“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เอฟซี ฉลองการได้แชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างยิ่งใหญ่สมค่าแห่งการรอคอยหลังจากไล่ถลุง “สิงห์บลูส์” เชลซี ไปอย่างสนุก 5-3 พร้อมกับงานฉลองแชมป์หลังการแข่งขันที่สนามแอนฟิลด์ ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันพุธที่22 กรกฎาคมที่ผ่านมา
พิธีมอบแชมป์นั้น เซอร์เคนนี่ ดัลกลิช ผู้ที่นำ ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ครั้งล่าสุด เมื่อ 30 ปีก่อน ถือถ้วยมาพร้อมกับริชาร์ด มาสเตอร์ส ซีอีโอของพรีเมียร์ลีกที่จัดขึ้นเป็นพิเศษฝั่งค็อป สแตนด์ ก่อนจะมีการมอบเหรียญรางวัลให้กับคณะนักบอลและทีมงาน โดย เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือขึ้นมาเป็นคนแรกและจอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมขึ้นมาเป็นคนสุดท้าย ก่อนจะชูถ้วยแชมป์ที่รอคอยมานานถึง 3 ทศวรรษ ท่ามกลางแสงสีเสียงที่ตระการตา
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมต่อต้านเด็กบู ฟื้นฟูเฮฟวี่ เปิดเผยว่า ได้เวลาที่เดอะ ค็อป จะฉลองด้วยกัน, อยู่บ้านอย่างปลอดภัย และดื่มให้เต็มที่ตามที่คุณต้องการ แล้วหลังจากหมดเชื้อโควิด-19 เราจะฉลองด้วยกัน
“จะให้พูดอะไรดีนะเหรอ เอาเป็นว่า นี่คือการทำเพื่อทุกคน ผมเชื่อว่าทุกคนมองเห็น เมื่อ 5 ปีก่อน ผมขอให้คุณมีความเชื่อมั่น จากข้อกังขาต่างๆ มากมาย แล้วพวกคุณก็ทำได้ ขอบคุณทุกคนอย่างมากที่ทำให้ทุกอย่างมาในทิศทางเดียวกัน
30 ปีที่รอคอย : “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ฉลองแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019/20 อย่างยิ่งใหญ่ นับเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 19 ของสโมสร ขณะที่บริเวณหน้าสนาม แอนฟิลด์ เหล่าแฟนบอลมาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง
“เราจะมีปาร์ตี้กันอย่างแน่นอน แต่คุณต้องรอให้ไว้รัสบ้าบอนี้ผ่านพ้นไปก่อน และเมื่อถึงตอนนั้นคุณเตรียมตัวได้เลย สำหรับผมตลอดรอบปีที่ผ่านมาเราได้แชมป์ 4 รายการ มันคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก โดยปกติแล้วผมจะไม่ถ่ายรูปตัวเอง แต่ครั้งนี้ผมต้องถ่ายเก็บเอาไว้ เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักกับตำแหน่งแชมป์นี้”
ขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมจอมทุ่มเท กล่าวว่า นี่คือเวลาที่รอคอยนี้มันจบแล้ว ผมรอมายาวนานกับการเดินทางอันสุดวิเศษ และสุดมหัศจรรย์ของพวกเรา เพราะถ้วยนี้คือความฝันของผมตั้งแต่เด็กๆ ซึ่ง 1 ในเหตุผลของการย้ายมา ลิเวอร์พูล ของผมก็ด้วยเหตุผลนี้
“ผมเดินขึ้นมารับถ้วยรางวัลด้วยหัวใจที่ตื่นเต้น มันมหัศจรรย์มาก ความทรงจำแบบนี้ โมเมนท์แบบนี้มันยิ่งใหญ่ และผมขอขอบคุณครอบครัวที่เคียงข้างผม การเฉลิมฉลองแชมป์ครั้งนี้พิเศษอย่างที่สุดจริงๆ”
“เรามีทีมที่ยอดเยี่ยมมากๆ ใน 3 ปีหลังนี้ ทุกคนช่วยให้ผมพัฒนาขึ้นมาได้เยอะ ผมขอยกเครดิตให้กับทุกคน และผมโชคดีอย่างมากๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสโมสรแห่งนี้”
สำหรับแชมป์ทั้ง 19 สมัย ของ ลิเวอร์พูล มีดังนี้ 1900-01,1905-06, 1921-22, 1922-23, 1946-47, 1963-64,1965-66, 1972-73, 1975-76, 1976-77, 1978-79, 1979-80, 1981-82, 1982-83, 1983-84, 1985-86, 1987-88, 1989-90 และ 2019-20
ขณะเดียวกัน ตำรวจเมอร์ซี่ย์ไซด์ ไม่สามารถควบคุมฝูงชนแฟนบอลที่ออกมารอบๆ สนามแอนฟิลด์ หลังจากอดทนรอคอยแชมป์นี้มาอย่างยาวนาน พร้อมกับมีการจุดพลุไฟอยู่หลายครั้ง ตลอดการแข่งขัน แม้จะมีการเตือนเรื่องกลัวผู้คนออกมาแล้วจะติดโควิด-19 แต่ด้วยความอัดอั้นที่รอแชมป์มานานทำให้แฟนบอลแห่กันมาที่รอบ ๆ แอนฟิลด์หลายพันคน
ทางด้านการลุ้นพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยังคงระอุและต่อเนื่องต่อไป เมื่อ แมนฯยูไนเต็ด ทำได้แค่เสมอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในบ้านตัวเอง 1-1 ทำให้ แมนยูฯ แม้จะขึ้นไปอยู่ที่ 3 เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้นับจากนัดแรกของการแข่งขัน แต่ก็ยังต้องลุ้นหนักกันต่อไปในเกมสุดท้าย ที่พวกเขาจะยกพลไปดวลกับ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งตอนนี้ แมนยูฯ มี 63 แต้มประตูได้เสีย บวก 28, เชลซี 63 แต้มเท่ากัน แต่ประตูได้บวก13 ลูก และ เลสเตอร์ 62 แต้ม ประตูบวก 28
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี