“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า/แนวหน้าออนไลน์ สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้ทุกโมเลกุลในสังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ ทันเหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติติ่งแดงด้อมส้อม ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสีอย่างเท่าเทียม”...
nn ทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองไม่ยากใช่ไหม สังคมไทยยังไม่เห็นกับตา,ทว่าได้ยินกับหูชัดเจนอย่าง “ฟังหูไว้หู” กับความสำเร็จเบื้องต้นของ “เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง” ในการเจรจาด้านการค้าการลงทุนระหว่างไปประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 30 ที่นครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ในโอกาสได้เข้าพบปะหารือด้านการลงทุนกับผู้บริหารทั้งสองบริษัทยักษ์ “ไมโครซอฟท์–กูเกิ้ล” ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย และสามารถปิดดีลการเจรจาได้เป็นผลสำเร็จ โดยจะมีการลงนามในเอ็มโอยูในระหว่างการประชุมเอเปกครั้งนี้ซึ่งจะมีมูลค่าการลงทุนมหาศาลกว่า 2 แสนล้าน! เพื่อเปลี่ยนผ่านประเทศไทยไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และตอบสนองความต้องการใช้ “เอไอ” ที่เกิดขึ้นในหลายภาคส่วน จะทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (งานนี้ไม่ใส่ถุงเท้าสีฉูดฉาดไม่นั่งเกร็งจนประหม่าสิน่ะจึงไม่เกิด “น้ำลายบูด” ได้ผลเป็นประโยชน์ที่น่าพอใจต่อประเทศชาติ)...
nn “ไม้หน้าสาม” รู้น้อยไม่เคยเป็นนักธุรกิจใหญ่เอาตรงๆ เลยดีกว่าว่า การลงทุนของสองบริษัทยักษ์ใหญ่ แรงงานไทยได้รับประโยชน์ตรงไหน ในเมื่อบริษัทเหล่านี้ใช้เทคโนโลยีการผลิต ไม่ได้ใช้แรงงานคนผลิตสินค้าสักหน่อย ในเอ็มโอยูจะมีหรือไม่ว่าต้องจ้างแรงงานไทยวิศกรไทยในการดูแลการผลิต และพร้อมถ่ายทอด “เทคนิคอลโนว์ฮาว” ให้แก่ไทยตั้งแต่เริ่มต้น อยากบอกว่าอย่างนี้เขาเรียกการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนไหมเสี่ยนิด ดีกว่ากู้สร้างหนี้ที่ “ญี่ปุ่น” ทำแล้วได้ค่าสัมฤทธิ์ 0.3 เท่านั้นน้อยกว่าโครงการคนละครึ่งของ “รปภ.โง่–พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” คนที่ “ท่านผู้นำและขี้ข้า”... บูลลี่มาตลอดช่วงเวลาหาเสียงเลือกตั้งที่ได้ 0.5 อีกหนา...
nn “ไม้หน้าสาม” ห่วงอายุขัย “รัฐบาลสลายขั้ว” เสียจริง เจอพายุกระหน่ำเพราะปากพาจนโทษใครก็ไม่ได้ ทำตนเองทั้งนั้นจากกรณี “นโยบายแจกเงินดิจิทัลแก่ประชาชนผู้มีอายุครบ 16 ปีขึ้นไป(ทุกคน) คนละ 10,000 บาท” โดยอ้างว่ากระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยไม่ต้องกู้เงิน เพราะ “พรรคเพื่อไทย หาเงินได้ใช้เงินเป็น...สำรอกสำราก เพื่อ???” ในเมื่อที่สุดก็ต้องประกาศว่าจะกู้เพิ่มหนี้ให้แก่ประเทศอีก 500,000 ล้านบาท เพื่อมาสนองตัณหาและรักษาฐานเสียงพร้อมตกเขียวโหวตเตอร์รุ่นใหม่ โดยการออกพระราชบัญญัตเงินกู้5 แสนล้านบาท กล่าวหากันไว้ตรงนี้ ว่า งานนี้ถ้าไม่มีนอกมีในกับค่าต๋ง3 เปอร์เซ็นต์ คงเป็นไปไม่ได้แน่ เพราะ “พรรคเพื่อไทยหาเงินได้ ใช้เงินเป็น”มาตั้งแต่ยุค “ตาดูดาวเท้าติดดิน” ใน “ระบอบทักษิณ” จนเกิด “บิ๊กซีเนม่าอภิมหาโคตรโกง” ต้องคำพิพากษาติดคุกติดตะราง ถึง 8 ปีก่อนจะได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 10 พระราชทานอภัยลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี ทว่าตั้งแต่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาจนบัดนี้ “รัฐบาลสลายขั้ว ก้าวข้ามความขัดแย้ง” ของ “เสี่ยนิด–เศรษฐา ทวีสิน” ยังมะงุมมะงาหราปล่อยให้ “โจรต้องโทษ” เป็น “เทวดาชั้น 14” มีอภิสิทธิ์เหนือ “มวลมหาประชาชนอย่างไร้สามัญสำนึก” ให้ชาวบ้านติดตามจุดจบแข่งกับ “ชีปะขาว” เทวดาที่เข้าฝัน “นางกุย” ฝากเลี้ยง “แม่พุดตาน” ในละครดังหลังข่าวทางช่อง 3 “พรหมลิขิต”...
nn “ไม้หน้าสาม” ตั้งใจว่าจะไม่วิพากษ์วิจารณ์ข้อครหา “ไร้สาระของนักการเมืองเสียชาติเกิด”บางค่ายบางกลุ่ม เนื่องจากไม่ได้จบในสถาบันการศึกษาที่ถูกกล่าวหาว่าทรมานเด็กนักเรียนขึ้นสแตนด์เชียร์เพื่อแปรอักษร แต่พอนึกถึงสำนวนไทยที่ว่า “คนดีมีน้อยคนถ่อยมีเยอะ!!” เลยจำเป็นต้องใช้พื้นที่ส่วนนี้เผือกความคิดเห็นเป็นความเห็นส่วนตัวที่เรียนและจบเป็น“ศิษย์เก่าอำนวยศิลป์” โรงเรียนที่มีสติ๊กเกอร์ “คณะเรา”ติดท้ายรถมากที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ เขาเรียกว่า "ความภาคภูมิใจ"เรียก "เกียรติภูมิ" ก็เรียก ที่บังเอิญว่าไม่ใช่ศิษย์เก่า “สวนกุหลาบวิทยาลัย, กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย,อัสสัมชัญ และลูกแม่รำเพย-เทพศิรินทร์ กับมหกรรมกีฬาประเพณีสี่สถาบัน” ที่เรียกกันว่า“จตุรมิตร”...แต่เข้าใจคำว่า “เกียรติภูมิ” ซึ่งเชื่อว่านักการเมืองที่ออกเคลื่อนไหวเรื่องนี้ไม่รู้จักนิยามไม่เข้าใจไม่ภูมิใจในสิ่งเหล่านี้ การดำเนินกิจกรรมเป็นหมู่คณะเป็นความสามัคคีภายในหมู่คณะ หมู่คณะที่ไม่ใช่แค่หมู่คณะของนักเรียน “สวนกุหลาบวิทยาลัย, กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย, อัสสัมชัญ หรือลูกแม่รำเพย–เทพศิรินทร์” แต่เป็นหมู่คณะของสี่โรงเรียนที่สร้างมิตรภาพและกิจกรรมร่วมกัน...คำสัมภาษณ์ และข้อความของนักเรียนเก่าสี่สถาบันนี้อย่าง อธิป นานา ศิษย์อัสสัมชัญรุ่น เอซี110 กับเสื้อที่เพ้นท์ข้อความสั้นๆ บนเสื้อยืดแต่ตรงไปตรงมาอย่างได้สาระเข้าใจได้สำหรับคนมีสมอง“อย่ามาเสือกกับการแปรอักษรของพวกกูครับ” หรือกรณี“ดู๋-สัญญา คุณากร” ที่โพสต์เฟซบุ๊ก “Sanya Kunakorn /https://www.facebook.com/sanya.kunakorn” พร้อมติด แฮชแท็ก “#ผมคือนักเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย” พร้อมข้อความว่า “…(คุณ)อย่า…(มาหาเรื่อง) กับโรงเรียนของ…(ผม)เลย”… คุณไม่เคยรับรู้ถึงเกียรติภูมิ ของโรงเรียน ความอดทน ความเสียสละ การภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนที่จะสร้างเยาวชน ที่มีเกียรติ มีรากเหง้า มีกำลังสติปัญญา และมีความเป็นมนุษย์… ทั้งหมดต้องถูกหล่อหลอมโดยหลายช่องทาง หลายกิจกรรม…มีทั้งยาก และง่าย ทั้งเหน็ดเหนื่อย…และลำบาก โปรดรับรู้ว่า นักเรียนสวนกุหลาบ จะรักษาความถูกต้องจากการแอบแฝงผลใดๆ และจะรักษาเกียรติของโรงเรียนเสมอไป” เหมือนกับเสี่ยดู๋จะบอกว่านักเรียนสวนกุหลาบถูกหล่อหลอมให้มีความเป็นมนุษย์ มีความอดทน ไม่ชั่วเหมือนนักการเมืองบางไฟลัมที่ข่มขู่ล่วงละเมิดทางเพศ ที่ลงไม้ลงมือทำร้ายเพศแม่!!! ซึ่งนั่นคือข้อเท็จจริงที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วยังร่วมกันปกป้องอีกต่างหากชัดเจนที่สุดตรงข้อความที่ว่า คุณไม่เคยรับรู้ถึงเกียรติภูมิความภาคภูมิใจการเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียน เพราะคนเหล่านั้น “อาภัพทางความคิดไม่เคยได้สัมผัสได้รับการอบรมสั่งสอนมาเยี่ยงนี้”...
nn ทิ้งท้าย ฉบับนี้ “เสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน” มวลชนคณะเรา อย่าพลาด “ชมพูม่วงร่วมรวมใจ งานครบรอบ 97 ปี รร.อำนวยศิลป์ พญาไท”ที่สมาคมนักเรียนเก่าอำนวยศิลป์ ถนนประชาชื่น ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ต่อด้วยงานคณะเราบูรพาครั้งที่ 3นักเรียนเก่าอำนวยศิลป์ภูมิลำเนา 7 จังหวัดภาคตะวันออกพบปะสังสรรค์ที่โรงแรมเอเชีย พัทยา เสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2566 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี