“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า, แนวหน้าออนไลน์/www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิด,นักเลือกตั้งชังชาติ สลิ่มติ่งแดงด้อมส้ม, ส่ำสัตว์สัมภเวสี, อุปกรณ์ใช้ลากคันไถทำการเกษตรอย่างเท่าเทียม”…

nn “ไม้หน้าสาม” เริ่มต้นฉบับนี้ด้วยการชักชวน ศิษยานุศิษย์, พุทธศาสนิกชน น้อมรำลึกในคำสอนของพระคุณเจ้า“พระธรรมโกศาจารย์ (เงื่อม พานิช ฉายา อินทปญฺโญ หรือท่านพุทธทาสภิกขุ)” ซึ่งมรณภาพไปเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2536 ทว่าคำสอนของท่านยังเป็นหลักปฏิบัติของสังคมไทยอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอมา…

nn “ท่านพุทธทาส”ให้คำจำกัดความของ “ประชาธิปไตย ว่า... คือ ประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ไม่ใช่ประชาชนเป็นใหญ่ ต้องให้ประชาชนได้รับประโยชน์เต็มอย่างนั้นจึงจะเป็นประชาธิปไตย... ไอ้ประชาชนเป็นใหญ่นั้น มันไม่แน่ ประชาชนบ้าบอก็ได้ และถ้าประชาชน“เห็นแก่ตัว”แล้ว ฉิบหายหมด” ประชาธิปไตยมันจะดีต่อเมื่อมีศีลธรรมเป็นรากฐาน ถ้าไม่มีศีลธรรมเป็นรากฐาน มันก็เป็นประชาธิปไตยโกง ซึ่งมันร้ายกาจมาก มีโอกาสที่มันจะใช้กิเลสของตนเองอย่างเสรี อย่างเต็มที่ แล้วจะทนไหวหรือ??? ... ที่พูดกันว่าประชาธิปไตยดีกว่าระบบใด นั้นหลับตาพูดคนไทยก็หลงเพ้อหลงเชื่อพวกฝรั่ง ที่ว่าประชาธิปไตยนี้เพื่อประชาชน ของประชาชน โดยประชาชน แต่ลืมพูดไปว่าที่มีศีลธรรม ... เมื่อไม่มีศีลธรรมเป็นพื้นฐานแล้ว ระบบประชาธิปไตยนั่นแหละ จะเป็นระบบที่เลวร้ายที่สุด แห่งระบบทั้งหลาย...…

nn เพราะประชาธิปไตยที่ไม่มีศีลธรรม ... สังคมไทยจึงไม่ใช่ประชาชนเป็นใหญ่ไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ นักการเมืองเกิดกิเลส เห็นแก่ตัวแก้ไขกฎกติกาเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ... จึงอย่าแปลกใจกับการเลือกตั้ง “สมาชิกวุฒิสภา” ที่จนถึงวินาทีนี้ยังสรุปไม่ได้ว่า “คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)” จักสามารถประกาศรับรองผลการเลือกตั้งได้ หรือต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ เพราะขัดบทบัญญัติตามมาตรา 107 วรรคหนี่ง, วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 หรือไม่ ที่หลายพื้นที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ขาดคุณสมบัติแต่กลับลงคะแนนและนับเป็นคะแนนในระดับอำเภอในระดับจังหวัดจนเกิดเรื่องร้องเรียนจำนวนมากมาย …

nn กรณีการเลือกตั้ง“นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี” ที่ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า “ชาญ พวงเพ็ชร์”ที่รับการสนับสนุนจาก “นักโทษเด็ดขาดชายคดีทุจริตคอร์รัปชั่น โกงบ้านกินเมือง ฉ้อฉลเงินแผ่นดิน – ทักษิณ ชินวัตร, พรรคเพื่อไทย, 8 บ้านใหญ่”ได้รับชัยชนะเหนือ “น้องที่มีวันนี้ได้เพราะพี่ให้ อย่าง แจ๊ส – พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง”อย่างสิ้นสงสัย ทว่าเหมือนมีกรรม “ว่าที่นายกชาญ”กลับถูกรื้อฟื้นกรณี “ศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบ” ประทับรับฟ้องกรณี “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)” มีมติชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อถุงยังชีพจากเหตุน้ำท่วมปี 2555 อยู่ในชั้นสืบพยานของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 แต่ยังไม่มีคำตัดสิน แต่ “ป.ป.ช.”เคยมีประกาศเพื่อเป็นแนวทางให้ปฏิบัติกรณีป.ป.ช.ชี้มูลความผิด “ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ให้ “ผู้บริหาร” นั้นๆ “หยุดปฏิบัติหน้าที่” ดังนั้นถ้า กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง “ชาญ พวงเพ็ชร์”จะต้องหยุดชุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ในขณะที่ “กูรู” อ่านกฎหมายรู้ดูกฎหมายเป็นของพรรคเพื่อไทย อย่าง “สมคิด เชื้อคง,ภูมิธรรม เวชชยชัย”มองว่าควรให้เป็นคำสั่งศาล ง่ายๆ ก็คือ อะไรที่ได้เปรียบเอาแบบนั้น “ประชาธิปไตยไทยแลนด์โอนลี่”…

nn รัฐบาลตั้งธงให้ต่างชาติเช่าที่ดินในไทยได้ 99 ปี สามารถถือครองสิทธิ์คอนโดมิเนียมได้ 75% เหมือนจะนำร่อง เพราะล่าสุด “นักกู้ผ้าขาวม้าพันคอ – เศรษฐา ทวีสิน”เดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ จัดเวลาให้ “นาย Adrian Cheng รองประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท New World Development จำกัด (NWD) และ “คณะผู้บริหาร”บริษัทยักษ์ใหญ่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกง “New World Development หรือ NWD” ที่อ้างว่าสนใจลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในแลนด์บริจด์ (Landbridge) การเงินดิจิทัล (Digital Finance) โดยให้ความสนใจกับแนวคิดริเริ่มทางการเงินดิจิทัลของประเทศไทยเข้าพบ อะไรมันจะพอเหมาะทันสถานการณ์ทันนโยบายรัฐบาลไทยขนาดนั้น…

nn บทบรรณาธิการนสพ.แนวหน้า ประจำวันจันทร์ที่8 กรกฎาคม 2567 ส่งสัญญาณให้รัฐบาล “สำเหนียก” ในประเด็น “การใช้งบฯกว่า 500,000 ล้านบาท เพื่อสร้างพายุหมุนกระตุ้นเศรษฐกิจตามแนวทางในระบอบทักษิณ/ระบอบคอร์รัปชั่นนิยม” จนลืมนึกถึง “โครงสร้างพื้นฐาน”ที่ถูกสร้างขึ้นมาในอดีตทั้ง “โครงสร้างเศรษฐกิจอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด”ที่ส่งอานิสงส์ถึงรัฐบาลบุฟเฟ่ต์คาบิเนต – พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ” หรืออย่าง “เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ “EEC-อีอีซี” ที่ทุนจีนมาสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า มีเป้าหมายการส่งออกในเขตอาเซียนปีละ 150,000 คัน จะบังเกิดสามัญสำนึกไหมหนอจึงอย่าแปลกใจที่สังคมไทยวันนี้ส่งเสียงเพรียกหา “ลุงตู่ – พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา”กันระงม จนผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่เลือก “พิธาคิโอ – พิธาลิ้มเจริญรัตน์”มาอันดับหนึ่งตามสำนวน “ขี้ใหม่หมาหอม” มี “ลุงตู่ –พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ตามมาไม่ห่างนัก ขณะที่อันดับสามกลับเป็น “เศรษฐา ทวีสิน”บริหารประเทศได้ล้ำเลิศ ชาวประชาถึงร้องหาบุคลากรที่นักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่ไม่มีศีลธรรมประณามว่า “เผด็จการรัฐประหาร/ตลกโง่บนเวทีโลก”…

nn ทิ้งท้าย ฉบับนี้ “กัญชา”ยังหาข้อยุติที่ถูกที่ควรไม่ได้ นานวันเข้าก็คงเอากลับเข้าบัญชียาเสพติดอีกกระทอก และหากการเมืองเปลี่ยน ขั้วอำนาจเปลี่ยน “กัญชา”ก็จะถูกนำออกจากบัญชียาเสพติดอีกอย่างนั้นหรือ อย่าอคติ เอาชนะคะคานยึดพื้นฐานผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักตามวิถีทางระบอบประชาธิปไตยเถิด เพื่ออนาคตของเยาวชนและประเทศชาติ…nn

ไม้หน้าสาม