คนทุกคนในสังคมต้องสามารถเข้าถึงการได้รับบริการสาธารณะโดยเท่าเทียมกัน ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะเป็นชาย หญิง เด็ก ผู้สูงอายุ หรือแม้กระทั่งคนที่มีรสนิยมทางเพศหลากหลายตามที่เขาเหล่านั้นต้องการ รวมถึงคนพิการทุกประเภท ภายใต้สังคมบูรณาการ
บูรณาการ คือการทำให้เป็นเนื้อเดียวกันโดยรวมหรือการผสมผสานส่วนต่างๆ เข้าด้วยกัน ส่วนคำว่า สังคมบูรณาการ (Inclusive Society) หมายความว่า สังคมเดียวกันโดยรวมหรือผสมผสานส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกันโดยไม่แบ่งแยกออกจากกันเพื่อจุดประสงค์คือความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันของสังคม
นายมณเฑียร บุญตัน รองประธานคนที่ 1 ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการกิจการคนพิการ ได้กล่าวในการสัมมนาเรื่อง สังคมบูรณาการเพื่อคนพิการและทุกคนในสังคม ว่าหากกำหนดให้คนพิการเป็นตัวชี้วัดความสุขของสังคม ย่อมจะเป็นสิ่งที่ดีต่อสังคม ดังนั้นจึงต้องขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการให้หมดไป และส่งเสริมความเสมอภาคให้มากขึ้น เพราะการเลือกปฏิบัติจะทำให้ผู้พิการสูญเสียโอกาส และเสียเปรียบการที่จะทำให้สังคมมีความร่มเย็นเป็นสุขได้นั้นทุกคนต้องมีความเสมอภาคและความเท่าเทียมกัน
ส่วนเรื่องสำคัญอีกประการหนึ่งคือการเข้าถึง(Accessibilities) การได้รับบริการต่างๆ ของคนพิการอย่างเท่าเทียมกับคนทั่วไป เช่น การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ การจัดสภาพแวดล้อมที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ เป็นต้น โดยหลักการก็คือ การทำให้ที่อยู่อาศัย การขนส่งสาธารณะ สามารถเข้าถึงบริการข้อมูลข่าวสาร เทคโนโลยีและสารสนเทศได้
จึงเห็นสมควรให้นำเรื่องดังกล่าวไปบัญญัติไว้ในกฎหมายเพื่อให้มีการบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรม และต้องสร้างกลไกหรือตัวเชื่อมสำหรับการบริการต่างๆ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐแบบบูรณาการร่วมกันในรูปแบบศูนย์บริการคนพิการทั่วไปโดยไม่สังกัดกระทรวง ทบวง กรม โดยให้ทำหน้าที่ส่งเสริมความเสมอภาค ขจัดการเลือกปฏิบัติ ส่งเสริมการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมสาธารณะต่างๆ ได้และเห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 เพื่อผลักดันให้คณะอนุกรรมการขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการมีฐานะเป็นคณะกรรมการขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการ และมีการปฏิรูปกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้มีฐานะเป็นนิติบุคคล เป็นมืออาชีพมีอิสระ มีธรรมาภิบาล เพื่อป้องกันการเรียกเงินงบประมาณคืนโดยรัฐบาล ตามพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. 2558
สถานีพัฒนาสังคมสัปดาห์นี้ นำเสนอข้อเสนอแนะจากเวทีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2558 ของสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ซึ่งจัดที่จังหวัดอุตรดิตถ์ และจากการประชุมนี้ได้คัดเลือกให้นายมณเฑียร บุญตัน เป็นนายกสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทยด้วย
นายสมชาย เจริญอำนวยสุข อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ บรรยายเรื่อง นโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการว่ากรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) เป็นหน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการตามนโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยมุ่งเน้นเรื่องสำคัญ ดังนี้ให้โอกาสสำหรับคนพิการเข้าถึงบริการสาธารณะต่างๆ ที่รัฐหรือองค์กรต่างๆ จัดให้ เช่น
ทางลาด ลิฟต์ เป็นต้น และส่งเสริมการสร้างศักยภาพโดยการรณรงค์ให้ภาครัฐและภาคเอกชนทำการจ้างงานคนพิการในอัตราส่วน 100 ต่อ 1 คนแต่ยังพบว่ามีภาครัฐและภาคเอกชนบางแห่งอ้างว่าไม่ทราบว่ามีกฎหมายให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว จะเห็นได้ว่า เป็นข้ออ้างที่ไม่อาจรับฟังได้เพราะว่า พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖ ได้บัญญัติให้การรับรองไว้แล้ว นอกจากนี้ภาครัฐและภาคเอกชนบางแห่งยังอ้างว่า คนพิการไม่มีคุณสมบัติตรงตามตำแหน่งที่กำหนดไว้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการพัฒนาศักยภาพคนพิการเพื่อรองรับกับตำแหน่งงานเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ภาครัฐและภาคเอกชนควรให้โอกาสคนพิการได้ประกอบอาชีพในตำแหน่งอื่นๆ ที่คนพิการสามารถประกอบอาชีพได้ เช่น งานด้านธุรการงานด้านคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ต้องเพิ่มทักษะและหาตัวช่วยในการดำรงชีวิตให้คนพิการ รวมถึงจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศสำหรับคนพิการ ให้งบประมาณช่วยเหลือจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการทั้งในส่วนของเงินกู้ยืม และงบประมาณช่วยเหลือสร้างบ้าน โดยในพ.ศ. ๒๕๕๘ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้งบประมาณสนับสนุนการสร้างบ้าน จำนวน ๒,๔๘๔ หลัง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๖๐ พรรษา
และที่สำคัญคือต้องให้เกียรติคนพิการคนพิการต้องได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับคนปกติทั่วไป และให้กำลังใจกับคนพิการ
นายอนุชา รัตนสินธุ์ นายกสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย กล่าวว่าจากการทำงานในฐานะนายกสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทยได้รับความร่วมมือจากองค์กรหลายๆ องค์กรเป็นอย่างดี แม้ว่าในสถานการณ์ปัจจุบันสำหรับคนพิการทุกประเภทจะดีขึ้นกว่าในอดีตก็ตาม แต่ก็ยังปรากฏว่ามีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการอยู่ โดยเฉพาะเรื่องการเข้าถึงและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลข่าวสาร เทคโนโลยีและสารสนเทศ และสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะอื่นๆ ล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญและมีผลกระทบโดยตรงต่อคนพิการทุกประเภทโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมายยังมีข้อจำกัดด้านการสื่อสารอยู่ จึงส่งผลให้คนพิการไม่ได้รับการจ้างงานอย่างเต็มที่
โดยส่วนใหญ่แล้วคนพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมายจะได้รับการจ้างงานในหน่วยงานส่วนกลางมากกว่าในหน่วยงานส่วนภูมิภาค ดังนั้นจึงขอเสนอให้นายกสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทยคนต่อไปมุ่งเน้นและคำนึงถึงการจ้างงานให้ครอบคลุมคนพิการที่อยู่ในสภาคนพิการทุกประเภทในแต่ละจังหวัดด้วย และการทำงานต่อไปในอนาคตข้างหน้าคนพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมายมีความพร้อมที่จะทำงานร่วมกันแบบบูรณาการกับคนพิการทุกประเภท นอกจากนั้นยังเห็นควรให้สภาคนพิการทุกประเภทในแต่ละจังหวัดมีการจัดโครงสร้างภายในองค์กรเช่นเดียวกับสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเภทไทยเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านคนพิการต่อไป
นางนุชจารี สว่างวรรณ กรรมการและนายทะเบียน สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในมุมมองขององค์กรเพื่อผู้บกพร่องทางจิตหลายๆ องค์กรควรทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ ส่วนองค์กรใดที่มีความเข้มแข็งอยู่แล้ว ก็จะทำหน้าที่เป็นองค์กรที่คอยให้ความช่วยเหลือองค์กรที่ยังไม่มีความเข้มแข็งหรือองค์กรที่เกิดใหม่มีข้อสังเกตว่าสมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตนั้นมีเครือข่ายอยู่ทุกจังหวัด แต่ในบางจังหวัดยังไม่มีความพร้อมและความเข้มแข็งเพียงพอ อีกทั้งยังจะต้องเผชิญกับปัญหาและข้อจำกัดทางด้านครอบครัวและสังคม ในขณะเดียวกันสมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทยและองค์กรเพื่อผู้บกพร่องทางจิตในระดับภูมิภาคก็ได้พยายามผลักดันและสร้างความเข้าใจให้กับครอบครัวและสังคมมาโดยตลอด เพื่อที่จะทำให้ผู้ป่วยที่มีความบกพร่องทางจิตสามารถกลับมายืนอยู่ได้ในสังคม
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือการประกอบอาชีพของผู้บกพร่องทางจิต ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนน้อยมาก โดยส่วนใหญ่แล้วอาชีพที่เหมาะสมสำหรับผู้บกพร่องทางจิตก็คืออาชีพอิสระ เพราะว่าผู้ป่วยจะต้องบริโภคยาอยู่ตลอด และผลจากการบริโภคยาอาจส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดอาการง่วงนอนและอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานในระบบได้
นายต่อพงศ์ เสลานนท์ อุปนายก คนที่ 1 สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาสำคัญสำหรับคนพิการคือ อุปสรรคทั้งที่เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมและความยากจน จึงไม่สามารถทำให้คนพิการสร้างสภาวะที่จะหลุดพ้นจากความยากจนได้ ดังนั้นคนพิการต้องพยายามลดอุปสรรคโดยการปลดเปลื้องตนเองออกจากความยากจน และสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเพื่อกระจายสู่ท้องถิ่นให้ได้ ดังนั้น จึงเห็นควรผลักดันเรื่องดังกล่าวไว้ในแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ฉบับที่ 5
นายศุภชีพ ดิษเทศ อุปนายก คนที่ 4 สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทยกล่าวว่า บทบาทขององค์กรด้านคนพิการในการขับเคลื่อนสังคมบูรณาการเพื่อคนพิการและทุกคนในสังคมภายหลังจากที่มีการบังคับใช้กฎหมายด้านคนพิการตั้งแต่ในอดีตจนกระทั่งถึงปัจจุบัน องค์กรด้านคนพิการได้พยายามผลักดันมาโดยตลอด เพื่อที่จะให้คนพิการได้รับโอกาสเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ก็ยังพบว่ามีอุปสรรคสำหรับการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติในระดับภูมิภาค และยังขาดแคลนงบประมาณอุดหนุนจากหน่วยงานภาครัฐอยู่ นอกจากนี้องค์กรด้านคนพิการต่างๆ ควรจะมีการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ
หมายเหตุ ขอแสดงความยินดีกับนายมณเฑียร บุญตัน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รองประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 1 และประธานคณะอนุกรรมาธิการกิจการคนพิการ ที่ได้รับการเลือกเป็นคณะกรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการของสหประชาชาติ วาระปี 2560-2563 โดยมีการคัดเลือกเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ (Convention on the Rights of Persons with Disabilities-CRPD) สมัยที่ 9 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกานายมณเฑียร ผู้สมัครจากประเทศไทยได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี