อีสปสุดขำถึงขั้น “หัวเราะเอิ๊กอ๊ากจนน้ำหูน้ำตาไหล” ครั้งนี้สาเหตุมาจาก นิทานของตนที่เล่ามายาวนานกว่า 3,000 ปี บัดนี้มีสองเรื่องอมตะได้กลายเป็น “คำสอนที่เป็นจริง” แก่นักการเมืองสารขัณฑ์ บางพรรคการเมืองอย่าง “เจ็บจี๊ด”

“เรื่องแรก เนื้อก้อนใหญ่ในปากหมา”

“กาลครั้งหนึ่ง” มีหมาตัวหนึ่งไปขโมยเนื้อมาจากตลาดสด ขณะวิ่งอยู่บนสะพานข้ามลำธาร มันก็เห็นเงาตัวเองอยู่ในน้ำ “คาบเนื้อก้อนใหญ่” ที่อยู่ในปากของมัน ก็เกิดความโลภขึ้นมาอย่างฉับพลัน อ้าปากแยกเขี้ยว หมายจะแย่งเนื้อก้อนใหญ่ จากปากหมาที่อยู่ในน้ำ

ฉับพลันที่มันอ้าปาก เนื้อก้อนในปากก็ตกน้ำจมหายไปแล้วทันทีทันใด หมาตัวใหญ่ในน้ำและเนื้อก้อนใหญ่ในปากหมาก็หายวับไปกับตา หมาขี้ขโมยจึงสูญเสียทั้งเนื้อก้อนในปากและเนื้อก้อนที่อยู่ในน้ำ

“นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า โลภมากลาภหาย” แต่อีสปกลับสอนใหม่ว่า “บนปกคือภาพความจริง ในน้ำคือภาพลวงตา”

ดังนั้น พรรคเสื้อแดงจะได้สส. ต่ำกว่า 70 คือภาพความจริงแต่จะได้สส.เกิน 200 คือภาพลวงตาที่ ส.สุริยะชี้ให้ “มาดามเฟียสหลงดีใจ”

“เรื่องที่สอง กวางสาวตาเดียว”

“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว” กวางสาวตัวหนึ่งบนเกาะกลางทะเลชื่นชอบอย่างยิ่งที่จะไปดูดวงอาทิตย์โผล่พ้นทะเลในยามเช้า

แล้วเช้าวันหนึ่ง ขณะที่กวางสาวดูดวงอาทิตย์อย่างแสนสุข มันก็เหลือบไปเห็นนายพรานคนหนึ่ง กำลังโก่งธนูจะยิงมาที่กวางสาว

กวางสาวจึงวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว แล้วกระโดดเข้าไปแอบอยู่ในพงหนามที่หนาทึบ โดยหนามคมแหลมได้ทิ่มตาข้างซ้ายของกวางสาวบาดเจ็บและบอดสนิท

แต่กวางสาวก็ยังทนเจ็บยอมแอบอยู่ในดงหนามจนถึงยามเย็น เมื่อมันใช้ตาข้างที่บอดสนิทมองออกมาไม่เห็นนายพราน กวางสาวจึงออกจากพงหนามกลับไปสู่ที่พัก

หลังจากตาข้างซ้ายที่บอดสนิทหายบาดเจ็บ กวางสาวก็กลับมาดูดวงอาทิตย์โผล่พ้นทะเลในทุกยามเช้าเหมือนเดิมด้วยตาข้างขวา

วันหนึ่งขณะที่กวางสาวชมทะเลอย่างเพลิดเพลิน มันก็ตกใจในทันทีทันใด เพราะเห็นโจรสลัดกลุ่มหนึ่งกำลังพายเรือมุ่งหน้ามาที่ชายหาด และหลายคนโก่งธนูเล็งมาที่กวางสาว

ด้วยความกลัวตาย กวางสาวรีบย้ายสายตาข้างซ้ายที่บอดสนิทมองออกไปทางทะเล ทำให้กวางสาวไม่เห็นโจรสลัดอีกแล้ว มันจึงเกิดความมั่นใจว่า “ตนเองพ้นภัย”

แต่อนิจจา มีลูกธนูสุดแหลมคม พุ่งมาเสียบคอกวางสาวอย่างรวดเร็วจนทำให้กวางสาวล้มตายอย่างฉับพลัน

“นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า มองไม่เห็นด้วย ใช่ว่าอันตรายจะจบ”

“อีสปสุดขำ” ตรงที่พบว่า “มาดามเฟียส” กำลังใช้ตาข้างที่มองไม่เห็น มองไปที่ศัตรูทางการเมือง(ที่ไม่เห็น) ว่าไม่เป็นภัยต่อตัวเองแล้ว?”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม