แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn ข้าพเจ้าอยากให้ทุกคนนึกถึงกฎแห่งเหตุผล ว่าผลเกิดขึ้นเพราะเหตุ คือ การกระทำ และผลนั้นจะเป็นผลดีหรือผลเสีย ก็เพราะกระทำให้ดีหรือให้เสีย ดังนั้น การที่จะทำงานใดให้บรรลุผลที่พึงประสงค์ จะต้องพิจารณาถึงวิธีการที่เหมาะสมก่อนเป็นเบื้องต้น แล้วลงมือกระทำตามหลักแห่งเหตุผล ด้วยความตั้งใจจริงและด้วยความสุจริต งานของแต่ละคนจึงจะเป็นผลดี และเชื่อได้ว่า ผลงานของแต่ละคนจะประมวลกันเป็นความเจริญมั่นคงของบ้านเมืองได้ดั่งปรารถนา หน้าที่ของท่านผู้เป็นบัณฑิตที่ควรจะได้ทำ คือทำตัวเป็นตัวอย่าง เป็นผู้นำ ในการทำงานด้วยเหตุผล และร่วมกันสร้างสังคมที่ถือหลักเหตุผลในการดำเนินชีวิตทุกๆ ด้าน... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 9 กรกฎาคม 2513)...
nn การปรับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน น่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายๆ เดือนเมษายนนี้ หรือไม่ก็คงไม่เกินช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2567 เพราะเก้าอี้ดนตรีในตำแหน่งรัฐมนตรี รวมถึงเก้าอี้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมันคือเก้าอี้ที่ไม่มีใครสามารถครอบครองได้ตลอดอายุของการเป็นรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากรัฐประหารหรือจากการเลือกตั้ง โดยเฉพาะรัฐบาลที่เป็นการผสมพันธุ์กันแบบร้อยพ่อพันแม่...
nn ถึงแม้ในบางยุค สาธารณชนจะเห็นว่านายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งยาวนานจนครบวาระ โดยที่ผู้เป็นนายกรัฐมนตรีใช้เล่ห์ดึงพรรคต่างๆ เข้ามารวมอยู่ในพรรคของตนเอง แต่สุดท้ายก็ได้พบเห็นมาแล้วว่า ยังมีการปรับคณะรัฐมนตรีทุกๆ ช่วงประมาณครึ่งปี ซึ่งมีในบางครั้งที่นักการเมืองซึ่งถูกปรับโยกไปโยกมาจนตัวเองงง แล้วก็เคยมีนักการเมืองบางคนบ่นเสียงดังๆ ว่า ตอนนี้ก็งงว่าอยู่ในตำแหน่งนี้ได้อย่างไร...
nn สำหรับรัฐบาลผสมที่มีนายกรัฐมนตรี (หุ่นเชิด) ชื่อเศรษฐา ทวีสิน โดยมีนายกรัฐมนตรีตัวจริงอยู่หลังฉากการเมือง คือนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร แล้วก็ยังมีนายกรัฐมนตรีจำพวกลูกกรอก ชื่อแพทองธาร ชินวัตร ผสมเข้าไปอีก รัฐบาลผสมแบบนี้อยู่รวมกันได้ก็เพราะว่า พรรคร่วมรัฐบาลสามารถแบ่งปันอำนาจรัฐ และผลประโยชน์ทางการเมืองระหว่างกันได้ลงตัว...
nn ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องไม่ลืมว่า ยังมีผู้ที่นักโทษชายทักษิณจะดึงขึ้นไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีรออยู่อีกหลายสิบราย ส่วนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น คอการเมืองไทยเชื่อตรงกันว่าจะมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ ไม่น่าจะเกินปลายปี 2567 ส่วนเปลี่ยนแล้ว แพทองธาร จะขึ้นไปกินตำแหน่งแทนหรือไม่ เรื่องนี้ถูกมองตรงกันว่าแพทองธารยังอ่อนหัดมาก อ่อนทั้งเกมการเมือง อ่อนทั้งสติปัญญาในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ที่เข้มนั้นมีอย่างเดียวคือแต่งหน้าเข้มมาก และเข้มตลอดเวลา แต่ทว่าเมื่อได้ฟังคำพูดคำจาเรื่องการเมืองแล้ว บอกได้คำเดียวว่าอ่อนมาก....มาก..... ถ้าหาก แพทองธาร ขึ้นไปกินตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็หมายความว่าคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงคือนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร อย่างไม่ต้องสงสัย...
nn งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ผ่านสภาฯ แล้ว เมื่องบประมาณฯ ผ่าน ก็หมายความว่ารัฐบาลจะมีเงินเพื่อใช้จ่ายได้ถนัดมือมากขึ้น แล้วต้องไม่ลืมว่างบฯ ปี 2567 จำนวน 3.48 ล้านล้านบาท จะถูกใช้ให้หมดภายในเวลาเพียงไม่เกิน 5 เดือน เพราะจะหมดปีงบประมาณแผ่นดินในปลายเดือนกันยายน เพราะฉะนั้น เมื่องบฯ มาแล้ว ก็หมายความว่าการแบ่งปันงบฯ ระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ ที่ร่วมเป็นรัฐบาลก็จะเกิดขึ้น แล้วความอิ่มหมีพีมันในรัฐบาลผสมก็จะบังเกิดขึ้นตามตำราเป็นรัฐบาลแล้วอิ่มหมีพีมัน เป็นฝ่ายค้านอดอยากปากแห้ง...
nn เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (โดยตำแหน่ง แต่ไม่มีผลงานใดๆ ปรากฏชัด) ยังคงพยายามผลักดันเงินแจกผ่านdigital wallet หัวละ 1 หมื่นบาท ให้กับกลุ่มคนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป โดยใช้วงเงิน 5.6 แสนล้านบาท แต่ถึงแม้ว่า ในขณะนี้ยังไม่มีเงินจะแจก แต่ทว่าเศรษฐาก็ยังคงพยายามจะหาทางแจกให้จงได้ โดยบอกว่าจะพูดเรื่องแจกเงินหัวละ 1 หมื่นบาท ในวันที่ 10 เมษายนนี้ โดยอ้างว่าจะชี้แจงเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในสังคม...
nn อันที่จริง จะพูดเพียงครั้งเดียว หรือพูดหลายร้อยครั้ง ก็คงไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น หากพูดแล้วให้ข้อมูลได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง และมีเงินเพียงพอสำหรับหว่านแจกได้จริงๆแต่ไม่ใช่พูดโฆษณาชวนเชื่อ หรือพูดไปวันๆ โดยไม่มีปัญญาทำได้จริง ...
nn เท่าที่เห็นชัดๆ ตอนนี้คือมติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 เมษายน เห็นชอบให้ปรับปรุงกรอบการคลังระยะปานกลาง (2567-2571)เพื่อให้มีเม็ดเงินมากขึ้นสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อคณะรัฐมนตรีขยับกรอบการคลังเช่นนี้ ก็มีเสียงวิพากษ์ว่า รัฐบาลโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยคงจะใช้โอกาสนี้ดึงเงินออกไปเพื่อใช้ในโครงการ digital wallet ให้จงได้ แม้อาจจะไม่มีปัญญาดึงเงินไปทั้งก้อนใหญ่ จำนวน 5.6 แสนล้านบาท แต่ก็อาจจะใช้กลอุบายดึงไปเป็นครั้งๆ ในแต่ละปีงบประมาณ แต่การดึงเงินงบประมาณออกไปแจก โดยที่ไม่สามารถแจกได้หัวละ 1 หมื่นบาท ให้คราวเดียวกันทั่วประเทศ ก็จะทำให้รัฐบาลโดยเฉพาะเพื่อไทยประสบปัญหาหน้าแหกหน้าแตก เพราะคุยไว้เยอะว่าต้องกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการช็อตหัวใจอย่างรุนแรง เพื่อให้หัวใจเต้นต่อไปได้ แต่หากแจกเงินได้จริง แต่จริงได้ไม่ครบคนและแจกไม่ครบจำนวนตามที่โฆษณาชวนเชื่อไว้ ก็จะทำให้ถูกตั้งคำถามกลับว่า แล้วแบบนี้มันจะไปช็อตหัวใจคนป่วยใกล้ตายได้อย่างไร...
nn แกนนำพรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน ประกาศสู้เต็มท่ีเพื่อไม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล แม้ปากของคนอื่นๆ ในก้าวไกลจะบอกว่าไม่กลัวการยุบพรรค ยิ่งยุบพรรคยิ่งโต ต่อให้ยุบก้าวไกล ก้าวไกลก็จะโตต่อไป เพราะก้าวไกลไม่ใช่พรรคการเมือง แต่เป็นอุดมการณ์การเมือง ก็สุดจะกล่าวจะอ้างกันไปแต่ลึกๆ แล้วก็แค่พวกปากกล้าขาสั่นทั้งนั้น ชัยธวัช บอกว่าจะสู้คดีบนศาลรัฐธรรมนูญแล้วจะสู้คดีนี้ในหมู่ประชาชนด้วย จะทำให้ประชาชนเชื่อว่าก้าวไกลไม่ได้ล้มล้างการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สรุปว่าก้าวไกลจะต่อสู้ต่อไป แม้จะถูกศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาให้ยุบพรรคก็ตาม...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี