“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า, แนวหน้าออนไลน์/www.naewn a.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ทำความจริงให้ปรากฏ ให้รู้ทันเล่ห์ทันเหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิด, นักเลือกตั้งชังชาติ,ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี, สลิ่มติ่งเสื้อแดงด้อมส้มอย่างเท่าเทียม” เริ่มกันที่ละครบทเดิม เพิ่มเติมคือ “วาทกรรมประดิษฐ์”...
nn กรณีคำวินิจฉัยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่กกต.ร้องให้พิจารณายุบ “พรรคก้าวไกล” ฐานมีพฤติกรรมพฤติการณ์เข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข “พิธาคิโอ-ทิม/พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล “ต๋อม/ชัยธวัช ตุลาธน–ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร” สำรอกสำรากกดดันการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ “...ไม่สามารถก้าวล่วง หรือคาดเดาสิ่งที่เป็นคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่ที่ทำได้คือการยืนยันข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายทางของเรา...และเราเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะได้รับความยุติธรรม เหมือนพรรคหนึ่งที่เคยได้รับมาเมื่อ 14 ปีที่แล้ว...รวมถึงบรรทัดฐานในการพิจารณาเป็นไปตามหลักสากล จึงไม่กังวลตามเหตุการณ์ทางการเมืองที่อาจจะเกิดขึ้นในเดือนนี้ คิดว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะตัดสินตามข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง ตามที่ได้ยินข่าวมา เป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อกฎหมายล้วนๆ” แถไถประดิษฐ์วาทกรรมยังไม่สาแก่ใจ ฉุดกระชากลาก “ไอ้ต้าว” ต่างชาติมากดดันแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทยที่มี “อธิปไตย” อีกต่างหาก...
nn “ไม้หน้าสาม”เชื่อมั่นโดยสุจริตใจว่า “การยุบพรรคการเมือง ไม่ใช่การสลายเจตจำนงของประชาชน" อย่างแน่นอน...แต่การยุบพรรคการเมืองเป็นการลงโทษ “พรรคการเมือง, กลุ่มผลประโยชน์"ที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ เป็นกติกาที่สร้างขึ้นและบังคับใช้กับทุกคนภายในรัฐ เสมอภาคและเท่าเทียมกันทางกฎหมาย การตัดสินของศาลต้องยึดหลักนิติรัฐ บนพื้นฐานหลักนิติธรรม, หลักนิติรัฐ เป็นการคานอำนาจสามฝ่ายอย่างมีระบบ ดำเนินการตามหน้าที่เหมือนอย่างที่ “พรรคก้าวไกล” เคยเสนอให้ “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของลุงตู่/พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” สิ้นสุดลงเหตุตีความว่าดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จำได้หรือไม่??...
nn ที่ผ่านมา “นักการเมืองเสียชาติเกิด”เหล่านี้ก็ทำตัวเป็น “ปรสิต” ประเภทโลนไรเกาะในร่มผ้านักศึกษาหญิง-ชายให้ออกหน้ามาปะฉะดะกับสังคมไทย กล่าวอาฆาตมาดร้ายกล่าวหาสถาบันเบื้องสูง และองค์พระมหากษัตริย์โดยปราศจากข้อเท็จจริง...จะปฏิเสธด้วยวาทกรรมประดิษฐ์ใดๆ ที่สุดความจริงก็ปรากฏเมื่อ “รุ้ง-ปนัสยาสิทธิจิรวัฒนกุล” นักกิจกรรมกลุ่ม “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” แฉสนั่นจอมบงการสารพัดพิษทำผิดปอ.มาตรา 112 เตือนน้องเยาวชน “กลุ่มทะลุแก๊ส-กลุ่มทะลุวัง” กลับใจหาข้อเท็จจริง มั่นใจได้รับอภัยโทษ...
nn “นักการเมืองสารขัณฑ์ชั่วชังชาติเสียชาติเกิด” ที่เบี่ยงเบนความชั่วกระทำผิดบทบัญญัติแห่งกฎหมาย แต่นำองค์กรไอ้ต้าว!?! มากดดัน “องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย”...การโฆษณาชวนเชื่อ ประดิษฐ์วาทกรรมปลิ้นปล้อนสังคมไทยเพื่อรักษาคอกค่ายเป็นเรื่องที่ “ไม้หน้าสาม” รับได้ ทว่า “พรรคก้าวไกล” กลับไร้ศักดิ์ศรี ซุกอุ้ง?? ด้วยการนำทูตยุโรป 18 ประเทศ “ออสเตรีย, เบลเยียม, เช็กเกีย, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮังการี, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, โปแลนด์, โปรตุเกส, โรมาเนีย,สโลวาเกีย, สเปน และ สวีเดน” ชุมนุมสนับสนุนพรรคก้าวไกลก่อนการพิจารณาวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเยี่ยงนี้ถือว่ากดดันการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญไทยหรือไม่ และ/หรือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าพรรคก้าวไกลกระทำผิดกฎหมาย มีคำสั่งยุบ “พรรคก้าวไกล” ตามคำร้องของ “คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)” จะหมายรวมด้วยว่า 18 ประเทศดังกล่าว สนับสนุนนโยบายและกิจกรรมอันเป็นปฏิปักษ์หรือล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ของพรรคก้าวไกลด้วยใช่หรือไม่? หรือกรณียืมมือ “คณะกรรมาธิการกเฬวรากจากสภาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา” มาก้าวก่ายกดดันอำนาจอธิปไตยไทยผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ โดยที่ “พรรคก้าวไกล” ไม่มีปฏิกิริยา/แถลงการณ์ใดๆ ออกมาต่อต้านหรือประณามการใช้อำนาจบาตรใหญ่แทรกแซงกิจการภายในของไทย แสดงว่า “พรรคก้าวไกล”รู้เห็นเป็นใจในเรื่องนี้ด้วยใช่หรือไม่??...
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ “ลม เปลี่ยนทิศ” เขียนเรื่องราว“โครงการเติมเงินคนละ 10,000 บาท ผ่านระบบดิจิทัล วอลเล็ต” ได้อย่างน่าศึกษาและค้นหาคำตอบจากรัฐบาลยิ่งนัก...“ผมเป็นห่วงมากว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของคนไทย 50 ล้านคน กับการสมัครเข้าร่วมโครงการเติมเงินคนละ 10,000 บาท ผ่านกระเป๋าดิจิทัล วอลเล็ต ที่สมัครผ่านทาง แอปฯทางรัฐ ซึ่งต้องสมัครด้วยบัตรประชาชน ต้องถ่ายรูปหน้าบัตรและหลังบัตรที่มีรหัสลับส่วนบุคคล มีการสแกนใบหน้าด้วย ถ้าถูกมิจฉาชีพแฮกไปเมื่อใด หายนะบังเกิดกันทั้งประเทศ เพราะแอปทางรัฐเป็นระบบเปิดที่เชื่อมต่อไปถึงบัญชีธนาคารของทุกคนซึ่งแบงก์ชาติ ได้เคยท้วงติงถึงระบบความปลอดภัย แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีคำตอบ และยังไม่มีใครทราบเลยว่า “แอปทางรัฐ” ที่เก็บข้อมูลประชาชนคนไทย 50 ล้านคน ใครบริษัทไหน เป็นคนทำระบบ??”...“เมื่อพ.ร.ก.ยังไม่เสร็จครม.ยังไม่ผ่าน แต่กดดันชาวบ้านให้ไปลงทะเบียนจะเอารายชื่อไปทำอะไร”/- “เงินไม่มี กฎหมายยังไม่ผ่านกดดันชาวบ้านให้รีบลงทะเบียน...เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิผู้ว่าการแบงก์ชาติ ตั้งสมมุติฐานสงสัย”...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี