หากคนไทยไม่ดัดจริตจนออกหน้า ให้หันมาสำรวจเครื่องใช้ในบ้าน หม้อหุงข้าว ตู้เย็น ทีวี. พัดลม และ เครื่องใช้จิปาถะว่ามีอะไรบ้างที่ซื้อมาจากอเมริกา
หากมองบนท้องถนนทั่วประเทศไทย รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์นับร้อยล้านคัน ส่วนใหญ่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ มาเลเซีย และประเทศไทย นานๆ เราจะเห็นรถยนต์ฟอร์ด
หรือ เชฟโรเลต ผลิตในอเมริกา แล่นผ่านหน้าเป็นบุญตาสักคัน
แม้โทรศัพท์มือถือซึ่งกลายเป็นปัจจัยที่ห้าของคนไทย ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ เกาหลีใต้ ไต้หวัน และในประเทศไทย มีน้อยครั้งได้เห็นคนใช้ไอโฟนของอเมริกา
ดังนั้น เมื่อสหรัฐอเมริกา โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ใช้มาตรการขึ้นภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อแก้แค้นประเทศอื่นได้ดุลการค้าสหรัฐมานาน
ประธานาธิบดีทรัมป์ จึงตั้งเป้าหมายตามอำเภอใจว่า จะเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศไหน ในอัตราเท่าไหร่ ตั้งแต่ 10% ขึ้นไปถึง 145% กับประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นเป้าใหญ่ในการทำสงครามการค้าของอเมริกา
ประเทศไทยซึ่งไม่เล็กแต่ไม่ใหญ่นัก ได้ดุลการค้าสหรัฐ แค่ห้าพันแปดร้อยกว่าดอลลาร์ ซึ่งอยู่อันดับที่สิบของประเทศได้ดุลการค้าสหรัฐ ที่คนไทยไม่ควรดัดจริตหวั่นไหว ตีโพยตีพายเกินไปเพราะเป้าหมาย ปธน.ทรัมป์คือจีนแผ่นดินใหญ่ที่ได้ดุลการค้าสหรัฐหลายแสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากคนอเมริกันนิยมซื้อสินค้าผลิตจากประเทศจีน มากกว่าสินค้าที่ผลิตในอเมริกา
แม้แต่หมวกสีแดงที่อเมริกันคลั่งชาติ สวมกันในปัจจุบัน มีตัวหนังสือเขียนว่า America Great Again แต่เมื่อพลิกดูด้านในมีตราสีขาวเขียนว่า Made In China นั้น หมายความว่า มาตรการขึ้นภาษีศุลกากรถ้วนหน้า มันกลับมาทำร้ายคนอเมริกันโดยตรง
2 เมษายน วันที่ประธานาธิบดี ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรถ้วนหน้ากับทุกทวีปทั่วโลกมากน้อยลดหลั่นกันไปตามความพอใจของสหรัฐ ดังที่รู้กันทั่วไป ประเทศไทยถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 36% น้อยกว่า กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม อย่างไรก็ตามประเทศไทยต้องเสียภาษีแพงกว่า ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และ มาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศอาเซียนด้วยกัน
ประเทศต่างๆ ทั่วโลกวิ่งเต้นล็อบบี้ เจรจาต่อรองกันให้พล่าน เพราะ ปธน.ทรัมป์ขู่ว่า “อย่าคิดตอบโต้การขึ้นภาษีของสหรัฐเป็นอันขาด”
ปธน.ทรัมป์ เหมือนอเมริกันชนทั่วไป ที่หลงใหลในคำโฆษณาชวนเชื่อของตัวเอง (Believe in his own propaganda) ถึงกับคุยโวว่า หลายประเทศวิ่งเต้นกันให้พล่าน หลายคนอ้อนวอนว่า..“โปรดอย่าขึ้นภาษีเลย ผมยินดีจะดมตูดท่านก็ได้ถ้าไม่ขึ้นภาษี..ได้โปรดกรุณา..”
แต่ ปธน.หารู้ไม่ว่า คำโฆษณาชวนเชื่อของเขาเหมือนบูมเมอแรง ที่ยิ่งขว้างไปแรงยิ่งพุ่งเข้าตัวเร็ว ตั้งแต่เขาประกาศขึ้นภาษีถ้วนหน้า ตลาดหุ้น ตลาดทุนในอเมริกาและทั่วโลกผันผวนอย่างหนัก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเงินหายไปจากตลาดหลายล้านดอลลาร์ ตลาดหลักทรัพย์หุ้นตกถึงพื้น พันธบัตรอเมริการาคาตกต่ำเป็นประวัติการณ์
พอถึงวันอังคารที่ 8 เมษายน จู่ๆ ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศชะลอขึ้นภาษีศุลกากรทั่วโลกอีก 90 วัน
ไม่กี่ชั่วหลังจาก ปธน.ทรัมป์ ประกาศ ชะลอการขึ้นภาษีไปอีก 90 วัน ตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐ ดีดตัวสูงขึ้นอย่างมหัศจรรย์
หุ้นในตลาดหลักทรัพย์วอลล์สตรีทขึ้นสูงทันที ที่ทรัมป์ประกาศ ชะลอขึ้นภาษีศุลกากร ตลาดพันธบัตรเพิ่มขึ้นกว่า 8% ตอนบ่ายวันพุธที่ 9 อุตสาหกรรม Dow Jones โดยเฉลี่ยกระโจนสูงขึ้น 2,721 จุด หรือ 7.23% ในขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite สูงขึ้นกว่า 11%
เมื่อนักข่าวถามว่า ทำไมตลาดหลักทรัพย์ร้อนแรง หลังจากประธานาธิบดี ชะลอขึ้นภาษี 90 วัน ปธน.ทรัมป์ ตอบว่า “ผมคิดว่าประชาชนกระโดดข้ามเส้นไปเล็กน้อย” และชี้แจง
เหตุผลที่ชะลอขึ้นภาษี 90 วัน ว่า “ประชาชนรู้สึกหวาดกลัว และสับสนเล็กน้อย..แต่พวกเขารู้ว่าต้องมีงานทำ” ทรัมป์คุยต่อว่า “ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนไหนเคยทำสำเร็จได้เท่าผม...และมันต้องสำเร็จ” เขาพูดถึงการแกว่งตัวของตลาดพันธบัตรด้วยว่า “ประชาชนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยกับความไม่แน่นอนเรื่องภาษี”
ข้อความโพสต์บน Truth Social ทรัมป์ ระบุว่า ชะลอการขึ้นภาษี 90 วัน แต่ยังเก็บภาษี 10 กับ 75 ประเทศตามกำหนดเดิม ถึงแม้จีนตอบโต้มาตรการภาษีเต็มที่ เขากล่าวด้วยว่า ขึ้นภาษีนำเข้าจีน 125% “ฐานที่จีนขาดความเคารพ ที่จีนแสดงออกต่อตลาดการค้าโลก”
ด้านรัฐมนตรีคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ ยืนยันขณะพูดกับนักข่าว เมื่อวันพุธที่ 9 ว่า “นี่เป็นยุทธศาสตร์ของประธานาธิบดีตลอดมา” และสิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ใช้ภาษีศุลกากรตอบโต้ หลังจากจีนตอบสนองด้วยการขึ้นภาษี 104% ต่อสินค้านำเข้าจากอเมริกา
จีนแผ่นดินใหญ่ไม่พูดพร่ำทำเพลง ไม่เจรจาต่อรองใดๆ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากอเมริกา 104% นอกจากนั้น จีนประกาศควบคุมการส่งออกแร่หายาก 7 ชนิดทันที เช่น ซามาเรียม,
ดิสโพรเซียม และอีกหลายชนิด ซึ่งใช้ได้ทั้งในภาคพลเรือนและการทหาร
กระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า มาตรการนี้เพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ และเป็นแนวทางที่ประเทศอื่นๆ ก็ใช้กัน จีนยังยืนยันพร้อมคุยกับต่างประเทศ เพื่อให้การค้าระหว่างประเทศยังดำเนินไปได้อย่างถูกต้องตามกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก หรือ WTO
วัตถุประสงค์องค์การการค้าโลก (World Trade Organization) WTO ทำหน้าที่กำหนดการค้าระหว่างประเทศให้มีความเสรียิ่งขึ้น ภายใต้หลักการไม่เลือกปฏิบัติ มีความโปร่งใสเท่าเทียมกัน และใช้ระบบฉันทามติ (consensus) รวมทั้งมีกระบวนการยุติข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศ
ปักกิ่งซึ่งกล่าวว่าความเปลี่ยนแปลงจะมีผลทันทีจากวันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน และเรียกร้องให้ประเทศต่างๆสามัคคีกันคัดค้าน การขึ้นภาษีศุลกากรของทรัมป์ ในขณะประเทศส่งออกได้รับผลกระทบจากภาษีที่สูงขึ้น..
“ความสามัคคีของทั่วโลกจะมีชัยต่อทรราชการค้า” จีน ระบุในบทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ทางการ ไชน่า เดลี่ โดยที่จีนไม่ขอความร่วมมือกับญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และประเทศเศรษฐกิจใหญ่ในเอเชีย การเรียกร้องอีกทางที่แยกออกไปคือขอให้สหภาพยุโรปทำงานร่วมกับจีน “เพื่อยึดมั่นในหลักการค้าเสรีและหลักการค้าพหุภาคี”
สงครามการค้าของสองยักษ์ใหญ่ มันสำคัญและยิ่งใหญ่เกินไปที่ทั้งจีนและสหรัฐ จึงไม่ชะม้ายชายตามาที่รัฐบาลฝึกงานในประเทศไทย เมื่อกลางเดือนเมษายน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง
เดินทางมาเยือน เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย แต่ไม่แวะประเทศไทย เข้าใจว่าท่านสี จิ้นผิง ไม่มีประเด็นอะไรจะพูดกับไอแพด เนื่องจากว่าท่านเคยเตือนแล้วว่า กาสิโนเป็นภัยต่อประเทศชาติ ไอแพดยังเถียงว่ามีกาสิโนแค่ 10% เอง
สงครามการค้าครั้งนี้ประเทศไทยจึงไม่อยู่ในเรดาร์ของสหรัฐ จีน และแม้แต่ประเทศในอาเซียนด้วยกัน
ดังนั้นคนส่วนน้อยที่ใช้สินค้าผลิตในอเมริกา อย่าดัดจริตโวยวายให้มากเกินไป ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีประเทศไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการส่งอุยกูร์กลับ
ซินเจียง หรือการจับกุมนายพอล แชมเบอส์ นักวิชาการชาวอเมริกันที่ทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 112
กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ไม่มีกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือกฎหมายปกป้องสถาบัน ประเทศเหล่านั้นไม่มีกรณีส่งอุยกูร์กลับบ้าน แต่ต้องเสียภาษีนำเข้าให้สหรัฐอเมริกา มากกว่าประเทศไทย เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ขออยู่ในโลกความเป็นจริง ลดดัดจริตลงได้แผ่นดินไทยจะสูงขึ้น
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี