วันพฤหัสบดี ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิด เขียน คุย
คิด เขียน คุย

คิด เขียน คุย

รุ่งเรือง ปรีชากุล
วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
หัวหน้าโจรกับทาสโจรสุมหัวปล้นประเทศไทย

ดูทั้งหมด

  •  

      เกี่ยวกับโครงการแจกเงิน“ดิจิทัล วอลเล็ต 1 หมื่นบาท” เห็นได้ชัดว่าใครเป็นพระเอกใครเป็นโจร ระหว่างแบงก์ชาติกับรัฐบาล

แบงก์ชาติหรือธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับเงิน 5 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยจะปล้น ธ.ก.ส. จำนวน 1.72 แสนล้านบาทและเบียดบังงบประมาณรายจ่ายของแผ่นดินปี 2567 จำนวน 1.75 แสนล้านบาท รวมทั้งงบประมาณปี 2568 อีกจำนวน 1.52 แสนล้านบาท มาแจก

ธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีหน้าที่หลักในการบริหารจัดการให้ระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย โดยเฉพาะมีบทบาทที่จะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน


ด้วยเหตุนี้จึงตัดปัญหาไปได้ว่าแบงก์ชาติจะมีผลประโยชน์กับโครงการนี้ จะมีก็อย่างเดียวเท่านั้น คือผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง

ความเห็นที่ ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำหนังสือลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอเป็นความเห็นประกอบการพิจารณาในคณะรัฐมนตรี ก่อนหน้าที่คณะรัฐมนตรีจะมีมติเห็นชอบรับหลักการโครงการ“ดิจิทัล วอลเล็ต”ในวันรุ่งขึ้น มีเนื้อหาบ่งบอกชัดเจนถึงผลลบของโครงการนี้ โดยสรุปก็คือ

ประการแรก โครงการเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต 1 หมื่นบาท จะก่อให้เกิดภาระทางการคลังจำนวนมากในระยะยาวและหากไม่สามารถรักษาเสถียรภาพภาระหนี้ภาครัฐได้ จะเพิ่มความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือซึ่งหากไทยถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ จะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมภาครัฐและภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในภาพรวม

ประการที่สอง การดำเนินโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ที่ใช้วงเงินงบประมาณสูงถึง 5 แสนล้านบาท จะทำให้ความสามารถในการดำเนินนโยบายการคลังอื่นของรัฐบาลลดลง และมีความเสี่ยงที่จะมีงบประมาณ ไม่เพียงพอรองรับในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งแบงก์ชาติเห็นว่า การเพิ่มวงเงินกู้ปีงบประมาณ 2568 จนเกือบเต็มกรอบที่กฎหมายกำหนด (วงเงินกู้ปี 2568 จำนวน 7.13 แสนล้านบาท)ทำให้เหลือวงเงินกู้ได้เพียงแค่ประมาณ 5 พันล้านบาทเท่านั้น เมื่อเทียบกับวงเงินคงเหลือเฉลี่ยในปีก่อนๆ ที่มากกว่า 1 แสนล้านบาท

และนอกจากนั้น การจัดสรรวงเงินจากงบประมาณปี 2567 ที่จะนำมาใช้ในโครงการนี้ จะทำให้งบกลางสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือกรณีจำเป็นลดลง จนอาจไม่เพียงพอรองรับกรณีฉุกเฉิน โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์การเมืองโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง และภาวะภัยธรรมชาติที่มีความรุนแรงมากขึ้น

ประการที่สาม ถือว่าเป็นข้อเสนอแนะของแบงก์ชาติ ที่เห็นว่าการดำเนินโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งอาจกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของรัฐบาลดังที่กล่าวนั้น หากรัฐบาลดึงดันจะทำให้ได้ ก็ควรดำเนินการในขอบเขตที่ครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลือเท่านั้น เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ, ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง

ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายดังกล่าว แบงก์ชาติเน้นไปที่กลุ่มเปราะบางซึ่งรายได้ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 15 ล้านคน ในส่วนนี้สามารถดำเนินการได้ทันที โดยใช้งบประมาณเพียงแค่ 1.5 แสนล้านบาท

ประการสำคัญที่สุด แบงก์ชาติเห็นว่า รัฐบาลควรพิจารณาถึงความคุ้มค่าของการนำงบประมาณ 5 แสนล้านบาท ไปใช้ลงทุนในโครงการที่จะแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างและยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ดังต่อไปนี้

โครงการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ (ใช้วงเงิน เฉลี่ย 3.8 ล้านบาทต่อตำแหน่ง) จะสามารถสร้างบุคลากรทางการแพทย์ได้กว่า 130,000 ตำแหน่ง, โครงการ เรียนฟรี 15 ปี สำหรับนักเรียนทั่วประเทศ (83,000 ล้านบาทต่อปี) จะสามารถสนับสนุนได้นานถึง 6 ปี, โครงการรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม - ชุมพร (40,000 ล้านบาทต่อสาย) จะพัฒนาได้กว่า 10 สาย และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (190,000 ล้านบาทต่อสาย) จะพัฒนาได้กว่า 2 สาย เป็นต้น

น่าเสียดายและน่าเศร้าใจที่รัฐบาลไม่ฟังข้อเสนอแนะของแบงก์ชาติ กลับยืนกรานที่จะทำให้ได้ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบกับโครงการนี้ พร้อมโชว์ภาพความเป็นเอกภาพของรัฐบาลผสมภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ตามภาพที่ปรากฏหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 เมษายน ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยืนแถลงข่าวโดยมีหัวหน้าพรรคการเมืองและเลขาธิการพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลผสมยืนเรียงแถวเป็นพระอันดับ

ในเวลานี้จึงมีคำถามของผู้คนในสังคมว่า พรรคการเมืองอื่นที่ไปร่วมเป็นรัฐบาลผสมกับพรรคเพื่อไทยนั้น “พายเรือให้โจรนั่ง” หรือ “นั่งเรือที่โจรพาย”

สำคัญที่สุด เวลานี้ “ทักษิณ ชินวัตร” สามารถกระชับอำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งโครงการ“ดิจิทัล วอลเล็ต”นี้ ใครก็รู้ว่า“ทักษิณคิด-เพื่อไทยทำ” และจะต้องเอาให้ได้ แม้กระทั่งเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แบงก์ชาติไม่เล่นด้วยกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยังคงไว้ที่ 2.5 เปอร์เซ็นต์ ก็หันไปใช้วิธีบีบธนาคารพาณิชย์

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (25 เมษายน) สมาคมธนาคารไทยได้แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสมาคมธนาคารไทยได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 24 เมษายนให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) 0.25 เปอร์เซ็นต์ สำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME เป็นเวลา 6 เดือน ทั้งนี้เป็นผลมาจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน ได้เชิญผู้บริหารของ 4 แบงก์ใหญ่ คือ ไทยพาณิชย์ กสิกรไทย กรุงไทย และธนาคารกรุงเทพ เข้าหารือที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา

และวันเดียวกับที่สมาคมธนาคารไทยแถลงเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี“เศรษฐา 2”ที่ลงตัวแบบเรียบร้อย“บ้านจันทร์ส่องหล้า”นั้น

นายเศรษฐา ทวีสิน ผู้มีสถานภาพเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ พร้อมนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล ก็เข้ารายงานตัวพร้อมกินข้าวมื้อกลางวันกับนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ที่โรงแรม“โรสวูด กรุงเทพฯ” โรงแรมหรูระดับห้าดาวกลางเมืองหลวงละแวกถนนเพลินจิต ที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ว่า เป็น“โรงพยาบาลทิพย์”อีกแห่งหนึ่งที่ทักษิณพำนักช่วงรักษาอาการป่วยวิกฤตบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ

สรุปแล้ว ใครเป็นพระเอกใครเป็นโจรนั้น คงแยกแยะได้ไม่ยาก เพราะคนที่มี“ศีลเสมอกัน”เท่านั้นถึงจะคบกันได้ !

รุ่งเรือง ปรีชากุล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:19 น. ไทยเจ้าภาพจัดแข่งขันภูมิศาสตร์โอลิมปิกครั้งที่21
13:17 น. จำแทบไม่ได้! ตำนานสาวหน้าเด็กตลอดกาล 'นิโคล เทริโอ'กับนิวลุคย้อนวัย
13:11 น. ‘ชูวิทย์’กลับมาแล้ว! ขยี้วงจร‘ธุรกิจการเมือง’เรื่องจริงที่น่าสมเพช
13:03 น. เกษตรฯร่วมงานJapan-ASEAN Startup Business Meeting Fair 2025
12:57 น. แค่ครึ่งเดือนยาบ้าทะลักเชียงราย 8 ล้านเม็ด ยึดอาวุธปืนรวบผู้ต้องหาเพียบ
ดูทั้งหมด
'ญี่ปุ่น'อัปเกรดพันธมิตร! เตรียมส่ง'ยุทโธปกรณ์'เสริมเขี้ยวเล็บไทย-7ชาติ
วินาทีตัดสินใจของ'พีระพันธุ์' คือจุดเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย
กัมพูชาราคาน้ำมันพุ่ง เริ่มขาดแคลน 'พนักงานบ่อนปอยเปต'โอดบ่อนเตรียมปิดสิ้นเดือนนี้
นักวิชาการลงชื่อ‘ถวายฎีกา’ ขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยแก้ไขปัญหาวิกฤติชาติบ้านเมือง
ดาวเทียมเปิดภาพช็อก! 3โรงงานนิวเคลียร์'อิหร่าน'พินาศ หลังโดนสหรัฐฯถล่มเจาะลึกใต้ดิน
ดูทั้งหมด
รัฐบาลโจร
ไทยต้องไม่สะทกสะท้านกับฮุนเซน
‘อุ๊งอิ๊งค์ออกไป’ไล่ส่ง‘สมศักดิ์เรียงหิน’
จบแบบลิเก
ดันก.ม.นิรโทษกรรมแบบใด?
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

จำแทบไม่ได้! ตำนานสาวหน้าเด็กตลอดกาล 'นิโคล เทริโอ'กับนิวลุคย้อนวัย

แนวหน้าวิเคราะห์ : การันตี 3 ปราสาทเป็นของไทย ตรวจสอบประวัติความเป็นมา

รวบแล้วหญิงกัมพูชาพิการ ทำตัวกร่างหน้าด่านคลองลึก ขบวนการแก๊งขอทานเถื่อน

จับช่างแอร์ต่างด้าว! หัวร้อนท้าทายตำรวจ อ้างเดี๋ยวลูกพี่คนไทยมาช่วย

หญิงกัมพูชาหน้าคุ้นๆ โวยหน้าด่านคลองลึก ที่แท้ลอบนั่งขอทานย่านบางกะปิ

‘วิรังรอง’เรียกร้อง‘ดร.อานนท์-55 นักวิชาการ’ยกเลิกถวายฎีกา

  • Breaking News
  • ไทยเจ้าภาพจัดแข่งขันภูมิศาสตร์โอลิมปิกครั้งที่21 ไทยเจ้าภาพจัดแข่งขันภูมิศาสตร์โอลิมปิกครั้งที่21
  • จำแทบไม่ได้! ตำนานสาวหน้าเด็กตลอดกาล \'นิโคล เทริโอ\'กับนิวลุคย้อนวัย จำแทบไม่ได้! ตำนานสาวหน้าเด็กตลอดกาล 'นิโคล เทริโอ'กับนิวลุคย้อนวัย
  • ‘ชูวิทย์’กลับมาแล้ว! ขยี้วงจร‘ธุรกิจการเมือง’เรื่องจริงที่น่าสมเพช ‘ชูวิทย์’กลับมาแล้ว! ขยี้วงจร‘ธุรกิจการเมือง’เรื่องจริงที่น่าสมเพช
  • เกษตรฯร่วมงานJapan-ASEAN Startup Business Meeting Fair 2025 เกษตรฯร่วมงานJapan-ASEAN Startup Business Meeting Fair 2025
  • แค่ครึ่งเดือนยาบ้าทะลักเชียงราย 8 ล้านเม็ด ยึดอาวุธปืนรวบผู้ต้องหาเพียบ แค่ครึ่งเดือนยาบ้าทะลักเชียงราย 8 ล้านเม็ด ยึดอาวุธปืนรวบผู้ต้องหาเพียบ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

‘อุ๊งอิ๊งค์ออกไป’ไล่ส่ง‘สมศักดิ์เรียงหิน’

‘อุ๊งอิ๊งค์ออกไป’ไล่ส่ง‘สมศักดิ์เรียงหิน’

26 มิ.ย. 2568

‘93 ปี’ประชาธิปไตยเบ่งบาน‘ไล่แพทองธาร’

‘93 ปี’ประชาธิปไตยเบ่งบาน‘ไล่แพทองธาร’

25 มิ.ย. 2568

‘แพทองธาร’ออกไป-ออกไป!

‘แพทองธาร’ออกไป-ออกไป!

24 มิ.ย. 2568

เฮือกสุดท้ายของ‘โมฆสตรี-แพทองธาร’

เฮือกสุดท้ายของ‘โมฆสตรี-แพทองธาร’

23 มิ.ย. 2568

‘แพทองธาร’ต้องลาออก

‘แพทองธาร’ต้องลาออก

20 มิ.ย. 2568

‘แพทองธาร’เข้าข่าย‘ขายชาติ’เป็น‘ไส้ศึกเขมร’?

‘แพทองธาร’เข้าข่าย‘ขายชาติ’เป็น‘ไส้ศึกเขมร’?

19 มิ.ย. 2568

ตั้งถูกคน‘บิ๊กเล็ก’แม่ทัพใหญ่รบเขมร

ตั้งถูกคน‘บิ๊กเล็ก’แม่ทัพใหญ่รบเขมร

18 มิ.ย. 2568

หยุดเขมรได้ถ้า‘แพทองธาร’พ้นนายกฯ

หยุดเขมรได้ถ้า‘แพทองธาร’พ้นนายกฯ

17 มิ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved