเป็นต้องได้เงิน 1 หมื่นบาท ผ่าน digital wallet หรือ 

คนไทยทุกคนยินดีได้รับเงินที่จะสร้างภาระหนี้สินมหาศาลให้กับประเทศ และให้กับลูกหลานของเราในอนาคตหรือ เราทุกคนต้องการสร้างภาระหนึ้สินให้ประเทศ และให้ลูกหลานของเรา จริงๆ หรือ


เราจะปล่อยให้รัฐบาลใช้ประชาชนเป็นตัวประกันในการสร้างภาระหนี้สินให้ประเทศโดยผ่านนโยบายประชานิยม กระนั้นหรือ 

เราไม่คัดค้านการที่รัฐบาลต้องให้ความช่วยเหลือประชาชนกลุ่มที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือโดยด่วน เพื่อให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ แต่เราคัดค้านการหว่านแจกเงินให้กับคนทั่วไป โดยไม่ได้ดูความจำเป็น และความเหมาะสมตามระดับเศรษฐสถานะของบุคคล

หากรัฐบาลบอกให้บริษัทเอกชนแจกบ้าน หรือคอนโดมิเนียมของโครงการแสนสิริ หรือ SC Asset โดยใช้เงินจากบริษัทเอกชนทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ในการนี้ รับรองว่าจะไม่มีประชาชนรายใดคัดค้าน เพราะมันเป็นการใช้เงินของเอกชน แต่ก็ต้องบอกว่าไม่มีวันเกิดเรื่องดังกล่าวได้จริง เพราะเอกชนไทยไม่เคยยอมเสียอะไรไปฟรีๆ หากไม่ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า หรือเกินคุ้ม 

ถามอีกครั้งว่า เวลารัฐบาลจะสร้างหนี้สินให้กับประเทศชาติ รัฐบาลเคยคิดบ้างไหมว่า สร้างหนี้แล้ว มีปัญญาชดใช้หนี้ที่สร้างขึ้นหรือไม่ หรือคิดอย่างเดียวว่า มีหน้าที่
สร้างภาระหนี้สินให้ประเทศชาติ แต่ไม่นำพาเรื่องว่ามีปัญญาใช้หนี้สินหรือไม่

รัฐบาลสำเหนียกบ้างไหมว่า การวางนโยบายสาธารณะที่ผิดพลาด ทำให้ประเทศชาติตกอยู่ในภาวะวิกฤต ทำให้ประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัส เพราะเกิดปัญหาวิกฤตการคลัง

คำถามต่อมาคือรัฐบาลจะเอาปัญญาจากไหนไปหาเงิน 5.6 แสนล้านบาทมาเพื่อหว่านลงไปในนโยบายแจกเงิน 1 หมื่นบาท รับรองว่ารัฐบาลไม่มีปัญญาหาเงินได้โดยไม่สร้างภาระหนี้สินให้ประเทศ 

แล้วเรื่องที่รัฐบาลฝันว่าเงินก้อนดังกล่าวข้างต้นจะช่วยหมุนระบบเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างน่าอัศจรรย์ใจ คือจะเกิดตัวคูณทางเศรษฐกิจ 6 เท่า ทำให้มีเงินในระบบ 3 ล้านล้านบาท ช่วยทำให้ GDP เติบโตในระดับ 5 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงปี 2567-2570 มีคำถามว่า เรื่องนี้จะเป็นจริงได้หรือ เพราะดูแล้วเป็นความฝันมากกว่าความจริง

ปัญหาที่จะตามมาแน่ๆ คือ การไร้วินัยการคลัง แล้วจะสร้างปัญหาการคลังอย่างหนัก เพราะนโยบายเพ้อฝันดังกล่าวข้างต้น 

ตามหลักการ fiscal multiplier ไม่เคยมีการยืนยันว่าการที่รัฐบาลจ่ายเงินให้ประชาชนไปแล้ว จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นจริงในทุกกรณีโดยเฉพาะกรณีที่เล็งผลเลิศเกินจริงซึ่งไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อน 

สำหรับคนที่เข้าใจหลักเศรษฐศาสตร์ตามแบบของสำนัก Keynesian (่John Maynard Keynes) ย่อมน่าจะต้องเข้าใจเรื่อง Marginal Propensity to Consume (MPC) หรือสัดส่วนของเงินโดยเฉลี่ยที่คนจะนำเงินที่ได้รับไปใช้เพิ่มขึ้นเพื่อการบริโภค โดยเชื่อว่าจะใช้การคำนวณ fiscal multiplier แบบวนกันไปกันมาหลาย ๆ รอบ ยกตัวอย่างเช่น ได้เงินเพิ่มมา 10 บาท เขาคนนั้นอาจจะใช้จ่ายเงินเพิ่มอีก 5 บาทเท่านั้น ไม่ได้ใช้หมดทั้ง 10 บาท ในกรณีนี้ก็จะทำให้ fiscal multiplier เท่ากับ 2 เพียงเท่านั้น แล้วต้องไม่ลืมว่าคนทุกคนที่ได้เงินเพิ่ม เขาไม่ได้ใช้เงินที่ได้มาทั้งหมด แต่เขาอาจจะเก็บไว้ส่วนหนึ่ง หรือบางคนอาจจะใช้เงินที่ได้เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะต้องการเก็บเงินไว้ เนื่องจากไม่มั่นใจในระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และไม่มีใครยืนยันได้ว่า การแจกเงินแล้วจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น หรือทำให้รายได้ของประเทศเพิ่มมากขึ้นตามการใช้จ่ายในแต่ละรอบ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องสำเหนียกไว้ด้วย และไม่ควรหวังผลเลิศว่าจะประสบความสำเร็จในทุกกรณี โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกไม่สดใส

ประชาชนที่มีความฉลาดย่อมรู้ดีว่า เงินที่รัฐบาลนำมาหว่านแจกให้นั้น ไม่ใช่ของฟรี แต่มันคือสิ่งที่จะเป็นภาระต่อประชาชนในวันข้างหน้า ดังนั้นผู้ที่ฉลาดจึงไม่ประสงค์จะทำร้ายตัวเอง และทำร้ายประเทศชาติด้วยการรับเงินที่รัฐบาลหว่านให้ เพราะรัฐบาลหวังคะแนนนิยมทางการเมือง มากกว่าคำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดกับประเทศชาติตามมาในวันข้างหน้า 

เรื่องง่ายที่สุดที่เข้าใจได้คือ ของฟรีไม่มีบนโลกใบนี้ รัฐบาลก็ไม่มีปัญญาแจกของฟรีให้ประชาชน เพราะมันคือรายจ่ายของแผ่นดิน เมื่อแผ่นดินมีรายจ่าย ก็หมายความว่าประชาชนต้องรับภาระรายจ่ายของแผ่นดิน นั่นคือต้องเสียภาษีมากขึ้นในอนาคต เพราะฉะนั้น ต่อให้ได้รับเงินไป ก็ไม่นำเงินออกไปใช้ แต่จะเก็บเงินไว้ เพราะรู้ว่าต้องเสียภาษีเพิ่มในอนาคต หากเป็นเช่นนี้ ก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ เพราะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง แต่ประเทศก็เกิดภาระหนี้สินไปเรียบร้อยแล้ว 

แล้วประเด็นสำคัญอีกเรื่องที่ต้องคิดให้หนักคือ การจ่ายเงิน 1 หมื่นบาทให้ประชาชน อาจจะส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นไปโดยปริยาย เพราะเป็นไปตามหลัก Ricardian Equivalance โดยระบบเศรษฐกิจถูกจำกัดด้วย supply มากกว่า demand ซึ่งตามหลักการนี้ไม่ได้ช่วยเพิ่ม GDP แต่อย่างใด เพราะราคาสินค้าจะแพงมากกว่าเดิม ทำให้การซื้อสินค้าก็ไม่ได้เพิ่มมากขึ้น แล้วการก่อหนี้ของรัฐบาลด้วยรูปแบบนี้ทำให้ต้นทุนด้านดอกเบี้ยในการกู้ยืมเงินเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และทำให้เกิดปัญหาการกู้ยืมโดยภาคเอกชน เพราะเมื่อรัฐบาลกู้เงินมากขึ้น ดอกเบี้ยก็จะสูงขึ้น ดังนั้นเมื่อเอกชนจะต้องกู้เงินบ้าง ก็ต้องมีภาระดอกเบี้ยแพงมากขึ้นตามมาโดยปริยาย

มีคำถามว่า ทำไมรัฐบาลไม่นำเงิน 5.6 แสนล้านบาทไปทำโครงการที่ช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้มากกว่าการหว่านแจกเงินแบบเบี้ยหัวแตก (แต่ก็เข้าใจว่ารัฐบาลได้โฆษณาชวนเชื่อไปแล้วว่าจะแจกเงินหัวละ 1 หมื่นบาท) 

อันที่จริง รัฐบาลน่าจะมีปัญญาคิดได้ดีกว่าแจกเงินหัวละ 1 หมื่นบาท โดยเอาเงินจำนวนทั้งหมดที่จะถลุงไปโดยเปล่าประโยชน์ ไปใช้สร้างโครงการสาธารณูปโภคที่เป็นประโยชน์กับสาธารณชนมากกว่า และยั่งยืนกว่าการหว่านแจกเงินหัวละ 1 หมื่นบาท

หากรัฐบาลคิดอะไรไม่ออกจริง ก็ควรจะนำเงินก้อนนี้ไปสร้างโรงพยาบาลสำหรับรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับประชาชน หรือสร้างบ้านพักสำหรับรองรับคนชราที่จำเป็นต้องหาที่อยู่ ในยามที่ตัวเองเข้าสู่วัยชรา ที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลเรื่องสุขภาพ และความเป็นอยู่แบบพิเศษมากกว่าการดำรงชีวิตในช่วงก่อนวัยชรา

รัฐบาลน่าจะมีข้อมูลอยู่แล้วว่าการหว่านเงินแบบเบี้ยหัวแตกไม่ได้ก่อให้เกิด fiscal multiplier ดีมากไปกว่าการลงทุนโดยรัฐในการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นสำหรับคนหมู่มาก

หากรัฐบาลกลัวจะเสียคำพูด ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องกลัว เพราะเสียคำพูดไปหลายเรื่องแล้ว รัฐบาลต้องทบทวนเรื่องการหว่านแจกเงินโดยทันที แล้วนำเงินก้อนนี้ไปสร้างความเจริญให้ประเทศอย่างเป็นรูปธรรมมากกว่าการหว่านแจกเงิน เพราะในเมื่อรัฐบาลต้องสร้างหนี้สินให้ประเทศแล้ว รัฐบาลก็ต้องคิดให้รอบคอบว่าประชาชนจะได้ประโยชน์อะไรที่เป็นรูปธรรมจากการก่อหนี้โดยรัฐบาล ขอย้ำว่าประชาชนจำนวนไม่น้อยไม่ต้องการร่วมก่อหนี้สินให้กับประเทศ และประชาชนที่มีปัญญาไม่ได้คัดค้านการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างแท้จริง แต่การหว่านแจกเงินแบบไร้ตรรกะ คือการทำลายประเทศ ทำร้ายประชาชน 

เรามาร่วมกลุ่ม “ไม่ทำร้ายประเทศชาติด้วยการสร้างหนี้”ดีไหม เราประกาศให้ชัดไปเลยว่า ไม่ต้องการเงิน 1 หมื่นบาทต่อหัว ขอให้รัฐบาลนำเงินนี้ไปสร้างระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นให้ประเทศชาติดีกว่าอย่านำเงินงบประมาณของแผ่นดินไปละลายน้ำแล้วเททิ้ง เพราะมันคือการทำลายประเทศ สร้างภาระให้ประชาชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
18:28 น. ว่าที่คุณแม่ป้ายแดง 'ตู่ ปิยวดี-มาวิน'อวดภาพอบอุ่น เตรียมนับถอยหลังรอเบบี๋
18:28 น. (คลิป) 'บรู๊ค' โฆษกเพื่อไทย ปัด! ไม่เคยพูด! 'ทักษิณ' ป่วยขั้นวิกฤตแค่ได้รับการผ่าตัด
18:15 น. (คลิป) 'นายกอิ๊งค์' อ้าง! ใส่ชุดขาว ตอบนักข่าวเรื่อง 'ทักษิณ' ไม่ได้
18:12 น. ทำบุญอย่างไรให้ได้อานิสงส์มาก
18:00 น. (คลิป) เมื่อกล้องวงจรปิด 'ชั้น14และบ้านจันทร์ส่องหล้า' เสียพร้อมกัน นอนบ้านไม่ได้นอนชั้น14 ด้วยหรือไม่
ดูทั้งหมด
ภาพอบอุ่นใจความรักที่งดงามของ 'กษัตริย์จิกมี-สมเด็จพระราชินี-เจ้าชาย-พระธิดา' ในยามค่ำคืนของทะเลทรายโกบี
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
‘ลาออก’ไปเถอะ! ฉะ‘นายกฯ’มีสติปัญญาแค่นี้ แผ่นเสียงตกร่องชู‘กาสิโน’แก้เศรษฐกิจ
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 4-10 พ.ค.68
ดูทั้งหมด
อวสาน‘ทักษิณ’คุกรออยู่
ความต่างของ สิงคโปร์ กับ ไทย
คุกนรก (1)
นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’
บุคคลแนวหน้า : 9 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ว่าที่คุณแม่ป้ายแดง 'ตู่ ปิยวดี-มาวิน'อวดภาพอบอุ่น เตรียมนับถอยหลังรอเบบี๋

(คลิป) 'นายกอิ๊งค์' อ้าง! ใส่ชุดขาว ตอบนักข่าวเรื่อง 'ทักษิณ' ไม่ได้

ปตท. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติส่วนเพิ่มแหล่งอาทิตย์เสริมความมั่นคงพลังงานไทย

ได้โอกาสส่งออก! ‘อินโดนีเซีย’เผยปี’68คาดผลผลิตข้าวเหลือเกินบริโภคในปท.

(คลิป) 'บรู๊ค' โฆษกเพื่อไทย ปัด! ไม่เคยพูด! 'ทักษิณ' ป่วยขั้นวิกฤตแค่ได้รับการผ่าตัด

'DSI'ลงนามด่วนถึง'ผบ.ตร.-ปลัด มท.' ร่วมมือสอบสวนเอาผิดฟอกเงินคดีฮั้วเลือก สว.

  • Breaking News
  • ว่าที่คุณแม่ป้ายแดง \'ตู่ ปิยวดี-มาวิน\'อวดภาพอบอุ่น เตรียมนับถอยหลังรอเบบี๋ ว่าที่คุณแม่ป้ายแดง 'ตู่ ปิยวดี-มาวิน'อวดภาพอบอุ่น เตรียมนับถอยหลังรอเบบี๋
  • (คลิป) \'บรู๊ค\' โฆษกเพื่อไทย ปัด! ไม่เคยพูด! \'ทักษิณ\' ป่วยขั้นวิกฤตแค่ได้รับการผ่าตัด (คลิป) 'บรู๊ค' โฆษกเพื่อไทย ปัด! ไม่เคยพูด! 'ทักษิณ' ป่วยขั้นวิกฤตแค่ได้รับการผ่าตัด
  • (คลิป) \'นายกอิ๊งค์\' อ้าง! ใส่ชุดขาว ตอบนักข่าวเรื่อง \'ทักษิณ\' ไม่ได้ (คลิป) 'นายกอิ๊งค์' อ้าง! ใส่ชุดขาว ตอบนักข่าวเรื่อง 'ทักษิณ' ไม่ได้
  • ทำบุญอย่างไรให้ได้อานิสงส์มาก ทำบุญอย่างไรให้ได้อานิสงส์มาก
  • (คลิป) เมื่อกล้องวงจรปิด \'ชั้น14และบ้านจันทร์ส่องหล้า\' เสียพร้อมกัน นอนบ้านไม่ได้นอนชั้น14 ด้วยหรือไม่ (คลิป) เมื่อกล้องวงจรปิด 'ชั้น14และบ้านจันทร์ส่องหล้า' เสียพร้อมกัน นอนบ้านไม่ได้นอนชั้น14 ด้วยหรือไม่
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ปากแจ๋ว ปากพล่อย อ้างวิชาการบังหน้า

ปากแจ๋ว ปากพล่อย อ้างวิชาการบังหน้า

4 พ.ค. 2568

ประเทศวิบัติ เพราะนักการเมืองโง่มีอำนาจรัฐ

ประเทศวิบัติ เพราะนักการเมืองโง่มีอำนาจรัฐ

27 เม.ย. 2568

อันวาร์, มิน อ่อง หล่าย, ทักษิณ และแพทองธาร

อันวาร์, มิน อ่อง หล่าย, ทักษิณ และแพทองธาร

20 เม.ย. 2568

แพทองธารไม่เห็นปัญหา reciprocal tariff

แพทองธารไม่เห็นปัญหา reciprocal tariff

13 เม.ย. 2568

แก้ปัญหา US tariff ด้วยสติปัญญาของแพทองธาร!!!

แก้ปัญหา US tariff ด้วยสติปัญญาของแพทองธาร!!!

6 เม.ย. 2568

แผ่นดินไหว ภัยพิบัติที่รัฐบาลไทยไม่เคยเตรียมตัว

แผ่นดินไหว ภัยพิบัติที่รัฐบาลไทยไม่เคยเตรียมตัว

30 มี.ค. 2568

ดูเตอร์เต-ทักษิณ ความเหมือนที่ต่างกันกับสงครามปราบยาเสพติด

ดูเตอร์เต-ทักษิณ ความเหมือนที่ต่างกันกับสงครามปราบยาเสพติด

23 มี.ค. 2568

ทักษิณ ชินวัตร กลัวถูกซักฟอกกลางสภา แต่อยากมีอำนาจการเมือง

ทักษิณ ชินวัตร กลัวถูกซักฟอกกลางสภา แต่อยากมีอำนาจการเมือง

16 มี.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved