วันอาทิตย์ ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ประเทศต่างๆ ที่มีระบอบการเมืองการปกครองในรูปแบบประชาธิปไตยแห่งรัฐสภา (Parliamentary Democracy) ก็จะมีการได้มาซึ่งตัวนายกรัฐมนตรี จากการผ่านการเห็นชอบของสมาชิกรัฐสภา และตัวนายกรัฐมนตรีนั้นมักจะมาจากพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมาก หรือมาจากพรรคการเมืองที่เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลผสม โดยเมื่อได้ตัวนายกรัฐมนตรีแล้ว นายกรัฐมนตรีก็จะไปใฝ่หา รวบรวมและจัดตั้งคณะรัฐมนตรี โดยทั่วไปในสังคมประชาธิปไตยที่ก้าวหน้า ซึ่งบรรดารัฐมนตรีก็มักจะเป็นผู้คนที่มีขีดความสามารถและมีความซื่อตรง
แต่ในหลายๆ ประเทศที่การเมืองแบบประชาธิปไตยยังไม่ค่อยมั่นคงหรือก้าวหน้า ก็มักจะมีเหตุการณ์ของการได้มาของตัวนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทั้งหลายจากเหตุผลของการมีเส้นสาย จะด้วยสายเลือด หรือจะด้วยความจงรักภักดีต่อแกนนำของพรรคการเมืองนั้นๆ ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีด้อยซึ่งคุณภาพ และมักจะทำงานทำการตามคำสั่งของผู้มีพระคุณ เพื่อตอบสนองผลประโยชน์แทนที่จะทำงานทำการเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและปวงชน
ประเทศไทยก็ถือเป็นประเทศหนึ่งที่คณะรัฐมนตรีมักจะด้อยในเรื่องคุณภาพ และความซื่อสัตย์ซื่อตรงต่ออำนาจหน้าที่ เพราะประเด็นปัญหาของระบบอุปถัมภ์และเครือข่ายวงศาคณาญาติ ดังที่ปรากฏเป็นที่แน่ชัดมาโดยตลอดในช่วงหลายๆ สิบปีที่ผ่านมาและเป็นที่ประจักษ์ชัดเป็นที่สุดในปัจจุบันนี้
การที่จะให้มีการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องภายใต้ระบบระบอบปัจจุบันนี้คงเป็นเรื่องยากลำบาก เพราะจุดเริ่มต้นคือบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลายมิได้เป็นพรรคในอุดมการณ์ หรือเป็นพรรคที่มีมาตรฐานเป็นสากล แต่เป็นพรรคที่มีเจ้าของ ซึ่งมักจะเป็นกลุ่มครอบครัว หรือกลุ่มบุคคลที่มีทุนทรัพย์ และมีบารมีและอิทธิพล และเมื่อต้นทางคือพรรคการเมืองอ่อนแอไม่ได้คุณภาพ ก็ย่อมส่งผลต่อเนื่องมายังการด้อยคุณภาพและคุณธรรมของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้งหลาย
ฉะนั้น ก็จะต้องมีการคิดกันใหม่ในเรื่องการให้ได้มาซึ่งคณะรัฐมนตรี ด้วยการสละทิ้งซึ่งระบบวิธีการและขั้นตอนที่เคยมีมาดังกล่าว ซึ่งวิธีการใหม่อันหนึ่งที่อยากจะนำเสนอในบทความนี้ก็คือ การแยกออกอย่างเด็ดขาดระหว่างรัฐสภากับคณะรัฐมนตรีกล่าวคือ ให้รัฐสภาทำหน้าที่ในเรื่องกฎหมายหรือนิติบัญญัติเป็นสำคัญ บวกการควบคุมติดตามตรวจสอบเรื่องงบประมาณและการบริหารราชการของฝ่ายคณะรัฐมนตรี โดยมีอำนาจที่จะดำเนินการในเรื่องถอดถอนคณะรัฐมนตรีได้ ในกรณีที่มีพฤติกรรมที่ออกนอกลู่นอกทาง
ในการนี้เมื่อคณะรัฐมนตรีไม่ต้องมาจากรัฐสภาดังกล่าว คณะรัฐมนตรีก็สามารถมาได้จากการเปิดโอกาสให้มีการสมัครเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมีกระบวนการคัดกรองด้วยการจัดตั้ง Royal Commissionภายใต้ร่มเงา หรือความอุปถัมภ์ขององค์พระมหากษัตริย์และเงื่อนไขที่สำคัญที่สุดของผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าว คือ ชีวประวัติที่ขาวสะอาด ปราศจากความด่างพร้อยใดๆ มีขีดความสามารถและประสบการณ์ที่เป็นที่ประจักษ์และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตและเรื่องความซื่อตรง และในกระบวนการสรรหาคัดเลือกนั้น ผู้สมัครก็ต้องแสดงองค์ความรู้และวิสัยทัศน์เกี่ยวกับประเด็นปัญหาของสังคมไทยและแนวทางที่จะนำพาประเทศไทยให้ก้าวไกลไปข้างหน้า
ทั้งนี้พระมหากษัตริย์ก็จะทรงเป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากหนึ่งรายชื่อหรือหลายๆ รายชื่อก็ได้ จากการเสนอขึ้นทูลเกล้าฯจาก Royal Commission ดังกล่าว และเมื่อได้มาซึ่งตัวนายกรัฐมนตรีแล้ว นายกรัฐมนตรีก็จะต้องไปดำเนินการจัดหารัฐมนตรีต่างๆ ที่จะมาเข้าร่วมทำงานทำการด้วย และตัวนายกรัฐมนตรีจะต้องมีหน้าที่ที่จะจัดหาคนที่ดีที่มีขีดความสามารถและความซื่อสัตย์สุจริตและซื่อตรงเข้ามาร่วม
ทำงานด้วย
การนี้คณะรัฐมนตรีก็จะไม่ต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายรัฐสภาอีกต่อไป และจะเป็นคณะรัฐมนตรีที่จะมีคุณภาพที่ขึ้นตรงต่อปวงชนชาวไทยภายใต้พระบรมเดชานุภาพขององค์พระมหากษัตริย์
รายละเอียดต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่จะต้องมีการปรึกษาหารือกันอย่างกว้างขวาง เพื่อจัดทำระบบที่จะมีความรัดกุม โปร่งใส และยุติธรรม ที่จะอำนวยให้สังคมไทยจะได้เห็นคณะรัฐมนตรีที่เปี่ยมด้วยคุณภาพทั้งในแง่ของขีดความสามารถและในแง่ของศีลธรรมอย่างจริงจัง ไม่เป็นที่สงสัย ก็ขอเชิญมาร่วมกันคิด แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกันครับ

สลด! ลิงกังกัด ชายวัย 63 เสียชีวิตคาบ้าน พบมือยังถือเหล็กยาว มีบาดแผลบริเวณขาซ้าย
ดราม่าสนั่นเครื่องเล่น Skyflyers เสียงกรี๊ดดังโหยหวนยันดึก ชาวชุมชนรอบเอเชียทีคสุดจะทน
เปิดวินาทีไทยแสดงหลักฐาน ทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิด กลางที่ประชุมอนุสัญญาออตตาวา
วันนี้ในอดีต! รำลึก 27 ปี ในหลวง ร.9 เสด็จฯ เปิดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 มิตรภาพไร้พรหมแดน
เตรียมออกหมายเรียก เวย์ ไทเทเนียม รับทราบข้อกล่าวหา ฉ้อโกงทรัพย์ สัปดาห์หน้า

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี