วันพฤหัสบดี ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ตั้งเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ที่พรรคเพื่อไทยเปิดนโยบายหาเสียงที่เรียกว่า “เรือธง” “แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท แก่ปชช.อายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน” ที่เมื่อถึงเวลาจริงกลับไม่ตกผลึก ทำให้เกิดภาพที่ค่อนข้างชัดเจนว่า นโยบายเรือธงนี้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต ไม่ล่มสลายก็เกยตื้น
ชุลมุนชุลเก เซโรซัง จนที่สุดก็กลายเป็นเมนูคนละยำส่งต่อถึงประชาชน
ถ้อยแถลงของ “ท่านผู้นำ-เศรษฐา ทวีสิน” เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 10 พ.ย. 2566 เป็นการแถลงจากผลการประชุม “คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ชุดใหญ่”ที่มีการถกใน 5 ประเด็น คือ เรื่องหลักการโครงการ, เรื่องที่มาที่ไปของเงิน, เรื่องของใครได้รับบ้าง, เรื่องของการใช้กับสินค้าประเภทใดได้บ้าง, เรื่องของระยะทางที่กำหนด ถ้อยแถลงทั้งหมดคือข้อเท็จจริงและเป็นผลสรุปของที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่หรือว่า มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปจนหาข้อยุติไม่ได้
ออกอาการต่างคนต่างยำข้อมูลจนท่านผู้นำยำข้อมูลการประชุมออกมาเป็นถ้อยแถลงนั้นเสียเอง
จริงหรือที่ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” 1 ในผู้ร่วมประชุม “คณะกรรมการนโยบายฯ Digital Wallet ชุดใหญ่ที่มี ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย, สำนักงานสภาพัฒน์ และกฤษฎีกามีความเห็นที่แตกต่างไปจากข้อเสนอของนายกฯ ในหลายประเด็นเข้าร่วมประชุม ระบุว่า ข้อเสนอการออกกฎหมายกู้เงิน 500,000 ล้านบาท เป็นเสียงสำรอกของผู้ว่าฯแบงก์ชาติ เป็นการเสนอแนะที่รัฐบาลและท่านผู้นำ-เศรษฐา ทวีสิน นำข้อมูลมาตีความยำใส่ชุดความคิดแล้วนำมาแถลงต่อสาธารณชนหรือไม่
เพราะมีรายงานว่า “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ซึ่งไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้อย่างมีตรรกะทั้งด้านวินัยการคลัง/ทั้งสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันมาแต่ต้น เสนอว่าข้อมูลที่แต่ละฝ่ายนำเสนอต่อที่ประชุมนั้น เมื่อนำมายำรวมกันแล้วยังน้อยเกินไปที่จะทำให้มีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบด้าน
ยิ่งกฤษฎีกาที่ร่วมประชุมเป็นไปได้หรือที่สนับสนุนให้ใช้แนวทางนี้ในเมื่อไม่เป็นไปตามมาตรา 53 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ ที่ระบุชัดว่า การกู้เงินนอกเหนือจากที่บัญญัติในกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะให้กระทรวงการคลังทำได้ ... เฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนและอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศโดยไม่อาจตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทัน...” ชุดความคิดนี้มมาบรรจุในชุดความคิดรัฐบาล???
ท่านผู้นำ-เศรษฐา ทวีสิน ... “จวงจื่อ” ปราชญ์จีนเมื่อ 2,300 ปีที่แล้ว ตรงกับ “ยุคจั้นกว๋อ” เป็นปราชญ์ใหญ่ผู้รังสรรค์แนวคิดอมตะที่ถูกจัดอยู่ในสำนักคิดปรัชญาเต๋า เป็นปราชญ์รุ่นหลัง “เล่าจื๊อผู้รจนาคัมภีร์เต้าเต๋อจิง” ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสามจอมปราชญ์แห่งสำนักคิดฝ่ายเต๋า เล่าว่า ...มีชายคนหนึ่งรำคาญเงาของตัวเองมาก อีกทั้งยังทนรอยเท้าของตัวไม่ได้ เขาจึงพยายามวิ่งหนีจากทั้งสองสิ่งนี้ แต่ไม่ว่าจะวิ่งไปไหน เงาและรอยเท้าก็ยังติดตามเขาไป เขาคิดว่าเขาวิ่งเร็วไม่พอ จึงเร่งฝีเท้า ไม่ยอมหยุด วิ่งแล้ววิ่งเล่า ในที่สุดก็หมดแรง ล้มลงและถึงแก่ความตาย แล้ว “จวงจื่อ” ก็ตบท้ายว่า
“เขาหารู้ไม่ว่า ถ้าเพียงแต่เขาเข้าร่ม เงาก็จะหายไป และถ้าเขานั่งนิ่งๆ ก็จะไม่มีรอยเท้าเลย”
เราหยิบนิทานเรื่องนี้มาเล่า เพียงเพื่อต้องการเตือนสติ “ท่านผู้นำ-เศรษฐา ทวีสิน” ที่ “หักดิบปิดประชุม” ด้วยเวลาอันสั้น เป็นอาการ “เร่งรีบ” จนเกินเหตุ “ยำข้อมูล” ที่ได้รับจากแต่ละคนอย่างไม่รอบคอบหรือไม่ เพื่อให้ท่านผู้นำฉุกคิด ลดมิจฉาทิฐิตั้งสติให้เกิดสมาธิ เพื่อให้เศรษฐกิจประเทศชาติเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ไม่ใช่สุขวันนี้เพื่อหนีทุกข์ ทั้งที่ทุกข์นั้นมีอยู่ไม่จบแต่ไปรออยู่ในอนาคต
คนทุกวันนี้ไม่ต่างจากคนหนีเงา พยายามทำทุกอย่างเพื่อหนีทุกข์ โดยคิดว่าเป็นความสุข แต่ทุกข์ก็ยังตามมาไม่หยุด เขาหารู้ไม่ว่า ความทุกข์จะหมดไปเมื่อเขาหันเข้าหาร่มแห่งธรรมและทำใจให้นิ่งสงบ
ถึงที่สุดแล้ว ใครจะมีความสุขหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ว่าเขาออกไปตักตวงแสวงหาทรัพย์สมบัติและชื่อเสียงเกียรติยศได้สำเร็จหรือไม่
แต่อยู่ที่เขามีความสงบนิ่งจนเกิดสมาธิสติปัญญาได้มากน้อยเพียงใด

แด่วีรบุรุษ! สานฝัน‘พลทหารวายุ’ บิ๊กแจ๊สสร้างบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัว
กองทัพภาคที่ 2 ออกแถลงการณ์ฉบับภาษาจีน กรณีข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา
ศาลฎีกา สั่งจำคุก 46 ปี ไม่รอลงอาญา บัสบาส คดี 112
กทม. ร่วมแบ่งปันแนวคิดผู้นำศตวรรษที่ 21 เวทีเสวนา UN Volunteers
ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2568

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี