วันนี้... “วันนวมินทรมหาราช” 13 ตุลาคม 2568
วันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
เราได้เห็นภาพพี่น้องประชาชนคนไทย ร่วมถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9)ด้วยพวงมาลัย
ดอกไม้โทนสีเหลือง หรือสีขาว
ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
เดิม เคยเป็นสนามม้านางเลิ้งนั่นเอง
บัดนี้ การก่อสร้างอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ คืบหน้าไปมาก
จนไม่น่าเชื่อว่า ครั้งหนึ่ง จะมีคนไทยจำนวนหนึ่งไปหลงเชื่อคำโกหกของศาสดาล้มเจ้า ที่ปั่นข่าวเท็จว่า สนามม้านางเลิ้งจะถูกก่อสร้างเป็นคอมเพล็กซ์
และยิ่งไม่น่าเชื่อว่า ปัจจุบัน ยังมีนักการเมืองและคนบางกลุ่ม คบหา หลงเชื่อน้ำลายของศาสดาล้มเจ้าคนเดิมอยู่ต่อไปอีก
สงสัยว่า มันต้องดักดานขนาดไหน ถึงถูกเขาใช้น้ำลายสร้างวาทกรรมโกหกซ้ำซาก เซาะกร่อนบ่อนทำลาย แล้วยังหลงใหลต่อไปอีก
บางคน หลงเชื่อศาสดาส้มล้มเจ้า แล้วนำไปขยาย ผิดกฎหมาย ติดคุกติดตะราง แล้วดันผ่าไปโทษกฎหมาย
ไม่ยักไปโทษไอ้คนที่สร้างเรื่องโกหกสารพัด หลอกจนตัวเองหลงเชื่อ !!!
1. ล่าสุด สวนสาธารณะ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร.9) มีความคืบหน้าแล้วกว่า 80%
คาดว่า จะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2569
กลางปีหน้าแล้ว
2. อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สร้างบนพื้นที่อดีต “สนามม้านางเลิ้ง”
เป็นที่ดินในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานให้เป็นสวนสาธารณะเพื่อประโยชน์สุขแก่ปวงชน
ครอบคลุมพื้นที่ 279 ไร่
โครงการเริ่มพัฒนาแบบตั้งแต่ปี 2561
เกิดขึ้นจากพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
ทรงตั้งพระราชหฤทัย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ให้เป็นแหล่งเรียนรู้แนวพระราชดำริของทั้งสองพระองค์ ผ่านองค์ความรู้ เรื่อง “ป่าและน้ำ”
ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในการออกแบบสวน
จะเป็นสถานที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ได้พระราชทานไว้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของมนุษย์กับธรรมชาติ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
เป็นสถานที่ศึกษาเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป
3. อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนี้ เป็นที่ตั้งของพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
เป็นหัวใจและศูนย์กลางของอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
มีแนวคิดการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อาทิ
สระน้ำรูปเลข 9
สะพานหมายเลข 9 เป็นเส้นทางเดินภายในนำสู่พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ
สะพานหยดน้ำพระทัย น้ำพระราชหฤทัย ดั่งสายน้ำที่หล่อเลี้ยงคนไทยมาตลอด 70 ปี
สะพานไม้เจาะบากง จำลองสะพานไม้จากบ้านเจาะบากง อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงงานเมื่อพุทธศักราช 2524
แก้มลิง พื้นที่รองรับน้ำในยามที่เกิดวิกฤตอุทกภัย
สวนป่าธรรมชาติ ที่สอดรับกับแนวคิดเรื่องป่าและน้ำ
บริเวณของอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ออกแบบให้ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ กว่า 4,500 ต้น
จัดวางคล้ายคลึงป่าธรรมชาติ ปลูกไม้ที่มีความหมายและมีประโยชน์ อาทิ การปลูกพืชกรองฝุ่น การปลูกไม้โตเร็ว เพื่อสร้างร่มเงา ต้นไม้ประจำจังหวัด ไม้หายาก
พืชบำบัดน้ำ สร้างระบบนิเวศ ที่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
ภายในสวน จะมีเส้นทางเดินและวิ่ง ทางปั่นจักรยาน มีสนามออกกำลังกายกลางแจ้ง ลานกิจกรรมและนันทนาการ ลานริมน้ำ
ตลอดจนร้านค้า จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ลานจอดรถ และส่วนอำนวยความสะดวก มีการใช้พลังงานทดแทน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาบริหารจัดการเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน
4. ก่อนหน้านี้ สถานที่ตรงนี้ เป็นสนามม้านางเลิ้ง หรือ ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ปิดฉากลง และมีการแข่งขันม้าในนัดสุดท้าย วันที่ 16 กันยายน 2561
จากนั้น ส่งมอบพื้นที่คืนสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์
เริ่มรื้อถอนในเดือนมีนาคม 2562
นักวิชาการศาสดาล้มเจ้า ฉวยโอกาสช่วงเปลี่ยนผ่าน ปั้นน้ำเป็นตัว ใส่ร้ายป้ายสีสถาบัน
หวังเซาะกร่อนบ่อนทำลาย
สอดประสานกับพรรคการเมือง มวลชนบางกลุ่ม ชูสามนิ้ว
ขยายข่าวเท็จเพื่อสร้างความไม่พอใจแก่สถาบัน ยกระดับสู่วาทกรรมปฏิรูปสถาบัน
การเปลี่ยนแปลงที่สนามม้านางเลิ้ง คือ หนึ่งในเรื่องราวที่ปั้นแต่งใส่ร้ายสถาบันอย่างหน้าด้านที่สุด
ถึงวันนี้ แนวร่วมม็อบสามนิ้ว พรรคส้ม ต่างไม่เคยตำหนิ หรือประณามนักวิชาการศาสดาล้มเจ้านั่นเลยแม้แต่น้อย
พยายามหาประเด็นอื่นมาบิดเบือน ปลุกปั่นต่อไป
ยังหาเหยื่อที่เป็นเยาวชนมาหลงเชื่อวาทกรรมเท็จ แล้วไปทำผิดกฎหมาย และใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่นแก้กฎหมายมาตรา 112 หรืออ้างปฏิรูปสถาบันต่อไป
บางคน ยังอมน้ำลายศาสดาล้มเจ้ามามาพ่น ปากเก่งว่า “ยกเลิก 112 สิ แล้วจะเล่าให้ฟัง” ทั้งๆ ที่ ไอ้ศาสดาหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศแล้ว ยังไม่มีปัญญาหาข้อมูลความจริงมากล่าวหาอย่างมีหลักมีฐาน คงได้แต่เอาข่าวเท็จ ปั้นน้ำเป็นตัว ใส่ร้ายโดยปราศจากหลักฐานข้อเท็จจริงไปวันๆ
ความจริงที่ประจักษ์จากอุทยานฯ ร.9 ควรเป็นแสงสว่างขับไล่ผีร้าย ที่พยายามหลอกหลอนคนไทย ตามแนวทางเซาะกร่อนบ่อนทำลาย
แต่น่าเวทนา... ขนาดความจริงชัดเจน เป็นรูปธรรม จับต้องได้ขนาดนี้ ยังมีคนหลงเชื่อวาทกรรมของพวกเซาะกร่อนบ่อนทำลาย อยู่อีก
ดักดาน คงน้อยเกินไป
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี