เพียงแค่ 7 เดือนผ่านไป คณะรัฐมนตรีที่มีเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ทำการปรับคณะรัฐมนตรีเสียแล้ว
ตามหลักการบริหารรัฐนั้น อำนาจการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นของนายกฯ แต่น่าสงสัยว่า จะมีสักกี่คนที่เชื่อว่า เศรษฐา ได้ใช้หรือมีอำนาจในการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้
นอกจากเซ็นชื่อในเอกสารและรอพระบรมราชโองการ เพราะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ตนเองควบไว้ก็ยังต้องปล่อยมือ
เอาเข้าจริง แม้แต่การเข้ามาเป็นนายกฯของ เศรษฐา ก็แทบไม่มีใครเชื่อว่าเขามีความสามารถที่จะก้าวขึ้นมาถึงระดับนี้ด้วยตัวเอง และคณะรัฐมนตรีชุดแรกก็คงมีคนจัดแจงให้เสร็จหมดแล้ว
ระยะเวลา 7 เดือนนั้นไม่นานเลย สำหรับชาวบ้านทั่วไป-ใครเป็นรัฐมนตรีบ้างก็ยังไม่รู้ นอกจากคนที่เห็นหน้าตามข่าวอยู่บ่อยๆ รู้แต่ว่านายกฯทัวร์ต่างประเทศและต่างจังหวัดถี่ยิบ รัฐมนตรีพาณิชย์คอยออกมาตอบคำถามเรื่องการเมืองอยู่บ่อยๆ แทนที่จะพูดเรื่องข้าวของแพงระยับ หรือความพยายามจะดันดิจิทัล วอลเล็ต ให้ได้ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากทั่วทุกสารทิศ ซึ่งที่เหลือนอกจากนี้ดูเหมือนยังไม่ได้เห็นผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ในทางธุรกิจ เวลาบริษัทเปิดรับสมัครคนเข้าทำงาน มักจะมีช่วงทดลองงาน 4-6 เดือน เพื่อดูว่าจะทำงานตามตำแหน่งที่สมัครไว้ได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็ไม่ผ่าน ถ้าได้ก็รับเข้าประจำการอยู่กันไปยาวๆ แต่การเป็นรัฐบาลไม่ใช่บริษัทห้างร้าน ตำแหน่งนายกฯและคณะรัฐมนตรีไม่ใช่สำหรับทดลอง เพราะต้องดูแลคนอีก 70 ล้านกว่าคนทั่วประเทศ และต้องมีความสามารถที่จะทำงานได้ทันที
ไม่ใช่ค่อยๆ เรียนรู้งานจากข้าราชการไปทีละน้อย ระหว่างนั้นก็ไปเปิดงานอีเว้นท์ต่างๆ ไปพลางๆ
คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลผสม แน่นอนว่า แต่ละพรรคก็จะมีคนของตนที่คัดเลือกไว้แล้ว และส่งชื่อให้นายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคเหล่านั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก
นอกจากต่อรองกระทรวงแบ่งโควตากันบ้างในตอนแรกๆ เพราะทุกพรรคก็กระเหี้ยนกระหือรืออยากเป็นรัฐบาลใจจะขาด นัยว่ามีอุดมการณ์ต้องการจะรับใช้ประชาชนอย่างแรงกล้า
ที่เป็นปัญหาใหญ่ก็คือพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล จริงไม่จริงไม่มีใครรู้ แต่คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าพรรคการเมืองนี้ดูคล้ายบริษัทจำกัด อยู่ภายใต้การควบคุมและบัญชาการของเจ้าของบริษัท ซึ่งจะเปลี่ยนใครเข้า-ออกก็ได้ตามอำเภอใจ ขนาดเอาเก้าอี้กระทรวงการคลังออกจากก้นนายกฯยังได้-สบายมาก
การปรับคณะรัฐมนตรีทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านไปแค่ 7 เดือน โดยเฉพาะในส่วนของพรรคเพื่อไทย คิดเป็นอย่างอื่นได้ยากมาก ถ้าไม่ใช่เป็นการเวียนตำแหน่งกันเพื่อปูนบำเหน็จ ก็ต้องเป็นการจัดหมากบนกระดานเพื่อกระชับอำนาจของเจ้าของบริษัท และนั่นก็ไม่มีอะไรเกี่ยวกับประชาชนเลยแม้แต่เศษเสี้ยว
ความจริงไม่เกี่ยวกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ เศรษฐา และการปรับคณะรัฐมนตรีคราวนี้หรอก แต่ไม่รู้ว่าทำไม ขณะที่นั่งดูข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ผมบังเอิญนึกเลยเถิดไปถึงเพลงป๊อปอมตะชื่อ “Send In the Clowns” แต่งโดย สตีเฟ่น ซอนด์ไฮม์ประกอบละครเรื่อง “A Little NightMusic” ในปี 1973 ฉบับที่ร้องได้ไพเราะที่สุดเป็นของ จูดี้ คอลลินส์
ซอนด์ไฮม์ เคยบอกว่า clowns ในเพลงของเขาไม่ได้หมายถึงตัวตลกในคณะละครสัตว์ แต่เนื้อเพลงเอามาจากสิ่งที่มักจะปฏิบัติบนเวทีละคร เมื่อตัวละครทำท่าจะไปได้ไม่ดี เอาคนดูไม่อยู่ ก็ส่งตัวตลกออกไปหรือดังคำที่ว่า “มาเล่นตลกกันเถอะ” คงคล้ายตลกหน้าม่านหรือจำอวดหน้าม่านของละครเวทีไทยสมัยเก่า ซึ่งเป็นการแสดงเรื่องตลกขบขันก่อนที่การแสดงหลักจะเริ่ม หรือคั่นเวลาขณะที่กำลังเปลี่ยนฉากใหม่หรือผู้แสดงหลักเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวอยู่หลังม่าน เพื่อไม่ให้ผู้ชมเบื่อหน่ายระหว่างการรอคอย
แต่ตลกหน้าม่านจะใช้เวลาหน้าเวทีไม่นานพอเปลี่ยนฉากเสร็จ หรือตัวละครหลักแต่งตัวเรียบร้อย เดี๋ยวตัวตลกก็ต้องเข้าโรงไป
ทิวา สาระจูฑะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี