แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระและข้อเท็จจริง...การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ จึงถือว่าเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว ผู้สมัครคนไหนมีอาวุธหนัก มีอาวุธเบาก็ต้องรีบปล่อยกันช่วงนี้...
nn พักนี้จึงเห็น“สทร.1-ทักษิณ” ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย เดินสายช่วยผู้สมัครอย่างถี่ยิบ ไม่ว่าจะไปจังหวัดไหน ก็แกว่งปาก ท้าตีท้าต่อยไปทั่วสดๆ ร้อนๆ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เดินสายไปที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นการแข่งขันกันระหว่างเพื่อไทยกับภูมิใจไทยของ “หนู-อนุทิน”...
nn สทร. ประกาศว่า “วันนี้ผมกลับมาแล้ว ผมเพื่อนเยอะ แต่เพื่อนผมต้องรักประชาชนและประเทศชาติมาก่อน ถ้าเพื่อนผมรักกำไรมากเกินไปก็ต้องเตือน กำไรเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่ารักจนคนไทยแย่ ประเทศแย่วันนี้ผมมาแล้ว ใช้งานผมให้เต็มที่ เหลืออีกเจ็ดปีจะต้องมาใช้หนี้พี่น้องอีสานโดยเฉพาะพี่น้องศรีสะเกษที่อุตส่าห์ ไล่หนูตีงูเห่า ให้ผม เหลืออีกสองตัวเองจัดการให้หน่อย...
nn แกะคำพูดของ สทร. ก็ไม่ต้องตีความอะไรให้ยุ่งยาก เพราะการเลือกตั้งใหญ่สส.เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566จังหวัดศรีสะเกษ มีสส.ได้ 9 คน เพื่อไทย ได้ไป 7 ที่นั่ง ที่เหลืออีก 2 ตกเป็นของภูมิใจไทย ฉะนั้น สทร.จึงอหังการประกาศจะเอาทุกที่นั่ง ไม่ว่าจะเป็นสส. หรือนายก อบจ. โดยไม่ได้แคร์ความรู้สึกของภูมิใจไทย พรรคร่วมรัฐบาลแต่ประการใดทั้งสิ้น ขณะที่ 2 งูเห่าซึ่งน่าจะถูกสทร.พาดพิงเพราะออกจากเพื่อไทยมาอยู่ภูมิใจไทย ก็คือ “ตระกูลไตรสรณกุล”กับ “ตระกูลจึง”...
nn ร้อนถึง “อภิศักดิ์ แซ่จึง” อดีตรองนายก อบจ.ศรีสะเกษ คนจาก “ตระกูลจึง” ต้องออกมาตอบโต้ สทร. “พวกเราตระกูลจึง ไม่รู้ว่าอะไรคืองูเห่า อะไรคือการที่ต้องอยู่ใต้อำนาจของคนใดคนหนึ่งเราคิดว่าเราเลือกทางเดินที่ถูกต้องเสียงของประชาชนเป็นการตัดสินใจว่าเราควรที่จะอยู่ในเส้นทางการเมืองต่อไปหรือไม่ ขอกราบวิงวอนทุกท่านได้ใช้วิจารณญาณในการรับฟัง”...
nn วิวาทะระหว่าง “ทักษิณ” กับภูมิไจไทย ยังไม่จบอยู่เพียงแค่นี้ เพราะที่จังหวัดศรีสะเกษ สทร. ได้ขึ้นเวทีหาเสียงหลายเวที พอน้ำลายแตกฟองก็พูดมันปาก แตะมันทุกประเด็นทั้งการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ไม่เว้นแม้กระทั่งการศึกษา ซึ่งช่วงหนึ่งใช้คำพูดว่า...“วันนี้สิ่งที่ผมห่วงที่สุดคือการศึกษาเด็กไทยระบบการศึกษาเราทำให้เด็กพัฒนาตัวเองในเรื่องของความคิดได้น้อย ก็คงต้องใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย และต้องใช้วิธีเรียนลัดในหลายเรื่อง ถ้าเราเก็บภาษีพนันออนไลน์ได้ มีเงินพอ เราจะจ้างครูเก่งๆ จากต่างประเทศมาช่วยสอน ลูกหลานผมไม่เรียนโรงเรียนไทยแล้ว ไปเรียนอินเตอร์หมด แต่ทำไมลูกหลานคนจนทำไมต้องเรียนโรงเรียนไทยที่ไม่พัฒนาการเรียนการสอนเลย มันไม่แฟร์ใช่ไหม....ดังนั้นผมคิดว่าถึงเวลาแล้ว ถ้ารัฐบาลมีตังค์ก็ควรจะจ้างครูจากต่างประเทศบ้าง ใช้เทคโนโลยีบ้างมาสอนเพื่อให้ครูไทยได้กระตุ้นตัวเอง วันนี้ครูไทยวันนี้มีภารกิจอยู่ 4 เรื่อง คือ 1.เขียนรายงานเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ 2.คอยรับโทรศัพท์ผัดหนี้ ทวงหนี้ 3.ปัญหาครอบครัว 4.ถึงมีเวลาสอนหนังสือ ตนเห็นใจครูแต่วันนี้ระบบเราผิดพลาด กระทรวงศึกษาฯใหญ่เกินไปใหญ่จนการศึกษาเรามีปัญหา ถึงเวลาที่ต้องปรับกันครั้งใหญ่เพื่อให้การศึกษาเพื่อให้ลูกหลานเราโตขึ้นมามีความรู้สึกว่าตัวเองมีโลกที่กว้างขึ้น ไม่ใช่เรียนท่องจำ”... ไม่ต้องตีความอะไรให้ลึกซึ้งหรือยุ่งยากอีกเช่นกัน เพราะสทร. ตั้งใจจะตีกระทบคราดไปถึงภูมิใจไทย ซึ่ง “เพิ่มพูน ชิดชอบ” เป็นรมว.ศึกษาธิการ...
nn ร้อนถึง “สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ” ผู้ช่วยรมต. และโฆษก ศธ.ต้องออกมาตีโต้ว่า “สิ่งที่นายทักษิณ พูดนั้นไม่ใช่ปัญหาใหม่ของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นปัญหาที่มีการพูดคุยกันมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่นายทักษิณ ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ และผ่านมาหลายสมัย...
nn การที่นายทักษิณ ออกมาพูดแบบนี้อาจจะเป็นเทคนิคในการหาเสียง หลังจากหาเสียงจบก็จบอะไรแบบนี้มากกว่า เพราะรัฐมนตรีเราก็ไม่ได้ทำอะไรที่เสียหาย ส่วนผลงานกระทรวงศึกษาฯ ตนเชื่อว่ามีออกมาเรื่อยๆ ถึงแม้ว่ารัฐมนตรีว่าการฯจะไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยให้ข่าว แต่ผลงานก็เห็นเป็นที่ประจักษ์ อย่างเช่น เรื่องการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ แต่ก็ต้องใช้เวลาและต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการซึ่งวันนี้ที่อดีตนายกทักษิณพูดมาทั้งหมด จะแก้ได้ง่ายมาก ถ้ากระทรวงศึกษาฯของบขึ้นไปแล้วไม่ถูกตัดสัก 3 ปี ตนเชื่อว่าจะเห็นเป็นรูปธรรมแน่นอน ไม่ใช่ว่าปีที่แล้วขอคอมพิวเตอร์นักเรียนไป งบถูกตัดเหลือ 0 บาท และงบส่วนใหญ่ที่ได้มาก็จะเป็นเงินเดือนของครูและบุคลากรทางการศึกษา 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ ทำให้ไม่มีเงินนำไปพัฒนาในด้านอื่นเลย แล้วยังจะแก้ปัญหาด้วยการจ้างคนเพิ่ม ตึกที่พังก็ไม่ได้ซ่อม และอุปกรณ์ที่ขาดก็ไม่เคยได้รับงบเพื่อจัดซื้อมาทดแทน เป็นต้น”...
nn “เดอะโต้ง-สิริพงศ์” ตอบโต้สทร.ได้แบบจบครบทุกประเด็น สามารถยืนซดหมัดกับรุ่นใหญ่ได้สมน้ำสมเนื้อ แต่ก็นั่นแหละ ชมรมคนเกลียด “ทักษิณ” อาจจะถึงขั้นฝันใหญ่ คิดไกลไปว่า ภูมิใจไทยมีสิทธิ์จะถูกเขี่ยออกจากรัฐบาลหรือไม่?...
nn “คชสีห์” ตอบแทนได้เต็มปากว่า ไม่มีทาง ยังไงๆ 2 พรรคนี้ก็ต้องกอดคออยู่ร่วมกันไปจนสิ้นสุดอายุขัยรัฐบาล!!...
nn ตบท้ายกันคมความคิดแก้ปัญหาฝุ่นพิษด้วยวาทะเด็ดของ “แพทองธาร” ที่เรียกเสียงครางฮือฮากันทั้งประเทศ “ต้องบอกให้เข้าใจก่อนว่า เรื่องฝุ่นเราทราบและเห็นแล้วว่าฝุ่นกำลังจะมา เราเตรียมตั้งแต่วันแรกที่เป็นนายกฯ เลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่ปีที่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในแต่ละพื้นที่ ฝุ่นไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ของเราว่าทำไมวันนี้มีฝุ่น รัฐบาลทราบอยู่แล้วว่ามีฝุ่นเพราะฉะนั้นก่อนมาเห็นเรียกประชุมกระทรวงที่เกี่ยวข้องหมดแล้ว กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คุยกับชาวบ้านให้เรียบร้อย ย้ำในพื้นที่ว่าจะต้องดูเรื่องฝุ่น เราทำแบบนี้หมดแล้วมากไปกว่านั้น ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนทั้งหมดเราขอความช่วยเหลือทั้งหมดว่าทุกคนร่วมมือกันให้ฝุ่นน้อยลง แน่นอนวันที่ฝุ่นมันเยอะ มันอยู่ในอากาศ เราไม่สามารถดีดนิ้วให้ฝุ่นหายไปได้”.....!!
คชสีห์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี