หมายเหตุ : บทความนี้เดิมชื่อ “วิธีสร้างความสงบสุข ณ ชายแดนใต้” เขียนโดย ศ. (เกียรติคุณ) นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส
1.การสร้างความสงบสุขกับการดับไฟใต้ไม่เหมือนกัน “การดับไฟใต้” เป็นการกระทำที่แยกส่วน ไม่ตรงต่อเหตุ และบ่อยๆ ครั้งใช้ความรุนแรงยิ่งเป็นการโหมไฟ ไฟจึงลุกลามมากขึ้น ไม่เคยดับมา 3 ทศวรรษแล้ว ใช้งบประมาณไปหลายแสนล้าน บางทีการใช้งบประมาณมากอาจทำให้ปัญหายืดเยื้อมากขึ้น เพราะมีบางคนมีรายได้จากการมีปัญหา แต่การ “ร่วมสร้างความสงบสุข” เป็นการมองภาพรวมมากกว่า และต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย
2.สาเหตุของปัญหา ปัญหาความรุนแรง ณ ชายแดนไต้เกิดจากความขัดแย้งระหว่างวัฒนธรรมท้องถิ่นกับอำนาจรัฐรวมศูนย์ วัฒนธรรมมีความหลากหลายไปตามสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกับของท้องถิ่นต่างๆ อำนาจรัฐรวมศูนย์ต้องการให้เหมือนๆ กันโดยใช้อำนาจควบคุม วัฒนธรรม คือ อัตลักษณ์ ของท้องถิ่นต่างๆ เป็นวิถีชีวิตของกลุ่มชนในสิ่งแวดล้อมหนึ่งๆ จะให้เหมือนกันไม่ได้
“คนในเขตร้อนกับเขตหนาวย่อมแตกต่างกันเป็นธรรมดาด้วยความเป็นเหตุเป็นผล ไม่ใช่เกิดขึ้นลอยๆ ความขัดแย้งระหว่างวัฒนธรรมท้องถิ่นกับอำนาจรัฐรวมศูนย์มีอาการต่างๆ กัน คนมุสลิม ณ ชายแดนใต้มีความเคร่งในศาสนามากกว่าภาคอื่นๆ อาการของความขัดแย้งจึงออกมาเป็นความรุนแรง”
3.การกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นและการสนับสนุนท้องถิ่นด้วยความเข้าใจและเห็นใจ การกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นไม่ใช่ทำเฉพาะชายแดนใต้ แต่ทำพร้อมกันทุกท้องถิ่นทั่วประเทศ ขณะนี้แม้มีกฎหมายเลือกตั้ง อบจ. และอบต.หรือเทศบาลตำบล แต่การกระจายงบประมาณยังน้อยมาก หลายอย่างให้ไปใช้งบประมาณท้องถิ่น ส่วนกลางยังคงอำนาจควบคุมการใช้งบประมาณ การศึกษา และงานอื่นๆ จึงยังคงไม่ใช่กรกระจายอำนาจที่แท้จริง ควรมีการกระจายอำนาจให้ชุมชนท้องถิ่นปกครองตามวัฒนธรรมของตนเอง เพิ่มงบประมาณสนับสนุน และการสนับสนุนอย่างอื่น ๆ
“ประเทศจีนทั้งๆ ที่เป็นคอมมิวนิสต์ แต่เขาสนับสนุนให้ชนเผ่าต่างๆ ปกครองตนเอง จัดงบประมาณสนับสนุนท้องถิ่นมากถึง 51% ของงบประมาณประเทศ ท้องถิ่นประเทศจีนจึงมีความเข้มแข็ง ผู้บริหารระดับสูงของประเทศล้วนเคยเป็นผู้บริหารท้องถิ่นมาก่อน และแสดงความสุจริตและมีสมรรถนะสูง จึงจะได้รับเลื่อนขึ้นไปเป็นผู้บริหารระดับสูง รัฐบาลจีนจึงมีคุณภาพสูงและสามารถพัฒนาประเทศให้เข้มแข็งได้โดยรวดเร็ว”
4.นโยบายสันติภาพ ประเทศไทยต้องมีบทบาทในการสร้างสันติภาพโลก เพราะเป็นชาติที่มีน้ำใจ มีความยืดหยุ่น และประนีประนอม จึงมีความสามารถในการทูตสูง สามารถเอาตัวรอดจากการรุกรานจากมหาอำนาจตะวันตกได้ มหาอำนาจตะวันตกมีความขัดแย้งกับชาวมุสลิมมาตั้งแต่สงครามครูเสด และบัดนี้ก็ยังพยายามก่อให้เกิดความแตกแยกรุนแรงในประเทศมุสลิม เราเป็นมิตรกับทุกประเทศก็จริง แต่ก็ต้องระวังมิให้พาเราเข้าไปสู่ความขัดแย้งดังกล่าวด้วย ประเทศไทยควรเป็นพันธมิตรกับประชาคมมุสลิม 1,500 ล้านคน ในการสร้างสันติภาพโลก
5.การสนับสนุนทางเศรษฐกิจและสังคม นอกเหนือไปจากการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นปกครองตามวัฒนธรรมตนเอง และนโยบายสันติภาพดังกล่าว รัฐไทยยังควรสนับสนุนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังสามารถสนับสนุนทางเศรษฐกิจ สังคม ได้อีกหลายอย่าง เช่น 5.1 สร้างบริษัทอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลขนาดใหญ่ ที่สามารถส่งอาหารฮาลาลปัตตานีไปขายทั่วโลก โดยสร้างอาชีพในการส่งวัตถุดิบจากการเกษตรและการประมงให้โรงงานอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลปัตตานี และให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนใต้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทนั้น
เพื่อความภูมิใจในยี่ห้อฮาลาลปัตตานีที่กระจายไปทั่วโลก และยังสร้างรายได้ให้ชาวปัตตานีทุกคน ควรมีการโฆษณาในจุดแข็งของอาหารฮาลาลปัตตานีว่า ผลิตอย่างเคร่งศาสนา ได้รับการตรวจจากทางวิทยาศาสตร์ว่าปราศจากเนื้อหมู มีความอร่อยของอาหารไทย 5.2 การศึกษาทางศาสนานั้นชุมชนท้องถิ่นมุสลิมเป็นผู้จัดเอง แต่ถ้าต้องการการศึกษาเพื่ออาชีพด้วยรัฐเป็นผู้จัดให้ 5.3 เด็กผู้หญิงทุกคนได้เข้าเรียนผู้ช่วยพยาบาล 1 ปี จบแล้วมีงานทำ มีเงินเดือนด้วย ได้ดูแลพ่อแม่ปู่ย่าตายายด้วย และ 5.4 ส่งเสริมการกีฬาและดนตรี ระหว่างมุสลิมด้วยกันเองหรือร่วมกับชาวพุทธ
ทั้งนี้ ด้วยการปรึกษาหารืออย่างใกล้ชิดกับนักวิชาการผู้ใหญ่ฝ่ายมุสลิม เช่น ท่านอาจารย์อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา ท่านเป็นนักวิชาการที่มีชื่อเสียงระดับโลกมุสลิม การมีเสรีภาพในการปกครองตัวเองของท้องถิ่น กับการได้รับการสนับสนุนทางสังคมอย่างอบอุ่น ใครจะแยกตัวเป็นอิสระอีก อิสระมีอยู่ในเนื้อในตัวอยู่แล้ว มีสิ่งดีๆ ในวัฒนธรรมอิสลามที่ชาวพุทธควรจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยมิตรไมตรี
การมีชุมชนมุสลิมที่รักสันติภาพในประเทศไทย จะทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งในการสร้างสันติภาพโลก!!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี