วันอังคาร ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ที่นี่แนวหน้า
ที่นี่แนวหน้า

ที่นี่แนวหน้า

วิภาวดี หลักสี่
วันเสาร์ ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 02.00 น.
‘หลุดจำนำ-โอนลอย’ ซื้อ‘รถมือสอง’ต้องระวัง

ดูทั้งหมด

  •  

“รถยนต์” ว่ากันว่าเป็น “ปัจจัยที่ 5” โดยเฉพาะกับสังคมไทยที่ระบบขนส่งมวลชนถูกตั้งคำถามเสมอมาทั้งในแง่ความเพียงพอ สะดวก และราคาที่เข้าถึงได้นั่นทำให้หลายคนเมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายและเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทางแต่ละวันแล้วตัดสินใจเลือกที่จะซื้อรถยนต์ (หรือจักรยานยนต์) มาใช้งานเพื่อ “ซื้อความสะดวก” ในการเดินทาง แม้จะต้องเป็นหนี้สินผ่อนกันยาวๆ หลายปีก็ตาม


งานนี้ “สถิติไม่โกหก” ในปี 2566 ที่ผ่านมา “กรมการขนส่งทางบก” รายงานยอดจดทะเบียนรถใหม่อยู่ที่ 3,058,205 คัน ในจำนวนนี้เป็นจักรยานยนต์มากที่สุด 2,065,021 คัน รองลงมาคือรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง) 653,528 คัน และรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ) 170,903 คัน ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถสะสม เก็บข้อมูลตั้งแต่ปี 2532-2566 อยู่ที่ทั้งหมด 44,363,975 คัน เป็นจักรยานยนต์มากที่สุด22,569,593 คัน รองลงมาคือรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน7 คน (รถเก๋ง) 11,855,423 คัน และรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ) 7,106,524 คัน

แต่นอกจากรถใหม่แล้ว “รถมือสอง” ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนมีทุนทรัพย์น้อยหรือต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งนอกจากการไปเลือกดูตามเต็นท์รถแล้ว การซื้อ-ขายออนไลน์ ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ได้รับความนิยมตามความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม คงต้องย้ำว่า “ราคารถที่ถูกเวอร์อย่างเหลือเชื่อ” อาจนำมาซึ่ง “ความเสี่ยง” ได้รถที่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นรถถูกโจรกรรมมาบ้าง หรือ “รถหนีไฟ” ที่หมายถึง “ไฟแนนซ์” ประเภทผ่อนไม่หมดแล้วแอบนำไปขาย คนซื้อต่อนอกจากจะเสียเงินแล้วยังอาจมีคดีติดตัวอีกต่างหาก

อย่างกรณีล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2567 เมื่อตำรวจทางหลวง จับกุมหนุ่มอายุ 39 ปี ชาว จ.เชียงราย ได้ที่บริเวณ กม.51-52 ทล.32 ถนนสายเอเชีย (ขาเข้า) ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง หลังพบว่า รถยนต์นั่งสามตอน ยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นแคปติวา สีดำ ที่เจ้าตัวขับมานั้น ป้ายทะเบียนที่ระบุคือ 6 กว-7018 กรุงเทพมหานคร พบเป็น “ทะเบียนปลอม” โดยหนุ่มรายนี้ให้การว่า “ซื้อต่อรถคันดังกล่าวมาจากเจ้าของเดิมในราคา 4 หมื่นบาท จากเฟซบุ๊กที่ประกาศขายรถหลุดจำนำ” แล้วจะเดินทางจาก จ.เชียงราย ลงไปทำธุระที่กรุงเทพฯ แต่ถูกจับเสียก่อน

คำถามแรก “รถหลุดจำนำอันตรายหรือไม่กับการซื้อมาใช้?” ก็ต้องบอกว่า ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งเตือนประชาชนอยู่เป็นระยะๆ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2567 ได้แจ้งเตือนอีกครั้งผ่านเพจเฟซบุ๊ก “กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ทั้งในส่วนของ “ผู้ที่ผ่อนรถยังไม่หมดแล้วนำรถไปขายหรือจำนำ” ว่า การที่ผู้เช่าซื้อนำรถติดไฟแนนซ์ไปจำนำ แล้วผู้เช่าซื้อไม่ผ่อนชำระหรือไม่นำเงินมาปิดยอดไฟแนนซ์ที่เหลืออยู่

จะเข้าข่ายเป็นการ “ครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่นหรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต” ซึ่งเป็นความผิดฐาน “ยักยอก” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่ “ผู้รับจำนำหรือซื้อต่อรถติดไฟแนนซ์มาใช้” หากรู้หรือควรจะรู้ได้ว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถติดไฟแนนซ์ การรับจำนำหรือรับซื้อรถคันดังกล่าวไว้

อาจเข้าข่ายเป็นการ “ซื้อ หรือรับจำนำ ซึ่งทรัพย์อันได้มาจากการกระทำความผิดฐานยักยอก” ซึ่งเป็นความผิดฐาน “รับของโจร” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการสังเกตว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใด ให้ตรวจสอบจาก “ใบคู่มือจดทะเบียน” ซึ่งจะระบุ รายละเอียดทะเบียนรถ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ และผู้ครอบครองรถ หากตรวจสอบแล้วพบว่าชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ เป็นชื่อของสถาบันทางการเงิน ให้ระมัดระวังในการรับจำนำ หรือรับซื้อรถคันดังกล่าว เพราะอาจตกเป็นผู้กระทำความผิดฐานรับของโจรได้

เช่นเดียวกับ กรมการขนส่งทางบก เคยเตือนเรื่องของการ “โอนลอย” ที่หมายถึง “การโอนรถโดยในแบบคำขอโอนมีเพียงชื่อผู้โอน (ชื่อเจ้าของรถ) และยังไม่มีการกรอกชื่อผู้รับโอน หรือกรอกแล้วแต่ยังไม่ไปจดแจ้งการโอนให้เรียบร้อย และผู้ซื้อหรือผู้รับโอนไม่นำรถไปดำเนินการตรวจสภาพรถด้วยตนเองตามขั้นตอนที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด” ซึ่งวิธีการนี้ทำให้เกิด “ช่องว่าง” ให้มิจฉาชีพนำรถที่ได้จากการโจรกรรมมาหลอกขายกับผู้ที่ไม่รู้ (หรืออาจเข้าทำนองรู้ความเสี่ยงแต่ก็อยากลอเพราะเห็นแก่ของถูก) ก็ได้

“ซื้อรถมือสองอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาตามมา?”กรมการขนส่งทางบก แนะนำไว้ดังนี้ 1.ตรวจสอบหลักฐานทะเบียนรถให้ครบถ้วนเพื่อการซื้อ-ขายที่ถูกต้อง โดยเฉพาะ “สมุดคู่มือรถฉบับจริง”ที่มีชื่อเจ้าของรถ เลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ สีรถ ข้อมูลเหล่านี้ต้องถูกต้องตรงกับรถคันที่จะซื้อขายทุกรายการ2.ตรวจสอบว่ามีการชำระภาษีรถประจำปีครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ พร้อมนำรถเข้าตรวจสภาพและดำเนินการตามขั้นตอนโอนทางทะเบียนรถ ณ สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนด้วยตนเองในทันที

และ 3.ไม่ควรซื้อ-ขายด้วยวิธีการโอนลอยการซื้อ-ขายรถด้วยวิธีการโอนลอยโดยไม่ดำเนินการโอนทางทะเบียนให้ถูกต้องในทันที อาจก่อปัญหาได้ เช่น เอกสารหลักฐานประกอบการดำเนินการหมดอายุ ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนได้ หรือกรณีที่ผู้ซื้อไม่ดำเนินการชำระภาษีรถประจำปี หรือรถเกิดอุบัติเหตุยังคงปรากฏชื่อเจ้าของรถเดิม ทางทะเบียนเจ้าของรถรายเดิมยังคงมีส่วนรับผิดชอบกับความผิดนั้นๆ ขณะที่การไม่ดำเนินการโอนทางทะเบียนทำให้ผู้ซื้อไม่อาจตรวจสอบความถูกต้องของรถได้โดยสมบูรณ์

“เสียน้อยเสียยาก-เสียมากเสียง่าย” ยังคงเป็นสำนวนที่ยังใช้ได้เสมอ จริงอยู่ใครๆ ก็อยากได้ของถูกยิ่งเศรษฐกิจไม่ค่อยจะดี ค่าครองชีพพุ่งเกินรายได้ แต่รถยนต์ถือเป็นสิ่งจำเป็นหากไม่มีว่ากันว่าใช้ชีวิตได้แสนลำบาก ดังนั้น “ยิ่งเห็นโฆษณาชวนเชื่อของถูกมากๆ ยิ่งต้องตั้งสติและระมัดระวัง” เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ!!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:48 น. ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ
22:21 น. 'ปราชญ์ สามสี' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ'ศิโรราบ'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ
22:18 น. 'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน
22:08 น. (คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ
22:05 น. 'สุทิน' จวก 'โฆษกเพื่อไทย' ย้ำรัฐบาล'ชวน หลีกภัย'ไม่เคยปรึกษา'ทักษิณ'
ดูทั้งหมด
อื้อหือ! เพจดังเปิดภาพ 'สีกากอล์ฟ' ย้อนอดีต 10 ปี ไม่แปลกใจทำไมพระหวั่นไหว
วินาที'ในหลวง'ส่งสัญญาณพระหัตถ์ถึง'พระราชินี' ทรงรีบเข้าประคองพระองค์อย่างว่องไว
'สีกากอล์ฟ'ฟาดเรียบ ทั้งเจ้าอาวาส ทั้งคนขับรถ สารภาพถูกชวนมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง
‘สม รังสี’แฉเหยื่อกว่า 120,000 คนในกัมพูชา ถูกขังใน 53 ตึก โดนบังคับใช้เป็นทาสมาเฟียจีน
สลดวันพระ! ยิงดับ 2 ศพ คาวัดดัง ย่านเพชรเกษม
ดูทั้งหมด
‘ฮุน เซน’เล่นใหญ่‘ทักษิณขายชาติ’
ซูเปอร์ฮีโร่
สองพ่อลูก
ศึกเขากระโดง ใครจะโดน 157 ? ปรับ ครม. เพื่อชำระแค้นการเมือง
คนไทยส่วนใหญ่เสียอะไร/ได้อะไรจากเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ

'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน

(คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ

(คลิป) 'ฮุนเซน' พร้อมสวนกลับ ขอเวลา 3 ชม. ซัด 'ทักษิณ'

'มหาเธร์'อดีตนายกฯมาเลเซียออกจากรพ.แล้ว โพสต์คลิปเดินปร๋อขึ้นรถยนต์ส่วนตัว

คู่รักสูงวัยถูกหลอกใน‘มาเลเซีย’ เดินทางไกลไปขึ้นกระเช้าที่ไม่มีอยู่จริง-พบแค่คลิปโปรโมทด้วย‘AI’

  • Breaking News
  • ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ
  • \'ปราชญ์ สามสี\' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ\'ศิโรราบ\'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ 'ปราชญ์ สามสี' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ'ศิโรราบ'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ
  • \'กินเนสส์ฯ\'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น\'ชีสที่แพงที่สุดในโลก\'ด้วยราคา1.35ล้าน 'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน
  • (คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก\'ทรัมป์\' อย่าเสีย \'ฐานทัพเรือพังงา\' เป็นพอ (คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ
  • \'สุทิน\' จวก \'โฆษกเพื่อไทย\' ย้ำรัฐบาล\'ชวน หลีกภัย\'ไม่เคยปรึกษา\'ทักษิณ\' 'สุทิน' จวก 'โฆษกเพื่อไทย' ย้ำรัฐบาล'ชวน หลีกภัย'ไม่เคยปรึกษา'ทักษิณ'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว

ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว

12 ก.ค. 2568

ใช้‘เอไอ’อย่างพึงระวัง ‘สมองมนุษย์’ถูกลดทอน

ใช้‘เอไอ’อย่างพึงระวัง ‘สมองมนุษย์’ถูกลดทอน

5 ก.ค. 2568

พิพาท‘ไทย-กัมพูชา’ ในมุมกลไกระหว่างประเทศ

พิพาท‘ไทย-กัมพูชา’ ในมุมกลไกระหว่างประเทศ

28 มิ.ย. 2568

ครูถูกพรากเวลาสอน แถมกลายเป็นอาชีพเสี่ยง

ครูถูกพรากเวลาสอน แถมกลายเป็นอาชีพเสี่ยง

21 มิ.ย. 2568

‘Caregiver’ขาดแคลน ‘สูงวัย’ยอดพุ่งใครดูแล?

‘Caregiver’ขาดแคลน ‘สูงวัย’ยอดพุ่งใครดูแล?

14 มิ.ย. 2568

‘เข้าใจวิธีคิดผู้เห็นต่าง’ ทักษะยุคสังคมแบ่งพวก

‘เข้าใจวิธีคิดผู้เห็นต่าง’ ทักษะยุคสังคมแบ่งพวก

7 มิ.ย. 2568

‘ภาคีอาสา’ดัน‘เชียงราย’ เดินหน้าสู่เมืองแห่งความสุข

‘ภาคีอาสา’ดัน‘เชียงราย’ เดินหน้าสู่เมืองแห่งความสุข

31 พ.ค. 2568

ถ่ายโอน‘รพ.สต.’สู่‘อบจ.’ ต้นแบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ

ถ่ายโอน‘รพ.สต.’สู่‘อบจ.’ ต้นแบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ

24 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved