ผ่านพ้นปีเก่า ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 2561 เชื่อว่าหลายคนน่าจะตั้งเป้าหมายดีๆ สำหรับปีใหม่นี้กันเอาไว้แทบทุกคน และเชื่อว่าการเงินเองก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่คนส่วนใหญ่นิยมตั้งกันอยู่ไม่น้อย
เก็บเงินได้มากขึ้น ลดหนี้ให้น้อยลง ซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ออกรถสำหรับเอาไว้ใช้งาน เก็บเงินเรียนต่อ เริ่มต้นลงทุนในทรัพย์สินที่สนใจ ฯลฯ
กล้ารับประกันได้เลยว่า หลายคนมีเป้าหมายในลักษณะนี้ อยู่ในเส้นชัยปี 2561 กันแน่ๆ
ประเด็นที่อยากจะคุยวันนี้ ไม่ใช่เรื่องเป้าหมาย เพราะคิดว่ามีคนพูดให้ฟัง หรือเขียนให้อ่่านกันเยอะอยู่แล้ว สิ่งที่อยากพูดถึงให้แตกต่างจากคนอื่นก็คือ
การทบทวนอดีต...เพื่อเรียนรู้ที่จะก้าวไปในอนาคตได้อย่างที่ต้องการ
ในฐานะโค้ชการเงิน ผมเจอคนที่ตั้งเป้าหมายทางการเงินดีๆ เป็นประจำทุกปี แต่หลายครั้งที่ทำกันไม่สำเร็จ แล้วก็ใช้เป้าหมายเดิมๆ วนไปเรื่อยๆ ตั้งเป้าหมายเดิม วิธีการที่คิดที่ใช้ ก็แบบเดิมๆ จึงยากที่ผลลัพธ์จะแตกต่าง สุดท้ายก็ได้แค่หยิบเป้าหมายเดิมมาเป็นเป้าหมายปีต่อๆ ไป ไม่รู้จบ
ที่แย่ คือ แทนที่เราจะเติบโตขึ้นในทุกมิติที่ตั้งใจเอาไว้ ตามอายุ และประสบการณ์ แต่เอาเข้าจริง เรากลับวนอยู่กับที่ ไม่ก้าวหน้าไปไหนเลย
ที่เป็นเช่นนี้เพราะคนส่วนใหญ่ มองไปข้างหน้า โดยปราศจากการทบทวนและเรียนรู้จากเรื่องราวในอดีต
ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างเรื่องการเก็บออมเงิน มีน้องที่รู้จักกันคนหนึ่งตั้งเป้าหมายมาหลายปีแล้วว่า จะมีเงินเก็บอย่างน้อย 100,000 บาทตอนสิ้นปี และตั้งใจจะเก็บเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี
ผลลัพธ์จริงที่เกิดขึ้นก็คือ แม้จะเป็นคนที่มีรายได้ค่อนข้างสูง แต่เอาเข้าจริง เธอเก็บเงินไม่ได้สักที เมื่อถามถึงวิธีการเก็บเงิน เธอนิ่งคิด ก่อนตอบว่า มันต้องมีวิธีการด้วยเหรอ
หลายคนเป็นแบบนี้จริงๆ นะครับ ตั้งเป้าหมาย แต่ไม่ได้กำหนดวิธีการ หรือก็มีบ้างที่กำหนดวิธีการ แต่เป็นวิธีการที่ไม่เหมาะหรือไม่ตรงกับนิสัย หรือไลฟ์สไตล์ของตัวเอง หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไม่รู้จักตัวเอง และสร้างวิธีการสู่เป้าหมายให้เป็นแบบของตัวเองจริงๆ
หลังนั่งคุยทบทวนกันจริงๆ จังๆ เธอบอกว่าที่ผ่านมาเธอไม่เคยมีวิธีการอะไร คิดแค่ว่า เดี๋ยวใช้เหลือก็ค่อยเอาเงินไปออม สุดท้ายทั้ง 12 เดือน (ตลอดทั้งปี) เธอไม่เหลือเงินออมเลย แถมยังเป็นหนี้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้นเสียด้วย
“ทำแบบนี้มาหลายปีแล้ว ยังเชื่อมือตัวเองอยู่อีกเหรอ? ว่าจะใช้จนเหลือพอเก็บเงินได้ การคาดหวังสิ่งใหม่ๆ จากการกระทำเดิมๆ มันเป็นเรื่องเสียเวลาในชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์นะ ถ้าเป้าหมายเรื่องการเก็บเงินเป็นสิ่งที่เราต้องการจริงๆ มีเหตุผลอันหนักแน่นรองรับ ลองคิดหาวิธีใหม่ๆ ที่จะเปลี่ยนตัวเองและเปลี่ยนวิธีการของตัวเองดู” ผมบอกกับน้อง
สุดท้ายเราได้พูดคุยกันถึงเหตุผลที่เธออยากเก็บเงิน เธอบอกว่าเธอห่วงอนาคตตัวเองวันข้างหน้า ว่าถ้าเลิกทำงานแล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้ ถ้าไม่เก็บไว้ตั้งแต่ตอนนี้ แล้วเธอก็ยอมรับกับผมว่า เธอเคยเชื่อว่าตัวเองเป็นคนมีเหตุมีผล ควบคุมตัวเองได้ แต่พอเอาเข้าจริง ตัวเธอเผลอจับจ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น และไม่คิดฝันไว้ล่วงหน้าอยู่เสมอ
“เวลาตั้งเป้าหมายแล้วทำไม่ได้ รู้สึกยังไงบ้าง” ผมถาม
“แอบไม่ภูมิใจกับตัวเอง รู้สึก fail บางครั้งรู้สึกเริ่มไม่เชื่อถือ ไม่นับถือตัวเอง” เธอบอก
หลังจากชัดเจนว่า เธอมีเหตุผล (WHY) ในการกำหนดเป้าหมายชัดเจน และเริ่มรู้จักตัวเองจากการทบทวนผลลัพธ์ในหลายปีที่ผ่านมา เราจึงมาช่วยกันหาวิธีการทำให้เธอเก็บเงินให้ได้ตามเป้าหมาย
ผมลิสต์วิธีการต่างๆ เป็นสิบวิธี เพื่อให้เธอเลือกมาใช้สัก 2-3 วิธี ในแบบที่เธอรู้สึกว่าเหมาะกับตัวเอง ไม่หนัก และบีบตัวเองจนเกินไป สุดท้ายเธอเลือก 3 วิธี ดังต่อไปนี้ครับ
ทำการผูกบัญชีเงินเดือนกับบัญชีกองทุนรวมตราสารหนี้ (เน้นลงทุนพันธบัตร) โดยกำหนดให้ตัดเงินจากบัญชีเธอทันทีในวันเงินเดือนออก เป็นเงิน 10% ของรายได้
ทุกครั้งที่ได้รับเงิน หรือเงินทอนเป็นธนบัตรใบละ 50 บาท (Lucky Note) เธอจะไม่ใช้และนำมันมาเก็บออมทุกครั้ง
ทุกครั้งที่ใช้จ่ายไปกับสิ่งฟุ่มเฟือย เช่น ทานข้าวร้านอาหารแพงๆ หรือซื้อกระเป๋าที่ชอบ เธอจะคิดภาษีตัวเอง 10% ของค่าใช้จ่าย นำไปเก็บออมเพิ่มเสมอ
วิธีที่ 1 ทำให้มั่นใจว่า จะเก็บออมเงินได้แน่ๆ ในจำนวนเริ่มต้นที่ไม่บังคับตัวเองจนเกินงาม
วิธีที่ 2 ทำให้การเก็บเงินเป็นเรื่องสนุก ตื่นเต้น มีลูกเล่นกับการเก็บออม
วิธีที่ 3 เป็นการผ่อนปรนกับตัวเองให้ฟุ่มเฟือยได้บ้าง แต่ก็มีเรื่องของการเก็บภาษีตัวเองมาไว้คอยเตือนสติ
สุดท้ายในปี 2560 เธอเก็บเงิน 100,000 บาทได้จริงๆ และเอาเข้าจริงเกิน 100,000 บาท ไปเยอะเสียด้วยสิ วันก่อนหน้าที่จะส่งต้นฉบับเธอส่งข้อความมาขอบคุณผม ผมบอกกลับไปว่า “ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก ขอบคุณตัวเองเถอะ เพราะเธอต่างหากที่ตัดสินใจเปลี่ยนแปลง ผลลัพธ์จึงเป็นอย่างที่เห็น”
ใครที่ตั้งใจทำอะไรมาแล้วหลายปี แต่ยังไม่สัมฤทธิ์ผล ผมว่าทบทวนตัวเองก่อนดีกว่า แล้วค่อยนั่งคิดถึงเป้าหมายใหม่ (หรือ เป้าหมายเดิมที่ reuse มาใช้) ว่าจะปรับเปลี่ยนวิธีการอย่างไร ให้ตรงและสอดคล้องกับนิสัย รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
เริ่มต้นปีใหม่ปีนี้ ขอให้คุณผู้อ่านทุกคน มีเป้าหมายที่ทรงพลัง มีวิธีการที่จะช่วยให้เป้าหมายประสบความสำเร็จได้จริง และที่สำคัญ ขอให้รักษาความมุ่งมั่นให้อยู่กับตัวเองได้ตลอดปี
ขอเป้าหมายที่นำมาซึ่งความสำเร็จและความสุข จงสถิตอยู่กับคุณผู้อ่านทุกคนครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี