หลังจาก “นักแจกเงินมหาภัย พระเวสสันดรใจใหญ่มหาโหด” ซึ่งเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสารขัณฑ์ ได้นำเงินงบประมาณจำนวนมหาศาลมาตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ แจกไปแล้วสองครั้ง พร้อมกับ “โม้เสียงดัง” จะเกิด“พายุหมุนทางเศรษฐกิจ” จนชาวสารขัณฑ์จะกลับมา “มั่งคั่งอีกครั้ง”

“แต่แล้ว กลับไม่เกิดสิ่งอัศจรรย์ตามที่โม้ เพราะไม่เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจตามที่คาดหวัง ในทางตรงข้าม กิจการทุกชนิดของทุกภาคส่วนในสารขัณฑ์ กลับดิ่งนรกจนทุกภาคส่วนต่าง เจ๊งตูดปะ”

แม้นักวิชาการคนดัง นักเศรษฐศาสตร์คนเก่งและสื่อทุกแขนงจะออกมา“เหยียบเบรกเท้า ดึงเบรกมือและตบเกียร์ต่ำ” ด้วยการ “เรียกร้องซ้ำๆ ซากๆ” ว่า “เลิกแจกได้แล้ว” ก่อนที่ประเทศสารขัณฑ์จะกลายเป็น “รัฐล้มเหลว” โดยเศรษฐกิจดิ่งสู่นรกระดับขุมลึกๆ เช่น “นรกทาร์ทารัส” เป็นต้น

ดูเหมือนทายาทปากไว ผู้เป็นหุ่นเชิดของพ่อมดทศกัณฐ์กลับกลายเป็น“ผู้นำหูดับ” ที่ไม่ฟังใคร ฟังแต่คำสั่งของโยคีศานติศีล ผู้เป็นสทร.ตัวจริงเท่านั้น

ดังนั้น “ชีจึงออกมายืนยัน นั่งยัน นอนยันและตีลังกายัน” ว่า จะแจกเงินฟรี ฟรี แก่ชาวสารขัณฑ์รอบ 3 ให้ได้ ประมาณปลายเดือนพฤษภาคมนี้แหละ

จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เศรษฐกิจของสารขัณฑ์ดิ่งเหวเร็วกว่าที่คิด จนชาวสารขัณฑ์ต่างร้องลั่น “ไอ้หยาอาตือ ซี้เลี้ยวอาหมวย” เพราะทุกกิจการในสารขัณฑ์ต่าง “เจ๊งตูดปะ”

บวกกับ “จักรพรรดิปากจู๋” แห่งอินทรีหัวขาวได้นำลัทธิ “MAGA” มาใช้กับทุกประเทศทั่วโลก เป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจทั้งโลกให้ “ต่ำเตี้ย” ในขณะที่เศรษฐกิจของสารขัณฑ์ที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ก็กลายเป็น “คนไข้ในห้องไอซียูที่ขาดออกซิเจนช่วยหายใจและขาดเลือดสำรองยื้อชีวิต” ก็ทำท่าจะ “สิ้นชีพ” ในไม่ช้า

ก่อนที่ประเทศสารขัณฑ์จะกลายเป็น “รัฐบาลล้มเหลว” ปรากฏว่า“ครม.สารขัณฑ์”ต่างออกมายกธงขาว และกลับลำไม่กล้านำเงินจำนวนมหาศาล มาตำน้ำพริกละลายในมหาสมุทร ด้วยการแจกสุดมันเป็นรอบที่ 3

ด้วยประการฉะนี้ ก่อนที่สารขัณฑ์จะ “ดิ่งนรก” อย่างสุดจริง ครม.สารขัณฑ์ต่างจึงร้องเพลงประสานเสียงด้วยเพลง “ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า” ของ “เจ๊อ้อม สุนิสา” เสียงดังลั่น

แม้รัฐบาลพระเวสสันดรจะร้องเพลง “ถอย” ไม่แจกเงินเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ แต่ครม.ก็ยังเสียงแข็ง “ออกมายืนยัน” ว่า หาก “เศรษฐกิจของสารขัณฑ์พ้นนรกเมื่อใด รัฐบาลพระเวสสันดรจะกลับมาแจกเงินครั้งใหม่อย่างมือเติบจร้า”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม