ในบรรดาผู้นำของนครสารขัณฑ์ ทั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน คงจะไม่มีผู้นำคนไหน “ปากไว”และมี “คารมเชือดเฉือนใจมีวาทกรรมกระชากวิญญาณ” เท่ากับ “คำพูด” ของ “ท่านทศกัณฐ์” ผู้ถูกฆ่าไม่ตายในทางการเมืองที่ปล่อยสัมโมทนียกถาออกมาแต่ละคำ ล้วนเป็นที่ “ฮือฮา” ของชาวบ้านทุกฝ่าย

หากใครยังจำได้ คงจะระลึกถึงวาจาระดับ “เลาะเนื้อ เลาะกระดูก” ที่ท่านทศกัณฐ์ได้พูดไว้หลายปีก่อน เช่น “ประชาชนจังหวัดไหน ไม่เลือกคนของพรรคตูข้าก็จะไม่ได้รับการเหลียวแลอย่างทั่วถึง แต่ประชาชนจังหวัดใดเลือกคนของพรรคตูข้า ก็จะได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษ”

ดังนั้น จึงเล่นเอาประชาชนในจังหวัดภาคใต้ ต่างกลายเป็น“ลูกเมียน้อย” อย่างยาวนาน

หลังจากท่านทศกัณฐ์เกิด “โรคชีพจรลงเท้า” ต้องกลายเป็น “นักวิทยาศาสตร์ขยันเดินทางสำรวจโลกยาวนานกว่า 16 ปี” บัดนี้ท่านได้เดินทางกลับนครสารขัณฑ์อย่าง “สุดเท่” และ “เล่นบทเทวดา” อย่าง “สุดกล้า” แล้วสร้างเรื่อง “สุดอัศจรรย์” ครั้งแล้วครั้งเล่า จน “กองแช่งอ้าปากค้าง”

ล่าสุด “ท่านทศกัณฐ์” ได้สร้างหนังเรื่อง “โทนี่ปิ๊กบ้าน” หรือ “Tony Return to Hometown” โดยท่านทศกัณฐ์ เป็นดารานำแสดงเอง และกำกับการแสดงเอง

หนังเรื่องดังกล่าว ได้เปิดรอบปฐมทัศน์ ฉายที่ “นครเชียงใหม่” ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เป็นหนังที่ชาวเชียงใหม่ฮือฮาอย่างทั่วถึง แม้แต่นักการเมืองคนดังและข้าราชการคนเก่งจากบางกอก ต่างก็เหาะเหินเดินฟ้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

ท่านทศกัณฐ์ “สุดปลื้ม” กับความสำเร็จครั้งนี้ แล้วได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็น “ครั้งแรก” ที่ได้กลับมาสารขัณฑ์ว่า “ตนสุดปลื้มที่แฟนคลับยังรักท่านอย่างเหนียวแน่นมาถึง 16 ปี” แต่สำหรับ “คนที่เกลียดผมก็ขอให้ต่างคนต่างอยู่”

วาทกรรมแบบนี้ ถือเป็นวาทกรรมที่ไม่เคยมีผู้นำของประเทศไหนในโลก “เคยใช้มาก่อน” เพราะผู้นำส่วนใหญ่จะประกาศเสียงดัง “ผมขอเป็นผู้นำของประชาชนทุกคนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเลือกผมหรือไม่ได้เลือกผม ผมก็จะเอาใจใส่และช่วยประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึงทั้งคนที่รักผมและไม่รักผม”

ด้วยประการฉะนี้ วาทกรรม “เจ็บจี๊ด” ของท่านทศกัณฐ์จึงถือเป็น “วรรคทอง” ที่ “กล้ามาก เก่งมากและอหังการมาก”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม