แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
■■ การทำงานใดๆ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ควรอย่างยิ่งที่จะตั้งเป้าหมาย ขอบเขต และหลักการไว้ให้แน่นอน เพราะจะช่วยให้สามารถปฏิบัติมุ่งเข้าสู่ผลสำเร็จได้โดยตรง และถูกต้องพอเหมาะพอดี เป็นการป้องกันและขจัดความล่าช้า ความสิ้นเปลือง ความเสียเปล่า ทุกอย่างได้สิ้นเชิง และเมื่อปฏิบัติดำเนินงานสู่เป้าหมายนั้น ผู้มีการศึกษาต้องไม่ละทิ้งหลักวิชา ไม่ละทิ้งความคิดพิจารณาตามเหตุผลและความชอบธรรมถูกต้อง เพราะการละเลยต่อสิ่งเหล่านั้น จะทำให้ปฏิบัติผิดพลาด ไม่ได้ผล หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นได้ ยิ่งถ้าเป็นการจงใจปฏิบัติทวนหลักการ หลักวิชา และหลักความชอบธรรม ด้วยอคติอย่างหนึ่งอย่างใด ก็จะมีผลเป็นการทำลายเกียรติภูมิของตน พร้อมทั้งทำลายประโยชน์และความเจริญมั่นคงของส่วนรวมไปทันที... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 17 กรกฎาคม 2530)...
■■ นับเป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งของตลาดหุ้นไทย เพราะเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 หลังจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 ให้ แพทองธาร ชินวัตร ยุติการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว แต่กลับกลายเป็นว่าดัชนีหุ้นไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 20 จุด นับว่าเพิ่มมากที่สุดในบรรดาตลาดหุ้นเอเชีย แต่ก็ขอเตือนให้ระมัดระวังตัวให้ดี อย่าผลีผลามเข้าไปในตลาดหุ้นไทยระยะนี้ เพราะอาจจะกลายเป็นแมลงเม่าติดดอยสูงจนหนาวตายคายอดดอย แต่ก็มีเสียงสนับสนุนดัชนีหุ้นไทยว่า เหตุที่เพิ่มขึ้นเพราะนักลงทุนเห็นทิศทางของการเมืองไทยชัดเจนกว่าเดิม เพราะที่ผ่านมาคลุมเครือจนมั่วมัวมึนตลอดเวลา แต่ก็มีอีกเสียงบอกว่าตอนนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยมากกว่าช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา ก็ได้แต่หวังว่านักท่องเที่ยวที่ไหลกลับเข้ามาไทยคงไม่ใช่นักท่องเที่ยวจำพวกจีนดำ จีนเทา จีน scammer จีน call center...
■■ ยังคงมีคำถามกันตลอดเวลาว่าทำไม ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหลังม่าน ผู้กำกับบท แพทองธาร ชินวัตร แต่ขอย้ำว่าทักษิณคืออดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ในปัจจุบันคือนักโทษคดีอาญาที่ได้รับสิทธิพิเศษเหนือบรรดานักโทษทั้งประเทศ คำถามคือ ทำไมทักษิณไม่ยอมเปิดปากปะฉะดะกับฮุนเซน นายกรัฐมนตรีตัวจริงของกัมพูชา ตามสไตล์ทักษิณผู้มีวาจาเชือดเฉือน ใครแรงมากูแรงไป ใครแตะต้องกูแม้แต่เท่าปลายก้อย กูต้องเอาคืนแบบไม่ไว้หน้า แต่ทำไมทักษิณปิดปากนิ่งเงียบเมื่อถูก ฮุนเซน แสดงความหยามเหยียด แพทองธาร มาโดยตลอด แถมยังแสดงอาการกร้าวเข้าใส่ ทักษิณ อีกด้วย แต่ทักษิณยังนิ่งเงียบจนน่าอัศจรรย์ใจ เหตุที่ทักษิณนิ่งเงียบ เพราะว่ากลัวฮุนเซน หรือว่ามีไม้เด็ดจะเล่นกลับฮุนเซน แต่คอข่าวที่ติดตามพฤติกรรมทักษิณมาโดยตลอดบอกตรงกันว่าทักษิณกลัวฮุนเซนมากกว่า เพราะหากไม่กลัว ก็ไม่มีวันที่ทักษิณจะหุบปากปล่อยให้ฮุนเซนเล่นหนักอยู่ฝ่ายเดียว...
■■ ทักษิณ ชินวัตร ไปศาลอาญา รัชดาฯ วันที่สองแล้ว เพื่อต่อสู้คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 112 รวมถึงความผิดต่อพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ กรณีทักษิณให้สัมภาษณ์รายการทีวีของเกาหลีใต้ เมื่อปี 2558 โดยมีเนื้อหาพาดพิงดูหมิ่นดูแคลนสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย แต่น่าสนใจตรงที่ว่าทักษิณไปศาลทำไม ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในช่วงสืบพยานฝ่ายโจทก์ เพราะจริงๆ แล้วทักษิณไม่นิยมการไปศาล ส่วนการสืบพยานฝ่ายจำเลยจะเริ่มในสัปดาห์หน้า ทนายความของทักษิณ คือ วิญญัติ ชาติมนตรี บอกนักข่าวที่ไปรอทำข่าวนี้ว่า ทักษิณบอกว่าจะไปศาลทุกนัดจนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการบนศาล...
■■ แต่ต้องบอกและย้ำว่าจริงๆ แล้วทักษิณไม่นิยมไปปรากฏตัวบนศาล เพราะขนาดคดีป่วยทิพย์ชั้น 14 ทักษิณยังไม่ไปศาลด้วยตัวเองเลย แต่สำหรับคดีนี้มีเสียงเล่าลือว่าทักษิณต้องการไปศาลด้วยตัวเป็นๆ เพราะต้องการแสดงให้พยานฝ่ายโจทก์เห็นแล้วเกิดอาการเกรงจนเกร็ง เพราะฝ่ายจำเลยเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีผู้อวดอ้างว่าตนเองรวยล้นฟ้า รวยแล้วไม่โกงประเทศ แถมยังมีผู้มีบารมีมากมายจนสามารถชักใยอยู่เบื้องหลังนายกรัฐมนตรีในสังกัดชินวัตรได้ตั้งหลายคน...
■■ ขอกลับไปพูดเรื่อง แพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีชั่วคราวตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมีคำถามว่าในเมื่อ แพทองธาร มีปัญหาด้านจริยธรรมของการเป็นนายกรัฐมนตรีตามคำฟ้องของสมาชิกวุฒิสภากลุ่มหนึ่ง แล้วแบบนี้จะยังสามารถรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้หรือ เพราะคำว่ามีปัญหาข้อน่าสงสัยในเรื่องจริยธรรมของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็น่าจะครอบคลุมไปถึงการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีใดๆ ด้วย เพราะตามกฎหมายนั้น เวลาพูดถึงนายกรัฐมนตรีก็หมายความถึงรัฐมนตรีคนหนึ่งในคณะรัฐมนตรีด้วย เพราะฉะนั้นรอดูก็แล้วกันว่า แพทองธาร จะรับตำแหน่งรัฐมนตรีวัฒนธรรมได้อย่างสะดวกโยธินโดยไม่มีผู้ร้องเรียนเรื่องจริยธรรมหรือไม่...
■■ แผนกระตุ้นเศรษฐกิจไทยด้วยการชวนคนไทยเที่ยวไทย ด้วยกลยุทธ์เที่ยวไทยคนละครึ่ง น่าจะไม่ประสบความสำเร็จเสียแล้ว เพราะปัญหาเยอะแยะมากมาย มีอุปสรรคสารพัดสารพัน คนที่ต้องการใช้สิทธิ์บ่นตรงกันว่าปวดหัวมากกับการเข้าร่วมโครงการนี้ เพราะต้องติดต่อกับสารพัดสารพันเว็บไซต์ มาล่าสุดพบว่าโรงแรมจำนวนมากประกาศไม่ร่วมโครงการนี้ โดยประกาศว่าหยุดรับจองสิทธิ์ตามโครงการชั่วคราว ทั้งๆ ที่รัฐบาลให้สิทธิ์ผู้ร่วมโครงการนี้ 5 แสนราย ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดให้สมัครใช้สิทธิ์วันแรกคือ 1 กรกฎาคม 2568 เริ่มเวลา 08.00 น. แต่จากการเข้าไปสำรวจการใช้สิทธิ์ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ในเวลา 09.00 น. พบว่ามีผู้เข้าไปใช้สิทธิ์เบาบางมาก โดยมีผู้ใช้สิทธิ์เพียงประมาณหนึ่งหมื่นกว่ารายเท่านั้น คำถามคือมันเกิดอะไรขึ้น ทั้งๆ ที่ผ่านมาเมื่อเปิดให้ใช้สิทธิ์แบบนี้ จะมีการแย่งกันใช้สิทธิ์เต็มจำนวนภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง การที่คนไม่เข้าไปใช้สิทธิ์นี้เพราะว่ามันใช้สิทธิ์ยากเย็นแสนเข็ญ เพราะวุ่นวายซับซ้อนจนเวียนหัว หรือเป็นเพราะว่าคนไม่สนับสนุนโครงการของรัฐบาลเป็ดง่อย...
■■ ไม่ต้องดูอะไรให้มากความไป ดูจากโรงแรมแห่งหนึ่งของคนตระกูลชินวัตร (เดิมมีชื่อแพทองธาร ชินวัตร เป็นเจ้าของอยู่ด้วย) ที่อยู่เขาใหญ่ โคราช ที่เคยตกเป็นข่าวทำโรงแรมบนที่ดินที่น่าจะมีปัญหาเรื่องที่ ส.ป.ก. ขอบอกว่าโรงแรมของคนตระกูลชินวัตรยังขึ้นป้ายบนระบบอินเตอร์เนตว่า โรงแรมยังอยู่ในช่วงรอการพิจารณาจากโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง หากโรงแรมได้รับการยืนยันจากโครงการเรียบร้อยแล้วจะเปิดให้จองโดยทันที...
■■ อดิศักดิ์ ตันติวงศ์ รับตำแหน่งประธานศาลฎีกาคนใหม่ หลังจากได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) โดยมีมติเป็นเอกฉันท์จากประชุม ก.ต. เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ทั้งนี้ อดิศักดิ์จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 หลังจาก ชนากานต์ ธีรเวชพลกุล พ้นจากตำแหน่งวันที่ 30 กันยายน 2568 ประวัติการศึกษาของอดิศักดิ์ จบนิติศาสตรบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเนติบัณฑิตไทย ตำแหน่งล่าสุดก่อนจะเข้ารับตำแหน่งประธานศาลฎีกาคือประธานศาลอุทธรณ์...
■■ ชาวสวนกุหลาบวิทยาลัย และคณะรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ร่วมแสดงความยินดีกับ ดาโต๊ะรัชฎา จิวาลัย อดีตกงสุลใหญ่ไทยประจำเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย ที่ได้รับรางวัลเชิดชูระดับนานาชาติ ครั้งที่ 7 ประจำปี 2568 (INPenang International Outstanding Achievers Awards 2025) จัดขึ้นเมื่อ 21 มิถุนายน 2568 ในฐานะชาวต่างชาติ ผู้ทำคุณประโยชน์ให้รัฐปีนังและชาวปีนัง นับเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลเกียรติยศนี้ รางวัลนี้มอบให้ชาวต่างชาติหรือองค์กรต่างชาติเพื่อเชิดชูเกียรติผู้มีผลงานดีเด่นในด้านธุรกิจและอุตสาหกรรม ศิลปวัฒนธรรม ผู้นำการพัฒนาสังคม และการออกแบบและนวัตกรรม ย้อนกลับไปเมื่อ 27 กรกฎาคม 2567 กงสุลใหญ่รัชฎาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งความจงรักภักดีต่อรัฐ (Darjah Satia Pangkuan Negeri-DSPN) มาแล้ว จึงมีคำนำหน้านามว่า ดาโต๊ะ...■■
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี